เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 15 เม.ย. ที่กองอำนวยการร่วม สน.บางซื่อ ห้างสรรพสินค้าเจเจมอลล์ รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังการประชุมสถานการณ์ประจำวัน ถึงความคืบหน้าการกู้ภัยซากอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่พังถล่ม ว่า ตลอดคืนที่ผ่านมา (14 เมษายน) เจ้าหน้าที่สามารถเคลียร์ความสูงของซากอาคารในทุกโซน (A, B, C และ D) ได้ตามแผนส่วนใหญ่

อย่างไรก็ตาม ปัญหาสำคัญในขณะนี้คือ เส้นเหล็กบางจุดที่กีดขวางการเข้าสำรวจโพรงต่างๆ ของทีมกู้ภัย ทำให้ในวันนี้มีการนำ เครื่องจักรตัดเหล็กเพิ่มเติมอีก 1 คัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการค้นหาและรื้อถอนซากอาคาร โดยขณะนี้ ความสูงของซากอาคารลดลงเหลือ 19 เมตรแล้ว

รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่พบ ร่างผู้เสียชีวิต 2 ราย บริเวณโซน C รวมถึง ชิ้นเนื้อจำนวน 24 ชิ้น ซึ่งได้นำส่งสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อพิสูจน์อัตลักษณ์แล้ว และในช่วงเช้าวันนี้ ผลการตรวจอัตลักษณ์ยืนยันผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย ส่งผลให้ ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว รวมเป็น 44 ราย บาดเจ็บ 9 ราย และยังคงมีผู้สูญหายที่อยู่ระหว่างการค้นหาอีก 50 ราย

สำหรับการพิสูจน์อัตลักษณ์ผู้ประสบภัยทั้งหมด 103 ราย จากรายชื่อที่ได้จากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) นั้น ขณะนี้สามารถพิสูจน์ได้แล้ว 91 ราย แต่ยังมีรายชื่อที่ตกหล่น ซึ่งทาง กทม. กำลังประสานกับเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเพื่อเร่งตรวจสอบให้ครบถ้วน รวมถึงจะประสานไปยังสำนักงานต่างประเทศของ กทม. และกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อเก็บข้อมูลอัตลักษณ์เพิ่มเติมจากชายแดนและสถานทูตเมียนมา

ในส่วนของการช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียชีวิต กระทรวงมหาดไทยได้อนุมัติเพิ่มวงเงินช่วยเหลือในการจัดการศพ เป็นศพละ 100,000 บาท โดยไม่จำกัดว่าเป็นหัวหน้าครอบครัวหรือไม่ และกำหนดจ่ายเงินช่วยเหลือลอตแรกสำหรับผู้ที่ได้รับการรับรองแล้วในวันที่ 18 เมษายน ที่กระทรวงมหาดไทย ซึ่งขณะนี้ กทม. กำลังเร่งดำเนินการพิสูจน์อัตลักษณ์ผู้เสียชีวิตเพื่อดำเนินการในส่วนนี้

ด้านความคืบหน้าทางคดี พ.ต.อ.สนอง แสงมณี ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ เปิดเผยว่า ทาง สน.บางซื่อ และกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 ได้แบ่งคณะทำงานสืบสวนสอบสวนในแต่ละประเด็น โดยในส่วนของการออกหมายเรียก นายปฏิวัติ ศิริไทย กรรมการผู้มีอำนาจลงนามผูกพันกับกิจการร่วมค้า PKW ที่ลงนามในสัญญาจ้างควบคุมงานก่อสร้างอาคาร สตง. กับสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินนั้น หมายเรียกได้ถูกนำไปติดไว้ที่บ้านพักในจังหวัดนนทบุรีแล้ว เพื่อให้เข้าให้ข้อมูลในฐานะพยาน

พ.ต.อ.สนอง กล่าวว่า นายปฏิวัติได้ประสานขอเลื่อนการเข้าพบพนักงานสอบสวนเป็นวันที่ 30 เมษายน 2568 แต่ทางตำรวจจะประสานให้มาพบเร็วขึ้นก่อนวันดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปเรื่องวันเวลาที่แน่นอน ส่วนประเด็นการปลอมลายเซ็นของวิศวกรที่ถูกแอบอ้างชื่อนั้น ยังต้องรอการสอบปากคำนายปฏิวัติก่อน ซึ่งขณะนี้ ตำรวจยังไม่ได้ออกหมายจับผู้ใดในคดีนี้ มีเพียงหมายเรียกเท่านั้น

ขณะที่ในวันที่ 17 เมษายนนี้ พล.ต.ต.สมควร พึ่งทรัพย์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานะหัวหน้าชุดสืบสวนสอบสวน จะเรียกประชุมคณะทำงานทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับคดีอาคาร สตง. ถล่ม ที่ สน.บางซื่อ ในเวลา 10.00 น. เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดีต่อไป