เมื่อวันที่ 7 พ.ค.68 ที่สภ.มะขาม จ.จันทบุรี พ.ต.อ.ธราเทพ ตูพานิช รอง ผบก.ภ.จว.จันทบุรี พร้อมด้วยนายมณฑล เวชชาญไชย หัวหน้าเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำคีรีธาร และเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมหารือเกี่ยวกับกรณีการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ “ป่าปัถวี” อ.มะขาม จ.จันทบุรี โดยพบการบุกรุกจำนวน 27 แปลง รวมพื้นที่ทั้งหมด 131 ไร่ 3 งาน 81 ตารางวา
ศปทส.กก.ตชด.11 ลงพื้นที่ติดตามการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง ‘เกาะ100ไร่’

โดยพื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตที่โครงการไฟฟ้าพลังน้ำคีรีธาร ได้รับอนุญาตเข้าทำเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าปัถวี จะมีการก่อสร้างอาคารโรงไฟฟ้า สำนักงาน บ้านพักข้าราชการ และพื้นที่เก็บวัสดุ อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบพื้นที่ล่าสุดพบราษฎรจำนวน 23 แปลง มีการทำประโยชน์โดยปลูกพืชเกษตร เช่น ทุเรียนและสละ จำนวน 15 ราย ส่วนอีก 4 แปลง พบการแผ้วถางเพื่อปลูกทุเรียน ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบหาตัวผู้กระทำผิด เพื่อดำเนินการสอบสวนและแจ้งข้อกล่าวหาตามกฎหมาย
ภายหลังการประชุม เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษ ภ.จว.จันทบุรี พร้อมตำรวจ สภ.มะขาม เจ้าหน้าที่โครงการ และฝ่ายปกครองอำเภอมะขาม ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบการบุกรุกพื้นที่โครงการ พบ 1 ใน 27 แปลง เป็นของอดีตผู้ใหญ่บ้าน มีการปลูกทุเรียนอายุประมาณ 4 ปี บนพื้นที่ 3 ไร่ และใช้น้ำประปาหมู่บ้านในการดูแลสวน

นอกจากนี้ ยังพบอีกหนึ่งแปลงขนาด 8 ไร่ ปลูกทุเรียนอายุราว 10 ปี ซึ่งอยู่ในพื้นที่ของสำนักสงฆ์ โดยสำนักสงฆ์ดังกล่าวยังไม่ได้รับการรับรองจากการขึ้นทะเบียน จากสำนักพุทธศาสนา ในพื้นที่ป่าปถวี จากการสอบถามพระลูกวัดทราบว่ามีพระอาศัยอยู่ 3 รูป แต่ปัจจุบันป่วยไปรักษาตัวที่กรุงเทพฯ 2 รูป เหลือเพียง 1 รูป ที่ยังพำนักอยู่มาเป็นระยะเวลากว่า 10 ปี
สำหรับมาตรการในการจัดการพื้นที่บุกรุก ทางเจ้าหน้าที่จะออกหมายเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องมาสอบสวนและรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างรวมถึงต้นไม้ที่ยังไม่มีผลผลิต ส่วนพื้นที่ที่มีผลผลิตและรอการเก็บเกี่ยว จะอนุโลมให้ดำเนินการเก็บเกี่ยวได้ถึงสิ้นเดือนสิงหาคม 2568 และในวันที่ 16 พฤษภาคมนี้ ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน จะเดินทางมาตรวจสอบความคืบหน้าด้วยตนเอง

สำหรับโครงการพลังงานไฟฟ้าพลังน้ำคีรีธาร มีแผนการขยายพื้นที่กักเก็บน้ำจากระดับเดิมที่ 205 ม.รทก. เป็น 400 ม.รทก. (เมตรระดับน้ำทะเลปานกลาง) ซึ่งจะทำให้ระดับน้ำสูงขึ้น 1-2 เมตร จึงจำเป็นต้องตรวจสอบพื้นที่โดยรอบอย่างละเอียดเพื่อป้องกันอันตรายต่อชาวบ้าน โดยแผนการขยายดังกล่าวมีกำหนดดำเนินการในปี 2570 สำหรับชาวบ้านที่ทำกินในพื้นที่ ทางผู้ใหญ่บ้านได้กล่าวว่า ควรให้โอกาสในการย้ายออกจนถึงปี 2570 เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการดำรงชีวิต
พ.ต.อ.ธราเทพ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบผู้ทำกินเกือบทั้งหมดแล้ว เหลือเพียง 3-4 แปลง ที่ยังอยู่ระหว่างการสืบสวนหาผู้ครอบครอง ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่กำลังเร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายเรียกผู้ถูกกล่าวหามาชี้แจงต่อพนักงานสอบสวน

สำหรับความคืบหน้าบริเวณ “เกาะ 100 ไร่” ที่ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานได้ลงพื้นที่ไปแล้วนั้นพบว่าชาวบ้านได้เริ่มรื้อถอนอุปกรณ์ออกไปแล้ว และปล่อยให้ต้นทุเรียนยืนต้นตายในพื้นที่ ซึ่งที่ประชุมมีมติให้ดำเนินคดีกับผู้ที่ก่อสร้างทางเชื่อมเกาะดังกล่าว โดยยังไม่ได้มีการแจ้งความแต่อย่างใด
ซึ่งรองผู้บังคับการยืนยัน ทางตำรวจเตรียมรับเรื่องและดำเนินการต่อไปอย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะเร่งตรวจสอบและออกหมายเรียกเพื่อสอบสวนผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดในเร็วๆ นี้ พร้อมเร่งดำเนินการตามกระบวนการกฎหมายเพื่อรักษาพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติให้กลับสู่สภาพเดิม

