เมื่อวันที่ 7 พ.ค. พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ว่า ที่ประชุมได้ติดตามการขับเคลื่อนการยกระดับคุณภาพการศึกษา ซึ่งอยากให้สอดรับกับการเตรียมความพร้อมเปิดภาคเรียนที่ 1 ในวันที่ 16 พ.ค.นี้ ดังนั้นขอให้สถานศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ได้เตรียมความพร้อมทุกมิติอย่างรอบด้านด้วย นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้เร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณประจำปีงบประมาณ 2568 ซึ่งภาพรวมของการใช้จ่ายงบประมาณมีภาพรวมยอดการใช้งบเชิงบวกมากขึ้น แต่ในรายละเอียดเชิงปลีกย่อยยังมีติดขัดอยู่บ้าง เช่น การจัดทำโครงการเรียนได้ทุกที่ทุกเวลา Anywhere Anytime ที่ยังอยู่ระหว่างการจัดทำประชาพิจารณ์ของการเช่าซื้ออุปกรณ์เสริมการสอนของนักเรียนและครู โครงการซ่อมแซมสิ่งปลูกสร้างอาคารเรียน และบางโครงการติดขัดระเบียบข้อกฎหมายของต่างประเทศ เป็นต้น ซึ่งตนได้ย้ำการใช้จ่ายงบประมาณจะต้องโปร่งใสและตรวจสอบได้ รวมถึงการเตรียมความพร้อมที่จะชี้แจงต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรถึงร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ที่จะมีการอภิปรายเกิดขึ้นปลายเดือนพ.ค.นี้
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ตนได้กำชับเรื่องการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ เอไอ มาใช้ประกอบการเรียนการสอนของครูและนักเรียนไม่ว่าจะเป็นการนำระบบ Gemini Al หรือ Gen AI เพื่อให้ลดภาระครู และทำให้ครูบริหารจัดการงานสอนได้รวดเร็วมากขึ้น อีกทั้งผู้เรียนสามารถค้นคว้าองค์ความรู้เสริมทักษะการเรียนของตัวเองได้ โดยอาจจะสอดแทรกกับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน เนื่องจากขณะนี้เทคโนโลยีเอไอมีบทบาทอย่างมากในโลกยุคปัจจุบัน ทั้งนี้ได้มอบหมายให้สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) เป็นเจ้าภาพในการจัดหาชุดความรู้ด้านเอไอ เพื่อจัดทำเป็นคู่มือการใช้เอไอประกอบการสอน หรือเป็นเอกสารเพิ่มเติมประกอบการเรียน และจะเริ่มนำเอไอมาใช้ประกอบการสอนในภาคเรียนที่ 2 นี้
“ในการประชุมดังกล่าวสภาการศึกษาได้รายงานสภาวะทิศทางการศึกษาไทยในปี 2040 ว่าจะมีทิศทางอย่างไร โดยผมได้มอบทุกหน่วยงานในสังกัดไปดูว่า ปัจจุบันการศึกษาเราอยู่ตรงไหน และจะวิ่งไปสู่การศึกษาในปี 2040 ได้อย่างไร เพื่อที่เราจะต้องวางเป้าหมายของการพัฒนาการศึกษาแห่งอนาคตได้อย่างตรงจุด” พล.ต.อ.เพิ่มพูน กล่าว