เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2568 ยิสโรเอล เลียบบ์ ผู้โดยสารวัย 20 ปีของสายการบินยูไนเต็ดแอร์ไลน์ขึ้นเครื่องบินจากเมืองตูลุม ประเทศเม็กซิโก ไปยังเมืองฮูสตัน รัฐเทกซัส พร้อมกับ จาคอบ เซบแบก เพื่อนของเขา แต่เลียบบ์ก็ประสบเหตุที่คาดไม่ถึงหลังจากเครื่องขึ้นบินได้เพียงครึ่งชั่วโมง และเขาลุกไปเข้าห้องน้ำที่ด้านหลังของเครื่องบิน
ตามสำเนาคำร้องเรียนที่ทั้งคู่ยื่นต่อศาล พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินเข้าไปหาเซบแบกในเวลาประมาณ 20 นาทีต่อมาและขอให้เขาไปดูเพื่อน เนื่องจากเลียบบ์อยู่ในห้องน้ำมานานสักพักแล้ว เซบแบกจึงทำตาม และพบว่าเลียบบ์มีอาการ “ท้องผูก” อย่างไรก็ตาม เขากำลังจะออกจากห้องน้ำ “ในไม่ช้า”
เซบแบกนำคำตอบของเลียบบ์ไปแจ้งให้ลูกเรือทราบก่อนจะกลับไปยังที่นั่งของเขา
หลังจากที่เลียบบ์อยู่ในห้องน้ำต่ออีก 10 นาที นักบินประจำเครื่องก็เข้ามาหาเซบแบกและขอให้เขาพยายามอีกครั้งเพื่อพาเลียบบ์ออกจากห้องน้ำ
ในเอกสารคำฟ้องระบุว่า หลังจากนั้น นักบินคนดังกล่าวก็เริ่มตะโกนใส่เลียบบ์ผ่านประตูห้องน้ำ และเรียกร้องให้เขาออกจากห้องน้ำทันที
เลียบบ์ตอบกลับเสียงตะโกนของนักบินโดยบอกว่าเขา “ไม่เป็นอะไรมาก” และจะออกจากห้องน้ำในไม่ช้า อย่างไรก็ตาม นักบินเกิด “โกรธจัด” เขาฝืนเปิดประตูห้องน้ำและดึงตัวชายหนุ่มออกมาในสภาพที่ “กางเกงยังกองอยู่ตรงข้อเท้า ทำให้อวัยวะเพศของเขาถูกเปิดเผยต่อหน้าเซบแบก พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินหลายคน และผู้โดยสารบนเครื่องบินที่อยู่ใกล้เคียง”
จากนั้นเซบแบกและเลียบบ์อ้างว่า นักบินคนดังกล่าวเริ่มผลักทั้งคู่ให้กลับไปที่นั่งของพวกเขา พร้อมทั้งพูดจาดูถูกเกี่ยวกับศาสนา เนื่องจากทั้งคู่เป็นผู้นับถือศาสนายิวออร์โธดอกซ์
เมื่อเครื่องบินเดินทางมาถึงเมืองฮูสตัน เจ้าหน้าที่ศุลกากรและตำรวจตระเวนชายแดนของสหรัฐ ก็ควบคุมตัวเลียบบ์และเซบแบกลงจากเครื่องบินและใส่กุญแจมือคนทั้งคู่ หลังจากนั้นพวกเขาก็โดนคุมตัวไว้ ซึ่งทำให้พวกเขาพลาดเที่ยวบินที่จะเดินทางต่อไปยังนิวยอร์กในเวลาต่อมา
เมื่อเลียบบ์ถามถึงเหตุผลที่เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวพวกเขาไว้ เจ้าหน้าที่คนหนึ่งตอบว่า “นี่ไม่ใช่เรื่องระดับเขตหรือรัฐ เรามาจากกระทรวงความมั่นคงฯ คุณไม่มีสิทธิใดๆ ที่นี่”
แม้ชายทั้งสองจะได้รับการปล่อยตัวและสามารถจองตั๋วไปยังนิวยอร์กในวันรุ่งขึ้นโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ทั้งคู่ก็เน้นย้ำว่าพวกเขาถูกบีบให้จ่ายค่าโรงแรมและอาหาร ซึ่งมีราคาสูงกว่าค่าตั๋วเครื่องบิน
ทั้งเลียบบ์และเซบแบกจึงตัดสินใจยื่นฟ้องเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายจากสายการบินยูไนเต็ดแอร์ไลน์, สำนักงานศุลกากรและป้องกันชายแดนสหรัฐ รวมถึงกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐ ต่อศาลแมนฮัตตัน
เลียบบ์ซึ่งเป็นชาวนิวเจอร์ซีย์ลงบันทึกเพิ่มเติมในเอกสารฟ้องร้องว่า เขารู้สึกเหมือน “โดนล่วงละเมิดทางเพศ” จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังจากที่ต้อง “อับอายขายหน้าเนื่องจากโดนเปิดเผยร่างกายต่อหน้าสาธารณชน”
ฮิลตัน เบคแฮม ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรและปกป้องชายแดนสหรัฐกล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ของสำนักงานศุลกากรฯ เพียงตอบรับคำขอของทางสายการบินเพื่อช่วยดูแลเหตุการณ์ที่สร้างความวุ่นวายบนเครื่องบินในเที่ยวบินดังกล่าว แต่เนื่องจากยังอยู่ระหว่างการดำเนินคดี จึงไม่สามารถให้รายละเอียดใดๆ ได้
ส่วนสายการบินยูไนเต็ดแอร์ไลน์, กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐและสำนักงานกำกับความปลอดภัยในการขนส่งสหรัฐยังคงไม่มีแถลงการณ์โต้ตอบใดๆ ออกมา
ที่มา : ladbible.com
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES