‘เอสซีจี’ จับมือพันธมิตรจากภาครัฐและเอกชน ได้แก่ สโมสรโรตารีเหมืองแร่ภูเก็ต, สโมสรโรตารีสากลภาค 3330 ประเทศไทย, สโมสรโรตารีสากลภาค 3600 ประเทศเกาหลีใต้, กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และจังหวัดภูเก็ต ร่วมกันสร้างสรรค์นวัตกรรมฟื้นฟูระบบนิเวศทางทะเล ภายใต้โครงการ ‘มหัศจรรย์ประติมากรรมใต้ท้องทะเล’ (The Magical of Save Underwater World) โดยนำเสนอผลงานประติมากรรมชิ้นเอก ‘หนุมานนิมิตกาย’ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากวรรณคดีไทยอันทรงคุณค่า

‘หนุมานนิมิตกาย’ มีลักษณะเป็นบ้านปะการังขนาดใหญ่ กว้าง 19.5 เมตร ยาว 20.5 เมตร และสูง 6.4 เมตร สร้างขึ้นด้วยเทคโนโลยี SCG 3D Printing โดยใช้ปูนมอร์ตาร์สูตรคาร์บอนต่ำที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 1,040 กิโลกรัม ผลงานชิ้นนี้จะทำหน้าที่เป็นฐานลงเกาะของตัวอ่อนปะการัง ช่วยฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลให้กลับมาอุดมสมบูรณ์

ก่อนที่จะนำหนุมานนิมิตกายไปติดตั้งที่อ่าวสยาม เกาะราชา ซึ่งเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปะการังและสัตว์น้ำที่สำคัญของไทย จะมีการจัดแสดงผลงานชิ้นดังกล่าว ณ สี่แยกธนาคารชาร์เตอร์ด จังหวัดภูเก็ต ระหว่างวันที่ 12 มีนาคม ถึง 5 เมษายน 2568 เพื่อให้นักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไปได้ชื่นชมความงดงามและตระหนักถึงความสำคัญของการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล โดยคาดว่าจะเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ใต้ท้องทะเล ที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้

‘กัลยา วรุณโณ’ New Business Development & Growth Director ธุรกิจซีเมนต์และกรีนโซลูชันส์ เอสซีจี กล่าวว่า เอสซีจีมีความมุ่งมั่นในการฟื้นฟูระบบนิเวศทางทะเลภายใต้โครงการ ‘รักษ์ทะเล’ มาอย่างต่อเนื่อง และครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้นำแนวคิดจากวรรณคดีไทยมาสร้างสรรค์เป็นประติมากรรมใต้น้ำ โดยเทคโนโลยี SCG 3D Printing มีความโดดเด่นในการออกแบบโครงสร้างที่มีความซับซ้อนได้อย่างอิสระ และสามารถปรับแต่งคุณสมบัติของวัสดุให้เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของปะการังแต่ละสายพันธุ์ นอกจากนี้ เอสซีจียังได้พัฒนาคุณสมบัติของปูนซีเมนต์ให้มีค่าความเป็นกรด-ด่างใกล้เคียงกับน้ำทะเล เพื่อเพิ่มความแข็งแรงและความทนทานของโครงสร้างใต้น้ำ ซึ่งจะช่วยให้การฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ เอสซีจีและพันธมิตรยังได้ต่อยอดโครงการฟื้นฟูปะการังภายใต้ชื่อ ‘รายา’ โดยจะสร้างสรรค์ประติมากรรม ‘ทศกัณฑ์’ด้วยเทคโนโลยีเดียวกัน ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2568 โดยโครงการดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะบูรณาการศิลปะเข้ากับการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล และส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์อย่างยั่งยืนในจังหวัดภูเก็ต