เมื่อวันที่ 28 มีนาคม ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เมืองทองธานี จ.นนทบุรี น.ส.ปลื้มจิตร์ ถินขาว หรือ “หน่อง ปลื้มจิตร์” พร้อมด้วย น.ส.วิลาวัณย์ อภิญญาพงศ์ หรือ กิ๊ฟ 2 อดีตนักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท., พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบก.สอท.1 หลังถูกบุคคลนำชื่อและรูป ไปแอบอ้างชักชวนประชาชนลงทุนลักษณะต่างๆ จนมีผู้เสียหายจำนวนมาก

น.ส.ปลื้มจิตร์ กล่าวว่า เดินทางเข้ามาแจ้งความครั้งนี้ หลังจากมีหลายคนส่งรูปภาพและคลิปวิดีโอของตน พร้อมระบุข้อความในลักษณะว่า “ถูกเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เรียกไปตรวจสอบเนื่องจากมีรายได้ต่อเดือนมากผิดปกติ และได้เดินทางเข้าไปแสดงความบริสุทธิ์แล้ว จึงไม่ได้ถูกดำเนินคดี แต่มีการลงทุนออนไลน์จริง” จากนั้นในคอมเมนต์ก็จะมีการแปะลิงก์เว็บไซต์ต่างๆ ทั้งหลอกลงทุนและเว็บพนันออนไลน์ นอกจากนี้ ยังมีการใช้รูปและโปรไฟล์ของตนในโลกโซเชียลหลายช่องทาง โดยเฉพาะติ๊กต็อก หลอกให้ประชาชนลงทุนออนไลน์ แปะลิงก์เว็บไซต์พนันออนไลน์ และแสดงความคิดเห็นทางการเมือง ซึ่งหลังทราบเรื่อง ตนรู้สึกตกใจมาก เพราะทำให้เกิดความเสื่อมเสียชื่อเสียงทั้งกับตนเองและวงการกีฬาวอลเลย์บอล จึงอยากมาเป็นกระบอกเสียงให้พี่น้องประชาชนทราบว่า ตนไม่ได้กระทำการในลักษณะดังกล่าว

น.ส.วิลาวัณย์ บอกเพิ่มเติมว่า ในส่วนของรูปที่มีการระบุข้อมูลอ้างว่า น.ส.ปลื้มจิตร์ ถูกเรียกตัวไปสอบสวนนั้น จะมีการใช้รูปบุคคลที่มีลักษณะท่าทางคล้ายปลื้มจิตร์ แต่เบลอหน้า ทำให้เกิดความเข้าใจผิด จนแม้แต่คนใกล้ตัวก็เข้าใจว่าเป็นปลื้มจิตร์เช่นเดียวกัน ตนจึงได้แนะนำให้เจ้าตัวมาแจ้งความ เพื่อเผยแพร่ข้อเท็จจริงสู่ประชาชนและเป็นอุทาหรณ์ให้กับพี่น้องประชาชนในการเสพข่าว รวมทั้งเป็นการปกป้องวงการกีฬาด้วย โดยช่วงที่มีการระบาดของเรื่องดังกล่าวมากที่สุด เป็นช่วงที่ น.ส.ปลื้มจิตร์ เพิ่งแข่งขันวอลเลย์บอลไทยแลนด์ลีกจบ โดยได้ตำแหน่ง MVP จึงตั้งข้อสังเกตว่า กลุ่มคนร้ายเหล่านี้ จะอาศัยช่วงที่บุคคลนั้นๆ มีข่าวดังในการก่อเหตุ

ขณะที่ พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่า ตำรวจไซเบอร์ ได้จัดพนักงานสอบสวนเพื่อรับคำร้องทุกข์จาก น.ส.ปลื้มจิตร์ แล้ว ซึ่งการกระทำในลักษณะดังกล่าว เป็นพฤติการณ์ของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่จะสร้างข่าวปลอมเพื่อให้ประชาชนสนใจ จึงใช้บุคคลสาธารณะที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก จากนั้นเมื่อประชาชนสนใจก็จะหลอกว่าบุคคลนั้นๆ มีรายได้จากอะไร ทำให้คนหลงเชื่อว่ามีการลงทุนจริง ซึ่งที่ผ่านมาก็เคยมีกรณีของ “คริส หอวัง” ที่โดนในลักษณะเดียวกัน จึงอยากให้เป็นอุทาหรณ์เตือนพี่น้องประชาชนว่า การกระทำลักษณะนี้เป็นรูปแบบหนึ่งของการหลอกลวง พร้อมขอให้พี่น้องประชาชนไตร่ตรองข้อมูลให้ดีก่อนลงทุน ควรลงทุนผ่านตลาดหลักทรัพย์ หรือกับบริษัทจริงๆ ไม่ควรลงทุนกับข่าวในโซเชียลหรือกดลิงก์ต่างๆ ในโซเชียล ส่วนการเข้าแจ้งความของ น.ส.ปลื้มจิตร์ ครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการปกป้องตนเอง และวงการกีฬาแล้ว ยังเป็นการปกป้องประชาชนจากการถูกหลอกลวงด้วย