เมื่อวันที่ 9 พ.ค. 68 นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) โพสต์ภาพป้ายชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ พร้อมระบุข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า เรื่องกรณีชั้น 14 ที่แพทยสภาได้ออกมาแถลงต่อประชาชน ว่าจะมีการลงโทษต่อแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับกรณีชั้น 14 อีกทั้งไม่ได้มีหลักฐานเชิงประจักษ์ที่ชัดเจน ว่ามีภาวะวิกฤติของอดีตนายกรัฐมนตรี เกิดขึ้น ซึ่งเรื่องนี้สอดคล้องกับรายงานของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน ที่เคยออกไปแล้วก่อนหน้านี้ ทั้งหมดนี้ล้วนยืนยันไปในทิศทางเดียวกับที่ผมเคยอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่าบิดาของท่านนายกฯ ป่วยทิพย์

นายรังสิมันต์ ระบุว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องอะไรที่ซับซ้อน เป็นเรื่องที่เห็นกันอย่างชัดเจน ว่าภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีที่ชื่อแพทองธาร ชินวัตร การช่วยเหลือพ่อ ทำลายกระบวนการยุติธรรมทุกรูปแบบ คือวาระสำคัญที่สุดของรัฐบาลชุดนี้ เป็นเรื่องที่น่าเศร้าที่แม้จะมีความชัดเจนขนาดนี้ เรากลับยังเห็นกระบวนการยุติธรรมที่บิดเบี้ยวขึ้นอยู่ตรงหน้าโดยที่เราทำอะไรได้น้อยมาก องค์กรอย่าง ป.ป.ช. ก็มีความคืบหน้าน้อยมาก จนน่าสงสัยว่าความสัมพันธ์ของประธานสภาผู้แทนราษฎรและประธาน ป.ป.ช. ตามที่ได้ถูกอัดเทปวิดีโอ จะเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินกระบวนการยุติธรรมต่อกรณีชั้น 14 มากน้อยเพียงไร อย่างไรก็ดี เมื่อแพทยสภามีความคืบหน้าถึงเพียงนี้ หน่วยงานที่มีหน้าที่ต้องปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น ควรจะเห็นต่อผลประโยชน์ของประเทศชาติ ดำเนินการให้เกิดความรวดเร็ว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ผู้รู้เห็นทุกอย่าง ต้องถูกเรียกมาสอบได้แล้ว

“ถ้าถึงขนาดที่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าคุณทักษิณ นอนไถมือถืออยู่ชั้น 14 ได้ โดยไม่มีคนต้องรับผิดอะไร ต่อไปนี้ใครมีเส้นสาย มีอำนาจ มีเงิน ก็จะใช้ชั้น 14 โมเดล เพื่อไม่ต้องติดคุกกันแบบนี้” นายรังสิมันต์ กล่าว.