ตอบข้อสงสัยแนวทางการจัดกากอุตสาหกรรม กรมโรงงานฯ มีวิธีคัดเลือกพื้นที่เข้าไปดำเนินการอย่างไร “พรยศ” ระบุว่า วิธีการคัดเลือกพื้นที่ของกรมโรงงานฯ จะพิจารณาจากพื้นที่ที่ศาลมีคำพิพากษาให้ริบ และส่งมอบของเสียให้หน่วยงานที่รับผิดชอบควบคุมวัตถุอันตราย เพื่อทำลายหรือจัดการตามที่เห็นสมควร โดยศาลมีคำสั่งในคำพิพากษาให้ผู้ประกอบการที่กระทำความผิดต้องชำระค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในการทำลายหรือจัดการแก่ทางราชการด้วย หรือพื้นที่ที่กรมโรงงานฯ มีการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายเสร็จสิ้นแล้ว โดยพนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจสั่งให้ผู้กระทำผิด หรือเจ้าของพื้นที่ และบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องนำวัตถุอันตรายที่ครอบครองไว้โดยไม่ได้รับอนุญาต นำไปบำบัด หรือกำจัดให้ถูกต้อง โดยกำหนดให้ดำเนินการจัดการให้ถูกต้องตามหลักวิชาการตามกรอบระยะเวลาที่กำหนดเท่านั้น! หากครบกำหนดระยะเวลาตามคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ และเจ้าของพื้นที่และบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องไม่ดำเนินการ หรือไม่มีหนังสือขอขยายระยะเวลา ถือว่ายังไม่อาจปฏิบัติตามคำสั่งทางปกครองข้างต้นให้แล้วเสร็จได้ ทางกรมโรงงานฯ จะเข้าไปดำเนินการนำของเสียอันตรายหรือของเสียเคมีวัตถุ ซึ่งเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 ที่ครอบครองไว้โดยไม่ได้รับอนุญาต ไปจัดการให้ถูกต้องตามหลักวิชาการ ไม่กระทบต่อชุมชน และสิ่งแวดล้อมเอง
สำหรับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น เบื้องต้นทางกรมโรงงานฯ จะใช้งบประมาณที่ได้รับจัดสรรจ่ายไปก่อน เพื่อเร่งแก้ปัญหา และลดผลกระทบประชาชนในพื้นที่ เพราะหากล่าช้า ประชาชนในพื้นที่อาจได้รับผลกระทบมากขึ้น หลังจากนั้นเจ้าของพื้นที่ หรือผู้กระทำผิด จะต้องชดใช้ค่าใช้จ่าย และเงินเพิ่มรายวันในอัตรา 25% ต่อปีของค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้กรมโรงงานฯ

ทั้งนี้ กรม โรงงานฯ ได้เริ่มดำเนินการเข้าไปจัดการกากอุตสาหกรรมหรือของเสียอันตรายหรือของเสียเคมีวัตถุเองตั้งแต่ปี 66 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่อยู่โดยรอบพื้นที่ รวมถึงลดผลกระทบจากการแพร่กระจายของมลพิษสู่สิ่งแวดล้อม
“การจัดการกากอุตสาหกรรมให้เข้าสู่ระบบการจัดการที่ดีถือเป็นเรื่องสำคัญ เป็นปัจจัยพื้นฐานรองรับการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมอย่างสมดุล เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุน รวมทั้งสร้างความเชื่อถือและความไว้วางใจจากประชาชนทั่วประเทศ เป็นเรื่องที่กรมโรงงานฯ ให้ความสำคัญในการดำเนินการต่อไปให้ดีที่สุด” พรยศ กล่าวทิ้งท้าย.