เป็นเรื่องใหญ่มากสำหรับแวดวงการเมืองไทย เมื่อวันที่ 8 พ.ค. แพทยสภา มีมติให้แพทย์ที่เกี่ยวข้องกับการที่ “อดีตนายกฯแม้ว” ทักษิณ ชินวัตร รักษาตัวชั้น 14 มีความผิดในการเขียนใบเวชระเบียน เพราะที่ประชุมแพทยสภามีความเห็นว่า “ไม่ได้มีหลักฐานเชิงประจักษ์ชัดเจน ว่าป่วยวิกฤติจริง” เรื่องนี้ผู้สื่อข่าวไปรอถาม “นายกฯ อิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร ภายหลังเสร็จสิ้นพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง

นายกฯ อิ๊งค์ ปฏิเสธให้สัมภาษณ์ กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า “ชุดขาว” ซึ่งนายกฯ สวมชุดปกติขาวมาร่วมพระราชพิธี เจ้าตัวหันไปถาม นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ว่า “ชุดขาวไม่ได้ใช่หรือไม่” และเดินทางกลับ

“เลขาบอย” สรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เรื่องของแพทยสภา ไม่อยากให้เอามาเกี่ยวกับการเมือง เกี่ยวกับพรรค ประเด็นของอดีตนายกฯ แม้ว ก็ว่ากันไปตามกระบวนการ การเมืองจะร้อนแรงหรือไม่ ขึ้นอยู่กับสื่อมวลชน เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับว่าจะทำให้การทำงานของรัฐบาลสะดุดลง

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ซึ่งมีฐานะเป็นสภานายกพิเศษ จะต้องพิจารณาสั่งให้เป็นไปตามมติกรรมการแพทยสภา กล่าวว่า ตามกฎหมาย รมว.สาธารณสุข มีระยะเวลาพิจารณา 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับมติของแพทยสภา แต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับ ที่หลายฝ่ายพยายามกดดัน หรือชี้นำสังคมว่าเขาจะยับยั้งมติแพทยสภา ก็ขอให้เข้าใจกรอบข้อกฎหมายด้วย ขออย่าชี้นำสังคมให้เป็นไปตามสิ่งที่ตัวเองต้องการ เพราะจะถือว่าไม่ได้ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
แหล่งข่าวจากกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า หากนายสมศักดิ์ มีคำโต้แย้งมติแพทยสภา เรื่องจะถูกส่งกลับมาที่คณะกรรมการแพทยสภาชุดใหญ่เพื่อพิจารณาว่า คำโต้แย้งนั้นมีเหตุผลที่สามารถรับฟังได้หรือไม่ หากเห็นว่าคำโต้แย้งมีน้ำหนัก ก็จะมีการกลับเข้าสู่กระบวนการสืบสวนสอบสวนในประเด็นข้อโต้แย้ง แต่หากเห็นว่าคำโต้แย้งไม่มีเหตุผลเพียงพอ คณะกรรมการสามารถมีมติรับรองมติเดิมได้เลยด้วยเสียง 2 ใน 3 พร้อมทั้งพิจารณากำหนดระยะเวลาการพักใช้ใบอนุญาตแพทย์ที่ถูกลงโทษได้ โดยไม่จำเป็นต้องส่งกลับไปให้สภานายกพิเศษรับรองอีก
แต่หากจำนวนกรรมการรับรองไม่ถึง ต้องกลับเข้าสู่กระบวนการสืบสวนสอบสวนตามข้อโต้แย้งอีก ดังนั้นถือว่าตอนนี้เรื่องจึงยังไม่จบ คิดว่าน่าจะอีกประมาณ 1 เดือนจากนี้ ที่ผ่านมา เมื่อกรรมการแพทยสภาชุดใหญ่มีมติเกี่ยวกับเรื่องใดส่งถึงสภานายกพิเศษ สภานายกพิเศษก็จะให้การรับรอง แทบไม่มีการโต้แย้งมติกลับมา

“บรู๊ค” ดนุพร ปุณณกันต์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงมติแพทยสภาว่า ในพรรคยังไม่มีการพูดคุยกัน เพราะอยู่ในช่วงของการปิดสมัยประชุม ส่วนที่ในโซเชียลมีการออกมาแซะตนเองกรณีที่เคยแถลงข่าวว่านายทักษิณ มีอาการป่วยวิกฤติจริงนั้น ยืนยันว่า ไม่เคยพูดว่าวิกฤติเลย พูดเท่าที่ได้รับทราบมาเท่านั้นว่าท่านป่วย และได้รับการผ่าตัด ไม่ใช่หน้าที่ต้องไปแถลงด้วยซ้ำ เพราะนายทักษิณไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค แต่พูดเพราะมีคนมาถามมาก
“คำว่าวิกฤติของแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน ถ้ายกตัวอย่างเป็นญาติของตนมีอาการป่วยถึงขั้นผ่าตัด ตนก็ต้องบอกว่าถึงขั้นวิกฤติแล้ว แต่ในมุมของแพทย์อาจจะมองว่า ไม่วิกฤติ” โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าว ซึ่งเมื่อย้อนไปวันที่ 20 ก.พ. 67 โฆษกบรู๊คเคยแถลงว่า อดีตนายกฯ แม้วมีหลายโรครุมเร้า เส้นเอ็นเปื่อยยุ่ย และได้รับการผ่าตัดด้วย แถมยังติดโควิด

“บิ๊กต่าย” พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. กล่าวว่า ได้สั่งการให้กองวินัยเตรียมพร้อมตรวจสอบข้อเท็จจริงหากมีการแจ้งเรื่องมาอย่างเป็นทางการ หากเป็นแพทย์ตำรวจที่ถูกพักใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม ต้องหยุดปฏิบัติงานด้านการรักษาพยาบาลทันที และอาจมีการระงับค่าตอบแทนพิเศษสำหรับตำแหน่งในวิชาชีพนั้นๆ ต่อไปพิจารณาว่ามีความผิดทางวินัยตำรวจข้อใดบ้าง ตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ และกฎคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ว่าด้วยการบริหารวินัย ตร. การจะดำเนินคดีอาญาก็ต้องให้มีร้องทุกข์กล่าวโทษมาก่อน
เมื่อแพทยสภามีมติมา กองแช่งก็ขย่มเสถียรภาพรัฐบาลทันที “บิ๊กตู่ใหญ่” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่า เรื่องนี้แพทย์ผิดวินัยร้ายแรงต้องไล่ออก ไม่ใช่แค่การตักเตือนและพักใช้ใบอนุญาตเท่านั้น ศาลอาจจะตั้งประเด็นว่าการส่งตัวนายทักษิณไปรักษาตัวที่ชั้น 14 มีการขออนุญาตศาลหรือไม่ หากไม่มีการขออนุญาต แสดงว่าขัดต่อ มาตรา 146 กรณีการทุเลาบังคับคดี และชะลอการลงโทษไว้ก่อน ก็ถือว่าเป็นการละเมิดอำนาจศาล หากยังไม่ได้ติดคุก ก็สามารถออกหมายแดงขังได้เลย ป.ป.ช.ไม่ต้องรอเวชระเบียนแล้ว สามารถสรุปความผิดได้ สามารถเรียกแพทยสภาเอาเอกสารหลักฐานมาตรวจสอบได้เลย
“ปกตินายทักษิณค้ำลูกสาวอยู่ แต่ไม่ได้ค้ำรัฐบาล น.ส.แพทองธารอยู่ได้เพราะพ่อ หลายเรื่องไม่มีปัญญาพูด อย่างเรื่องภาษีสหรัฐอเมริกา ที่นายทักษิณต้องเสนอตัวไปพูดแทนลูก เชื่อว่าหากทักษิณร่วง อิ๊งค์ก็ร่วง แค่มีคนยื่นสอบจริยธรรมกรณีที่นายกฯ เคยบอกว่าพ่อป่วยและผ่าตัดด้วย เรื่องนี้ก็ผิดจริยธรรม ทำให้อยู่ไม่ได้ สิ่งที่ดีที่สุดควรยุบสภา ลาออกไปก่อนศาลจะวินิจฉัย นายทักษิณอาจจะยังไปไหนไม่ได้เพราะต้องขออนุญาตศาลเพราะมีคดีติดตัวอยู่ แต่ น.ส.แพทองธาร หากจะเผ่นก็เผ่นไปตั้งหลักก่อน ไม่เช่นนั้นจะต้องไปอยู่เรือนจำเหมือนพ่อ”

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี กล่าวว่า เชื่อว่าผลของแพทยสภาจะถูกไปใช้ประโยชน์ที่ ป.ป.ช. และศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่จะมีการไต่สวนเร็วๆ นี้ ส่วนการลงโทษอาญาผู้บริหารที่เกี่ยวข้องทั้งหมดนั้นคิดว่าน่าจะตายยกรัง ตัวการใหญ่ที่เป็นนักโทษศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง น่าจะใช้ประโยชน์จากผลสอบของแพทยสภาได้มากเพราะเขายังไม่ติดคุก มีขบวนการช่วยเหลือเขา สุดท้ายเชื่อว่าเขาหนี
อีกเรื่องหนึ่งคือ “สภามหาสนุก” ของบต่อเติมเยอะเกือบพันล้าน จนน่าสนใจว่า รายจ่ายแต่ละอย่างเขาให้เหตุผลอะไร วันที่ 9 พ.ค. นายประเสริฐ บุญเรือง สส.กาฬสินธุ์ พรรคเพื่อไทย ประธาน กมธ.กิจการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการเสนอสร้างโรงภาพยนตร์ 4D ในอาคารรัฐสภาว่า ต้องการให้สภาเป็นสภาที่เปิดเต็มรูปแบบ เป็นศูนย์การเรียนรู้ของพี่น้องประชาชน รัฐสภาสร้างด้วยเม็ดเงินมหาศาล 2-3 หมื่นล้านบาท จึงอยากให้ประชาชนเข้ามาเรียนรู้ด้วย
“จะฉายเรื่องประวัติศาสตร์ การเมือง และโลกอนาคต ยอมรับว่า นำรูปแบบมาจากการไปดูงานที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) รายละเอียดต่างๆ จะแถลงข่าวในวันที่ 13 พ.ค. เรื่องรูปแบบการนำเสนอก็เพื่อจูงใจ ถ้าแค่เข้ามาดู สส., สว.ประชุม อาจไม่สร้างบันดาลใจต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นสำหรับเด็กนักเรียน นักศึกษา และผู้สนใจทางการเมือง รูปแบบของการทำระบบจะเป็นเรื่องของประวัติศาสตร์การเมือง เป็นการสร้างแรงจูงใจ ถ้าใช้คนไปบรรยาย ถามจริงๆ จะดึงความสนใจคนได้ไหม เราเน้นฉายเรื่องราวประวัติศาสตร์ ไม่ใช่จะบอกว่าเอาหนังมาฉายเป็นเอ็นเตอร์เทน”
ปิดท้ายด้วย “รมช.หนิม” จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ให้สัมภาษณ์ว่า นายกฯ ได้สั่งการชัดเจนให้กลับมาทบทวนกลไกในการกระตุ้นเศรษฐกิจ และระหว่างนี้ให้ทำการบ้านมากขึ้น เพื่อให้เศรษฐกิจไทยเติบโตเพียงพอที่จะรองรับความต้องการของประชาชน นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง จะนัดหมายคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจประชุม คาดว่าเร็วที่สุดสัปดาห์หน้า เพราะต้องขับเคลื่อนโดยองค์รวม
มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต้องมานั่งดูกันใหม่หมด เอาเครื่องมือที่เรามีอยู่ในมือทั้งหมดมากาง ดูภาคท่องเที่ยว การลงทุน การจ้างงาน ต้องออกมาตรการเพื่อให้มาตรการมาสอดรับกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้น เรื่องเงินดิจิทัลเฟส 3 ให้กลุ่ม 16-20 ปี ก็ขอให้รอดู ขณะนี้อยู่ในระหว่างการทบทวนรายละเอียด