จากกรณีเพจ “อีซ้อขยี้ข่าว” โพสต์ภาพพร้อมข้อความว่า “ดรามาระอุ “ร้านอาหารแอบถ่ายลูกค้าไปบอกคนรู้จัก” หลังมีหนุ่มคนหนึ่งเข้ามากินอาหารกับเพื่อนชาย แล้วเจ้าของร้านเกิดรู้จักกับแฟนของ ผู้ชายคนนี้ จึงถ่ายรูปไปบอกคนรู้จักทำให้ทั้งคู่ทะเลาะกันหนักถึงขั้นเลิกรากัน ซึ่งเรื่องนี้ได้มีการวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นจำนวนมาก ซึ่งบางมุมมองว่าร้านไม่ควรทำแบบนี้เพราะถือเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลและแนะนำให้ทางลูกค้าดำเนินการตาม กม. แต่บางมุมบอกว่าถ้ามองเรื่องศีลธรรม สมมุติลูกค้าแอบพากิ๊กมากินข้าวจริงๆ อีกฝ่ายก็ควรรับรู้จะได้ไม่ถูกสวมเขา ฯลฯ
ต่อมาผู้สื่อข่าวติดต่อไปยังเจ้าของเรื่องต้นโพสต์ดังกล่าวผ่านทางคนรู้จัก แต่ได้รับการปฏิเสธว่าไม่อยากเป็นข่าว และต้องการที่จะพักผ่อน หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวจึงไปติดต่อยังร้านอาหารที่ถูกกล่าวถึง โดยร้านดังกล่าวเปิดเป็นร้านอาหารอีสาน และพบกับคนต้นเรื่อง คือคนที่นำรูปส่งไปให้เพื่อนของตัวเองได้ดู คือ ชาย อายุ 25 ปี เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลาประมาณ 15.00-16.00น. ของเมื่อวานนี้ (26 มีนาคม 2568) ก่อนเกิดเหตุตนเห็นว่าผู้ชายคนดังกล่าว มานั่งรับประทานอาหารกับผู้ชายอีกคน ตนจึงเกิดความสงสัยว่าทำไมแฟนของผู้ชายคนนี้ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของตนด้วยถึงไม่มาด้วย จึงได้แคปรูปจากกล้องวงจรปิด แล้วส่งไปให้เพื่อนตนดู จนเกิดเป็นประเด็นดรามาขึ้นมา ยืนยันว่าตนไม่ได้แชร์ไปที่อื่น แค่ส่งให้เพื่อนได้ดูเพื่อต้องการสอบถามเท่านั้น
หลังเกิดเหตุการณ์ ชายคนดังกล่าวกลับมาที่ร้าน เพื่อเรียกร้องค่าเสียหาย ตนได้พยายามขอโทษไปแล้ว แต่ชายคนดังกล่าวก็ยังไม่จบ มีการไปโพสต์ข้อความในโซเชียล ถามความเห็นหาความรับผิดชอบจากทางร้าน ตนยอมรับว่าได้ละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของลูกค้าจริง แต่เพียงต้องการที่จะสอบถามเพื่อนสนิทเท่านั้นไม่ได้มีเจตนาอื่น เนื่องจากสนิทกับแฟนของผู้ชายคนนี้มาก โดยทั้งคู่เป็นคู่รัก LGBTQ
หลังจากที่เป็นเรื่องราวดรามาขึ้น ตนได้รับความเสียหายกระทบถึงร้านเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีคนนอกที่เข้ามาคอมเมนต์ในทางเสียหาย และยังเสียชื่อไปถึงครอบครัว เนื่องจากร้านที่ตนเปิดกิจการอยู่ เป็นธุรกิจของครอบครัวร่วมกันทำ ขณะนี้ได้แคปข้อความที่ทำให้ตนและทางร้านเสริมเสียไว้หมดแล้ว พร้อมกับปรึกษาทนายความเพื่อเตรียมตัวฟ้องดำเนินคดี
ตนได้ติดต่อกับเพื่อนสนิทหรือแฟนของชายคนดังกล่าว ทางเพื่อนยินดีที่จะเป็นธุระจัดการหากมีค่าใช้จ่ายในเรื่องของคดีความที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ทั้งหมด และเพื่อนของตนก็ไม่อยากออกมาเปิดเผยตัว เนื่องจากเป็นคนกว้างขวางในจังหวัดจันทบุรี มีคนรู้จักมาก
ขอบคุณเพจ โหนกระแส