เป็นอีกหนึ่งคู่รักที่เสิร์ฟโมเมนต์สายหวานฮาตลกอยู่เป็นประจำ สำหรับ “มายด์ ณภศศิ” อินฟลูฯ ชื่อดัง และหวานใจ “สงกรานต์ เตชะณรงค์” หลังล่าสุดสาวมายด์ได้โพสต์คลิปเบื้องหลังถ่ายแบบธีมชุดแต่งงาน ซึ่งพอแฟนๆ ได้เห็นคลิปดังกล่าว ก็พากันลุ้นถึงข่าวดีของสาวมายด์กับสงกรานต์ แถมพอสาวมายด์ได้สวมใส่ลุดเจ้าสาวออร่าจับ เปล่งประกายสวยสง่าอย่างมาก จนหลายคนเชียร์ให้จัดงานแต่งได้แล้ว

ล่าสุดในงานแถลงข่าวเปิดตัวแคมเปญ Chang Cold Brew Cool Club และการแข่งขันกอล์ฟไลฟ์สไตล์ Chang Club Championship 2025 สาวมายด์เปิดใจถึงข่าวดีที่ทุกคนลุ้น พร้อมทั้งภาพอนาคตที่เธอได้มองไว้ โดยสาวมายด์เผยว่า

“ล่าสุดคลิปที่ไปลองชุดเจ้าสาวจริงๆ ไปถ่ายแบบปกนิตยสาร วันนั้นไปถ่ายคู่กับ “พี่เกรซ กาญจน์เกล้า” นี่แหละ ไหนๆ ไปแล้วถือว่าเป็นการถ่ายแบบชุดเจ้าสาวครั้งแรก เป็นโอกาสแรกก็เลยทำคอนเทนต์ลง โชคดีที่คนชอบ หลายๆ คนมาคอมเมนต์กันเยอะ คนก็คิดว่าจะมีข่าวดี คือยังไม่มี ออร่าเจ้าสาวมาแล้ว เหมยตูหรือเปล่า (หัวเราะ) เราก็มีแต่งแสงบ้าง วันนั้นเป็นการลองชุดยกน้ำชา ลองชุดเยอะมาก รู้สึกว่าคนจะเป็นเจ้าสาวต้องอดทน ชุดมันหนักมากๆ ก็ชอบหลายชุดเลยค่ะ ชุดสวยมากๆ เป็นแนวงานปัก จริงๆ ไม่มีในใจ ถ้าชุดไหนที่ใส่แล้วมั่นใจ มายด์จะชอบชุดที่อาจจะเปิดด้านบนหน่อย แล้วกระโปรงบานๆ แต่พี่สงกรานต์เห็นคอนเทนต์หรือยัง ไม่รู้เลย (หัวเราะ) เขาได้ดูหรือยัง บางทีเขาก็ไม่ค่อยได้เล่นโซเชียลเท่าเรา มีส่งให้เขาดูมั้ยว่าชุดนี้สวยนะ ก็มีแอบส่งไปแกล้งๆ บ้าง แต่ไม่ได้แกล้งว่าชุดนี้สวยนะ ก็บอกว่าทำงาน ให้ดูว่าทำงาน ส่วนเรื่องที่มายด์ไม่ได้ถือเรื่องแต่งชุดเจ้าสาวก่อนแต่งงานจริง เขามีเคล็ดใช่มั้ย เพิ่งรู้ตอนนี้ล่ะ จริงๆ ก็อาจจะไม่ถือ เพราะว่าถ่ายไปแล้วเนอะ ไม่ทันแล้ว ซึ่งคู่เราสำหรับแพลนเรื่องแต่งงาน ถ้าเร็วๆ นี้ ยังไม่มีเลย จริงๆ ตอนนี้มีแต่คุยเรื่องการทำงาน ปีนี้มายด์กับพี่สงกรานต์มีทำอีกหนึ่งแบรนด์ด้วยกัน ถ้าใครเปิดไลฟ์ติ๊กต็อกจะเห็นตลอดเลย ปีนี้อยากจะมีหลายๆ โปรดักต์ที่ลงทุนร่วมกันในการทำงานมากกว่า แต่ข่าวดียังไม่มีแพลนเลยจริงๆ อยากทำงาน อย่างปีที่แล้วได้มีโอกาสทำแบรนด์กันทั้งคู่ ที่มายด์ทำครีมกันแดดเป็นอีกหนึ่งสเต็ปแล้ว เรามีประสบการณ์มากขึ้น ปีนี้เรามาลองลุยกันเอง มาเบรนสตรอมกัน ทำออฟฟิศด้วยกัน ซึ่งครอบครัวถามมั้ย คนรอบข้างเชียร์มั้ย คือคนรอบข้าง เพื่อนๆ เหรอ ก็ไม่นะ เอาจริงๆ เพื่อนมายด์แต่งงานไปเยอะมากๆ แล้วค่ะ มันเป็นวัยที่เพื่อนๆ มีครอบครัวแล้ว เขาก็คงไม่ได้มาถามเรา ส่วนคุณพ่อคุณแม่เห็นว่าเราโฟกัสกับงานอยู่ มันกำลังดี เขาก็ยังไม่ได้ถามอะไร แต่มายด์มีภาพในใจว่าถึงเวลาสมควรแล้ว ถามว่ามีมั้ย คือคิดว่าถ้าเกิดมาในชีวิตสักครั้ง ถ้ามีโอกาสได้แต่งงาน อยากลองมีความรู้สึกความเป็นแม่ ถ้ามีคนอยู่ในท้องคือเป็นฟีลแบบนั้นมากกว่า เกิดมาเราจะได้รับรู้รสชาติที่เขาบอกว่าคุณแม่พอมีลูก มายด์เซตเราจะเปลี่ยนไป แต่ไม่ได้คาดหวัง

อยากเป็นแม่คน ถ้าเกิดว่าถามนะ แต่ว่าจริงๆ อะไรก็ได้เลย รู้สึกว่ายังไม่ได้นึกถึงจุดนั้น ข้ามขั้นไปหลังแต่งงานเลย คือ มองเป็นเรื่องของความเป็นมนุษย์ สเต็ปในแต่ละอย่างของชีวิต วันนี้เราเติบโตมาถ้าเราทำงานแล้วมันมั่นคง ก็เป็นอีกฟีลหนึ่ง ถ้าเกิดว่าเราได้มีโอกาสเป็นแม่คน ส่วนเรื่องฝากไข่ ยังเลย ปีนี้จะ 34 แล้ว จริงๆ ก็มองแพลนไว้ แต่ว่ามันแพง ในใจก็คิดว่าถ้าวันหนึ่งมีโอกาสน้องอาจจะมาเอง ก็เลยยังไม่ได้ฝาก ก็มองๆ ไว้เหมือนกัน แล้วจริงๆ มายด์มีช็อกโกแลตซีสต์ในรังไข่ อาจจะเป็นคนที่ค่อนข้างมีบุตรยากเหมือนกัน ถ้าเกิดสุดท้ายแล้วจะมี ก็ต้องปรึกษาหมอ แต่ว่ายังไม่เคยไปตรวจว่ามีไข่เท่าไหร่ ซึ่งวัยเราอาจจะพร้อม แต่ว่าความสำเร็จของตัวเองที่อยากทำในเรื่องการทำงานยังไม่ที่สุด หนูยังอยากไปต่ออีกเน็กซ์สเต็ปขออีกนิดหนึ่ง กำลังสนุกด้วยแหละปีนี้ ถามว่าได้คุยเรื่องอยากมีน้องกับพี่สงกรานต์มั้ย จริงๆ ยังไม่ค่อยได้คุยเลย คุยกันแต่เรื่องว่าขึ้นไลฟ์วันไหน ขายของวันไหน ปีนี้อยากตั้งใจไลฟ์มากๆ ใครติดตามก็อาจจะเห็นมายด์ในติ๊กต็อกบ่อยขึ้น อย่าปัดหนี ซึ่งข้อดีของการมีแฟนเป็นหุ้นส่วน ในมุมมายด์มันมีข้อดี มันทำให้เรารู้จักกันมากขึ้นในหลายๆ มุมค่ะ คนรักกันไปนานๆ มันก็อาจจะมีเรื่องที่ขัดใจกัน แต่พอยิ่งทำงาน มันจะยิ่งรู้สึกอีกแบบหนึ่งเลย มายด์กับพี่กรานต์มันมีบางอย่างที่นิสัยเราอาจจะไม่ตรงกัน แต่สุดท้ายเราคุยปรับจูนกันได้ คิดว่าถ้าทำงานด้วยกันได้ อนาคตคิดว่าถ้ามีปัญหาอะไร เราคงมีทางลง มีจุดเคลียร์กันได้ ทะเลาะมั้ย มีบ้าง แต่ว่ามายด์เหมือนหยินกับหยางนิดหนึ่ง คือมายด์จะเป็นคนโกรธง่ายหายเร็ว จะไม่ค่อยเก็บอะไรมาคิด พี่กรานต์เขาจะนิสัยผู้ชายเนอะ มันต้องมีคนหนึ่งยอมขึ้นยอมลงกับทุกอย่าง ตรงนั้นเรามีจุดที่ปรับจูนกันเจอ แต่บางทีก็จะมีแบบนิดหน่อยบ้าง (เป็นมายด์ใช่มั้ยที่ลง) เป็นมายด์ที่ (หัวเราะ) เราก็จะเข้าใจกันมากกว่า หลังๆ เขาก็พยายามปรับตัวให้เราในมุมเขาเหมือนกัน เราก็พยายามเข้าใจกันมากขึ้น มันก็ต้องเปลี่ยนกันทีละนิดมาเจอกันตรงกลาง”