เมื่อเวลา 19.45 น. วันที่ 25 มี.ค. 2568 ที่รัฐสภา นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีราชชื่อ พรรคประชาชน ในฐานนะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (ประธานวิปฝ่ายค้าน) นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน และนายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ภายหลังนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ที่ทำหน้าที่ประธานการประชุม ห้ามไม่ให้อภิปรายไม่ไว้วางใจในประเด็นการปฏิบัติการข่าวสาร (ไอโอ) ในรัฐบาลพรรคเพื่อไทย
โดยนายชยพล กล่าวว่า เนื้อหาที่ตนอภิปราย และเอกสารที่นำมาเปิดเผย เป็นเอกสารจริงที่ตนตนได้รับมาจากหลายฝ่าย แต่เป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่ตนไม่สามารถเปิดเผยเนื้อหาได้อย่างชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้น หรือเกิดกระบวนการในการที่จะเซาะกร่อนบ่อยทำลายระบบประชาธิปไตยของประเทศไทยอย่างไร หรือเกิดเหตุการณ์ที่ไล่โจมตีประชาชนอย่างไรบ้าง หากมีการปล่อยให้ตนได้อภิปรายต่อไป จะสามารถเห็นคำอธิบายต่าง ๆ ได้ ว่าทำไมสถานการณ์การเมืองในรัฐสภาถึงได้เป็นไปในทิศทางที่เป็นอยู่ เพราะหลายอย่างดูสอดคล้องกันแปลก ๆ
ขณะที่นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า ถ้าหากดูเนื้อหาจากการอภิปรายของ นายชยพล ในช่วงหลัง ตนว่าพรรคเพื่อไทยจะรู้สึกน่าเสียดายมาก ๆ เพราะถ้าเกิดจะต้องการปกป้อง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หรือแม้กระทั่ง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายก ฯ ซึ่งด้านที่นายชัยพลกำลังจะอภิปรายว่า “วันนี้กองทัพบางส่วนมีกองทัพกลุ่มหนึ่งที่ทำตัวอยู่ที่ยอดปีระมิดและทำตัวเป็นรัฐอิสระอยู่ในสถานะรัฐเหนือรัฐที่แม้แต่นายกรัฐมนตรีก็ตกเป็นเป้าโจมตี”
นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า นายก ฯ เป็นเฮดสูงสุดของ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) แต่กลับตกเป็นเหยื่อเอง ประเทศนี้อยู่ในสภาวะที่แม้แต่นายก ฯ ก็ถูกคุกคามโดยกองทัพส่วนหนึ่ง ซึ่งมันสะท้อนชัดเจนว่าถ้านายก ฯ กับนายภูมิธรรม ไม่แก้ไขอะไรตรงนี้ไม่ใช่แค่พรรคฝ่ายค้าน ไม่ใช่แค่นักวิชาการ ไม่ใช่แค่ประชาชน ซึ่งเมื่อสักครู่ นายก ฯ ระบุว่า เขาลาออกจากการเป็นลูกไม่ได้ ตนก็อยากจะบอกนายก ฯ ว่า
“ถ้านายก ฯ ไม่สนใจในเรื่องนี้ แม้แต่ครอบครัวของคุณ แม้แต่ชีวิตของคุณ คุณก็ปกป้องไม่ได้ มันเป็นการแสดงความขาดเขลาอย่างมากของพรรคเพื่อไทย ตนในฐานะผู้ที่เคยอภิปรายในเรื่องของขบวนการ ไอโอมาก่อน เนื้อหาการอภิปรายในวันนี้ของชัยพลไม่ได้แหลมไม่ได้เสี่ยงไปกว่าตนเลย แต่ว่าในวันนั้นตนอภิปรายในรัฐบาลที่สืบทอดอำนาจจากเผด็จการประธานสภาผู้แทนราษฎรที่ทำหน้าที่ในขณะนั้น ยังมีความกล้าหาญกว่า นายพิเชษฐ์ ซึ่งวันนี้ไม่ได้มีความกล้าหาญ ไม่สมที่จะดำรงตำแหน่งประธานในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรอีกต่อไปเลย” นายวิโรจน์ กล่าว
นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า แม้วันนี้สยบยอมแม้กระทั่งกองทัพ ยืนอยู่บนบัลลังก์นั่ง อยู่บนบัลลังก์ทำได้แค่พยักหน้าสยบยอม วันนี้ตนต้องถามพรรคเพื่อไทยว่าคุณพร้อมที่จะบริหารประเทศจริง ๆ หรือ จะปล่อยให้ทหารอยู่ในสถานะรัฐซ้อนรัฐที่จับครอบครัวประชาชน จับนายก ฯ เป็นตัวประกันอย่างนั้นหรอ ซึ่งมองว่าเป็นความขาดเขลาอย่างน่าอดสูมาก
“หากท่านนายก ฯ แพทองธาร ฟังอยู่ ผมเดาว่า ท่านนายกอาจจะต้องเปรยว่าอยากรู้ ว่าพวกเขา หรือพวกมันทำอะไรอิ๊งค์ และถ้านับหลังจากนี้ การโจมตีใดๆทางไซเบอร์ ที่เกิดขึ้นกับแพทองธาร ชินวัตร และนายทักษิณ ชินวัตร คนที่จะต้องรับผิดชอบทั้งหมด และต้องอธิบายกับทั้งนายใหญ่ นายน้อย เป็นใครไม่ได้ นอกจากมนุษย์ที่ชื่อพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน” นายวิโรจน์ กล่าว
ด้านนายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า การที่ปิดปากฝ่ายค้านไม่ให้อภิปรายไม่ไว้วางใจเรื่องดังกล่าวที่นายชัยพลจะพูด เป็นการพูดถึงการปฎิบัติการของกองทัพซึ่งเรื่องนี้อยู่ในญัตติของการอภิปรายไม่ไว้วางใจแน่นอน ที่นายก ฯ อยู่ในบอร์ดของกอรมน. นายก ฯ ขาดภาวะผู้นำบริหารประเทศล้มเหลว ในการบริหารราชการดังนั้น สิ่งที่นายชยพล พูดอยู่ในญัตติที่จะอภิปรายอยู่แล้ว แต่กลับถูกรองประธานสภา ฯ ห้ามไม่ให้พูด จึงอยากให้ประชาชนทุกคนที่ฟังตัดสินกันดู เพราะวันนี้เป็นเหตุการณ์ที่เรียกว่าอัปยศในที่ประชุมสภาปิดกั้นกลไกการตรวจสอบ
นายปกรณ์วุฒิ กล่าวอีกว่า อีกสิ่งที่อันตรายมากคือ สส.ของพรรคเพื่อไทย ประท้วงและบอกว่านายก ฯ และรมว.กลาโหม รู้เรื่องอย่างแน่นอน ตนเองมองว่าน่ากลัวมากที่เรากำลังมี คือ มี นายก ฯ และรมว.กลาโหม ที่ไม่รู้เลยว่ากองทัพกำลังคุกคามประชาชนอยู่ กำลังสอดแนมประชาชนกำลังสะกดรอยตามประชาชนกำลังคุกคามสิทธิเสรีภาพของประชาชน และหนึ่งในเป้าการโจมตีของกองทัพคือตัวนายก ฯ ที่เป็น ผอ.กอ.รมน.เอง เรื่องนี้อันตรายมากและพิสูจน์ให้เห็นได้ชัดว่าประเทศเราเป็นรัฐซ้อนรัฐ ที่กองทัพมีอำนาจเหนือรัฐบาลพลเรือน ที่มาจากการเลือกตั้ง ตนเองหวังว่ารมว.กลาโหม จะลุกขึ้นมาตอบว่าจัดการอย่างไรกับเรื่องนี้กับการที่กองทัพมีการเข้ามาคุกคามสิทธิเสรีภาพของประชาชน
เมื่อถามว่าขณะมีการอภิปรายอยู่แต่ประธานสภาให้มีการหยุดอภิปราย ข้อเท็จจริงเหล่านั้นอยู่ในสไลด์ใช่หรือไม่ นายชยพล กล่าวว่า สไลด์ที่ตนมีข้อมูลอยู่ในมือ เป็นสไลด์ที่มีการวิเคราะห์สถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงเป็นเอกสารที่มีการแต่งตั้งคณะทำงานต่าง ๆ ให้เรารู้ที่มาที่ไป รวมถึงเอกสารที่ใช้บรีฟยุทธศาสตร์ ในรอบ 1 ปี 6 เดือน ว่ามีการรายงานผลการปฎิบัติการว่ามีการโจมตีที่ใดมาบ้าง รวมถึงมีการบรีฟเป็นข้อความว่าต้องโจมตีในรูปแบบใด แต่น่าเสียดายที่ไม่ได้พูดถึงในเรื่องของดาต้าโมเดล ซึ่งเป็นระบบเก็บพฤติกรรมของพวกเราทั้งหม และมีการวิเคราะห์ออกมา เพื่อหาแนวทางในการโจมตี ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด รวมถึงมีรายงานของ กอ.รมน. ที่มีการเซ็นต์และลงวันที่ไว้เรียบร้อย โดยเป็นการระบุถึงข่าวที่เกี่ยวกับภัยความมั่นคงต่าง ๆ ภายในประเทศ พร้อมตั้งข้อสังเกตข้อที่มีการระบุชื่อของบุคคลทางการเมืองต่าง ๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่อันตรายมาก
เมื่อถามอีกว่ากรณีที่รองประธานสภากล่าวว่ากลัวที่จะรับผิดชอบไม่ไหว นายชยพล กล่าวว่า เป็นเรื่องที่เราจะต้องตั้งคำถาม ว่าเราจะรับผิดชอบอะไร เพราะเรื่องที่ตนกำลังจะอภิปราย เป็นเรื่องของการเสียผลประโยชน์ของเราทุกคน ตนกำลังพิสูจน์ให้ทุกคนเห็น ว่าถ้าอยู่ในประเทศนี้กับรัฐบาลแบบนี้ สถานการณ์แบบนี้ เราทุกคนสามารถตกเป็นเป้าโจมตีได้ ซึ่งไม่มีใครปลอดภัยและพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า แม้แต่ตัวรัฐบาลเองก็ไม่ได้ปลอดภัย รวมถึงเสถียรภาพของรัฐบาลก็ไม่มี และแบบนี้ระบบประชาธิปไตย จะอยู่อย่างไร ถ้าผู้นำของระบบประชาธิปไตย โดนเป็นเป้าหมายในการถูกเลื่อยขาเอง ความเสียหายไม่ได้เกิดขึ้น จากการที่ตนนำสิ่งนี้มาเปิด แต่ความเสียหายจะเกิดขึ้นต่อไปหากตนไม่นำสิ่งนี้มาเปิด
เมื่อถามอีกว่าคาดหวังให้สภาเป็นพื้นที่ปลอดภัยในการถูกทิ้งหรือไม่ เนื่องจากว่าในเรื่องของกองทัพอาจจะถูกมองว่าเป็นเรื่องต้องห้าม นายชยพล กล่าวว่า เรามีความข้องใจกันมานาน จากหลาย ๆ ครั้งของฝั่งรัฐบาล ที่ดูเหมือนจะไม่ค่อยคล้อยตามและเห็นด้วย กับกระบวนการและแนวทางที่จะทำให้ประเทศไทย เข้าสู่การเมืองที่ดีขึ้นกว่าเดิม หรือกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการปฏิรูปกองทัพ ทั้งที่เนื้อหาคือการคืนอำนาจให้กับ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายก ฯ และ รมว.กลาโหม กลายเป็นว่ารัฐบาลก็มีท่าทีอิดออด และเตะทวงไปเรื่อย ๆ กลายเป็นว่าเราก็ไม่ได้พิจารณาตรงนี้เสียที
เมื่อถามอีกว่าจะมีการอภิปรายนอกสภาต่อหรือไม่ นายชยพล กล่าวว่า เราได้มีการวางแผนข้อมูลไว้อยู่แล้ว ต้องรอติดตาม ทางช่องทางของพรรค และที่มีรายชื่อของนักการเมืองเกี่ยวข้องก็มีรายชื่อของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่เรียกว่าเป็นเป้าหมายแวะเวียนตามประเด็น
เมื่อถามว่าเป็นปฏิบัติการไอโอ ที่อยู่ภายใต้การบริหารงานของนายก ฯ ที่โจมตีนายกฯเองหรือไม่ นายชยพล กล่างว่า อยู่ภายใต้หน่วยงานที่อยู่ภายใต้นายก ฯ อีกที ซึ่งก็เป็นคำถามที่ผู้ประท้วงตั้งคำถามไว้ว่านายก ฯ ไม่รู้ รมว.กลาโหมก็ไม่รู้ ซึ่งก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าตนพูดถูก ว่าเป็นกระบวนการรัฐซ้อนรัฐ ที่ซ้อนเข้าไปในกองทัพอีกที่หนึ่งด้วย รวมถึงมีรายชื่ออื่นด้วย เช่น นายทักษิณ ชินวัตรอดีตนายก ฯ ,ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ในฐานะประํานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม , นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายก ฯ และ รมว.มหาดไทย และ นายภูมิธรรม
เมื่อถามถึงการหารือในวันพรุ่งนี้ (26 มี.ค. 2568) ก่อนโหวตลงมติไม่ไว้วางใจนายก ฯ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า วันนี้มีการประชุมวิปฝ่ายค้านเรียบร้อย และได้มติเอกฉันท์จากวิปฝ่ายค้านว่าทุก พรรคจะลงมติไม่ไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร ร่วมกันทั้งหมด
เมื่อถามถึงเวลาที่ฝ่ายค้านได้อภิปรายในวันนี้นั้นเหลือเท่าไหร่ นายปกรณ์วุธ กล่าวว่า เหลือเพียงแค่ 2 ชม. กว่าเท่านั้น
////