เมื่อเวลา 22.50 น. วันที่ 25 มี.ค. ที่รัฐสภา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ ต่อสื่อมวลชนหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจวันที่ 2 ถึงกรณี พรรคฝ่ายค้านมีการระบุถึงการอ้างสถาบันพระมหากษัตริย์ ร่วมกับนายกรัฐมนตรีและ ร.อธรรมนัส พรหมเผ่า ว่า คนที่ถูกเอ่ยชื่อมา ทั้งนายกรัฐมนตรีก็ดี ร.อ.ธรรมนัสก็ดี รวมถึงตนเอง มีความจงรักภักดีอยู่ในสายเลือดอยู่แล้ว อย่าลืมว่านายกรัฐมนตรี เป็นนายกฯ ก็ได้ถวายสัตย์ปฏิญาณ ถวายงานและมีความจงรักภักดีอยู่แล้ว แม้กระทั่งร.อ.ธรรมนัสก็จบโรงเรียนนายร้อยจปร. เปล่งวาจาทุกวัน ในเรื่องของความจงรักภักดี ส่วนตนไม่ขอโฆษณาตัวเอง แต่ทุกคนก็รู้ว่าตนสีอะไร พรรคของตนเป็นสีอะไร ดังนั้นไม่จำเป็นต้องไปโฆษณาชวนเชื่อหรือว่าแอบอ้างใดๆ เพราะการแสดงความจงรักภักดีไม่ต้องแอบ เพราะอยู่ในสายเลือดอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องพูด และไม่ควรไปพูดกับใคร คนไหน ว่าคนนี้จงรักภักดี ส่วนคนนี้ไม่จงรักภักดี อันนี้เป็นเรื่องของแต่ละคน ใครไม่จงรักภักดี ก็แล้วแต่เขา แต่ตนเชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่ หรือเกือบจะทั้งหมดมีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
เมื่อถามว่ามองว่าเป็นการเสี้ยมของพรรคฝ่ายค้านหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เราไม่พูดเรื่องนี้ดีกว่า ทุกอย่างจบไปแล้ว และรอการลงมติไว้วางใจของนายกรัฐมนตรี ของฝ่ายรัฐบาล พรรตร่วมรัฐบาลในวันที่ 26 มี.ค.นี้ ก็น่าจะเป็นคำตอบ
เมื่อถามว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี 2 วันที่ผ่านมาให้คะแนนฝ่ายค้านอย่างไรบ้าง จากการเป็นผู้สังเกตการณ์มา นาย อนุทิน กล่าวว่า พรุ่งนี้มีการลงมติ ซึ่งจะเป็นการพิสูจน์ที่ชัดที่สุด ดีกว่าจะมาประเมินด้วยตัวเอง เพราะเราก็อยู่ฝ่ายนี้ก็ต้องประเมินให้ฝ่ายนี้ เพราะฉะนั้นดูคะแนนที่จะลงมติไว้วางใจ นายกรัฐมนตรีก็น่าจะเป็นเครื่องพิสูจน์ที่ไม่น่าจะมีคำถามอะไรอีก
เมื่อถามถึงการประชุมของพรรคภูมิใจไทย ก่อนการลงมติในวันที่ 26 มี.ค.นี้ นายอนุทิน กล่าวว่า เราประชุมเป็นปกติอยู่แล้วก่อนที่จะมีการลงมติ โดยเปิดโอกาสให้ สส.ทุกคนได้แสดงความคิดเห็น ว่าเขาคิดเห็นเป็นอย่างไร อาจจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย เราก็เปิดโอกาสให้แสดงความเห็นเหมือนทุกครั้งที่มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่ก็จะมีมติของพรรคออกมาหลังจากนั้น ซึ่งส.สของพรรคภูมิใจไทยเมื่อพรรคมีมติแล้วก็จะปฏิบัติตามมติของพรรคทุกคน.