เมื่อวันที่ 26 มี.ค. พ.ต.ท.ณัฐพงษ์ ร่มไทร รอง ผกก.สอบสวน สภ.กาญจนดิษฐ์ คณะพนักงานสอบสวน ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติและแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย (ศปชก.) ภ.จว.สุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย พ.ต.ท.ก่อเกียรติ บุญปลอด รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เกาะสมุย ร่วมกันรับมอบตัวและสอบสวนปากคำ นายทองใส (สงวนนามสกุล) อายุ 50 ปี ชาว อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี และนางรัชประภา (สงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี ชาว อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ผู้ต้องหา ตามคดีอาญาที่ 399/2567 ความผิดฐาน
“ร่วมกันแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ, ร่วมกันสนับสนุนช่วยเหลือให้คนต่างด้าวได้ที่ดินมาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย, เป็นผู้มีสัญชาติไทยหรือนิติบุคคลที่มิใช่คนต่างด้าวตามพระราชบัญญัตินี้ ให้ความช่วยเหลือหรือสนับสนุนหรือร่วมประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว อันเป็นธุรกิจที่กำหนดไว้ในบัญชีท้ายพระราชบัญญัตินี้ การค้าที่ดิน ตามบัญชีหนึ่ง (9) โดยคนต่างด้าวนั้นมิได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจดังกล่าว หรือร่วมประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวโดยแสดงออกว่าเป็นธุรกิจของตนแต่ผู้เดียวหรือถือหุ้นแทนคนต่างด้าวในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทจำกัด หรือนิติบุคคลใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจโดยหลีกเลี่ยงหรือฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้ รวมทั้งคนต่างด้าวซึ่งยินยอมให้ผู้มีสัญชาติไทยหรือนิติบุคคลที่มิใช่คนต่างด้าวตามพระราชบัญญัตินี้
ขณะที่ พ.ต.อ.ศิริชัย สุขสาตต์ รอง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี/รอง ผอ.ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติและแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย (ศปชก.) ภ.จว.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ผู้กล่าวหาทั้งสองเข้าพบและรับทราบข้อกล่าวหา แต่การสอบสวนปากคำในชั้นพนักงานสอบสวน ทั้งสองให้การปฏิเสธ และแจ้งว่าจะส่งคำให้การเพิ่มเติมเป็นเอกสารภายใน 30 วัน ซึ่งหากครบกำหนด ผู้ต้องหาทั้งสองยังไม่ส่งเอกสารให้ปากคำเพิ่มเติม คณะพนักงานสอบสวนก็จะสรุปสำนวนการสอบสวนปากคำ ที่ผู้ต้องหาทั้งสองเคยให้ปากคำไว้ในฐานะพยาน ส่งฟ้องต่อพนักงานอัยการเกาะสมุยต่อไป
พ.ต.อ.ศิริชัย กล่าวว่า ภายหลังการเสียชีวิตของ นางแคทเทอร์รีน โจรี่ โรแล็นด์ เจอร์แมน เดลาโคท และมีการเสนอข่าวทางสื่อมวลชน เกี่ยวกับประเด็นที่มาของการถือครองทรัพย์สินของผู้เสียชีวิตที่มอบเป็นมรดกให้กับแม่บ้านชาวไทย ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติและแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย (ศปชก.) ภ.จว.สุราษฎร์ธานี จึงได้เข้าดำเนินการสืบสวนจนทราบว่า เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2550
โดย นางแคทเทอร์รีน โจรี่ โรแล็นด์ เจอร์แมน เดลาโคท ผู้ตายได้เข้ามาอยู่ที่ประเทศไทย โดยเช่าบ้านพักอยู่แถว ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ในปี 2559 ผู้ตายได้เข้ามาเป็นกรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทน บริษัทXXX และเป็นเจ้าของที่ดินโฉนดเลขที่ 38350 เนื้อที่ดิน 1 ไร่ 2 งาน และปี 2560 การเปลี่ยนแปลงหุ้นส่วนจากเดิม โดยมี นายทองใส ถือหุ้น 6,400 หุ้น, น.ส.รัชประภา ถือหุ้น 6,600 หุ้น และ ผู้ตาย ถือหุ้น 7,000 หุ้น จนกระทั่งถึงปัจจุบัน โดยผู้ตายได้สร้างบ้านพัก 3 ชั้นบนที่ดินของบริษัทฯ ใช้เป็นที่อยู่อาศัยของผู้ตาย และต่อมาได้ใช้อาวุธปืนยิงตัวตายในบ้านพักดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสืบสวนของ ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติและแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย (ศปชก.) ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ยังพบว่า นอกเหนือจากนางแคทเทอร์รีน จะเป็นกรรมการผู้มีอำนาจแทนในบริษัทXXX แล้ว ยังเป็นกรรมการในบริษัท XXXXX จดทะเบียนเมื่อวันที่ 19 เม.ย.2555 วัตถุประสงค์ ขณะจดทะเบียนประกอบกิจการให้เช่าที่พัก รีสอร์ท บังกะโล และบ้านพักตากอากาศ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า XXXXX ได้ดำเนินการก่อสร้างวิลล่าที่พักจำนวน 5 หลัง ปัจจุบันมีวิลล่า 2 หลัง ถูกเปลี่ยนมือไปให้กับบริษัทนิติบุคคลซึ่งมีชาวต่างชาติเป็นกรรมการบริษัทผู้มีอำนาจแทน ซึ่งการจดทะเบียนนิติบุคคลของนางแคทเทอร์รีนมีวัตถุประสงค์สร้างบ้านเพื่อขายและอยู่อาศัย อันเป็นการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวโดยไม่ได้รับอนุญาต และใช้คนไทยเป็นนอมินี
โดยล่าสุดหลังจากที่ “เดลินิวส์” ได้มีการเสนอข่าวเกี่ยวกับการก่อสร้างวิลล่าหรูของชาวต่างชาติบนเกาะสมุย รวมถึงประกอบธุรกิจวิลล่าให้เช่าอย่างต่อเนื่อง และนำไปสู่การสืบสวนจับกุมของศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติและแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย (ศปชก.) ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ทำให้ พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8 ได้นำโมเดลการทำงานไปขยายผลในเมืองท่องเที่ยวหลัก เช่น ภูเก็ต กระบี่ และพังงา.
