สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 27 มี.ค. ว่า สหรัฐระบุมานานหลายปีแล้วว่า การที่จีนก้าวขึ้นมามีอำนาจในทุกด้าน ถือเป็นภัยคุกคามหลักของสหรัฐ และอยู่เบื้องหลังการปรับเปลี่ยนทางยุทธศาสตร์ในเอเชีย-แปซิฟิก ของอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา
อย่างไรก็ตาม รายงานการประเมินภัยคุกคามประจำปีของชุมชนข่าวกรองสหรัฐ ระบุว่า แรงกดดันจากการบีบบังคับของรัฐบาลปักกิ่ง ที่มีต่อไต้หวัน และปฏิบัติการทางไซเบอร์ในวงกว้างต่อเป้าหมายในสหรัฐ เป็นตัวบ่งชี้ถึงภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นต่อความมั่นคงแห่งชาติ
Today, @DNIGabbard released the 2025 Annual Threat Assessment (ATA) of the U.S. Intelligence Community. Read the assessment here: https://t.co/Uh2Bj0WvUB pic.twitter.com/1werdyi2ZD
— Office of the DNI (@ODNIgov) March 25, 2025
รายงานดังกล่าว ซึ่งรวบรวมการประเมินจากหน่วยข่าวกรองของสหรัฐ เตือนว่ารัฐบาลปักกิ่งจะขยาย “กิจกรรมอิทธิพลร้ายกาจที่บีบบังคับและบ่อนทำลาย” ต่อไป เพื่อทำให้สหรัฐอ่อนแอลงทั้งภายในประเทศ และในระดับโลก
ทั้งนี้ รายงานประเมินว่า แม้กองทัพของรัฐบาลปักกิ่ง เตรียมพร้อมที่จะท้าทายปฏิบัติการของสหรัฐในแปซิฟิก และมีความคืบหน้าที่มั่นคง แต่ไม่สม่ำเสมอ ในด้านขีดความสามารถที่จีนจะใช้ในความพยายามเข้ายึดไต้หวัน อย่างไรก็ตาม ผู้นำจีนจะพยายามลดความตึงเครียดกับสหรัฐ เพื่อปกป้องผลประโยชน์หลักของประเทศ และซื้อเวลาเสริมสร้างตำแหน่งของตนเอง
อนึ่ง รายงานของสหรัฐระบุเสริมว่า จีนมีความระมัดระวังมากกว่ารัสเซีย อิหร่าน และเกาหลีเหนือ ในเรื่องการแสดงท่าทีที่ก้าวร้าวและก่อกวนมากเกินไป แต่ในขณะเดียวกัน การยกระดับความร่วมมือของรัฐบาลปักกิ่งกับประเทศเหล่านี้ อาจสร้างความท้าทายใหม่ให้กับอำนาจของสหรัฐในระดับโลก.
เครดิตภาพ : AFP