เมื่อวันที่ 24 ม.ค.68 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร  เพื่อพิจารณาญัตติด่วนขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี เป็นรายบุคคล   นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม กล่าวอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า สิ่งทีเลวร้ายที่สุดคือการที่นายกรัฐมนตรีขาดเจตนารมณ์การบริหารประเทศ ทำตัวลอยเหนือปัญหา กฎหมายภายในและภายนอก ประเพณีปฏิบัติติระหว่างประเทศ ทำลายความเชื่อมั่นภาพลักษณ์ระหว่างประเทศ ที่รัฐบาลชุดนี้ผลักดันชาวอุยกูร์ 40 กว่าคนไปประเทศจีน โดยวันนี้รัฐบบาลได้พยายามฉายหนัง Thailywood ภาพยนตร์เรื่องโลกหลายใบให้ “นาย” เดียวตอน 73 วันแห่งการโกหก เล่นละคร ทำลายภาพลักษณ์และผลประโยชน์ชาติในเวทีโลก และทำให้สิ่งที่เป็นภาพยนตร์เป็นความจริง ตัวละคร มีนายกรัฐมนตรีอยู่ตรงกลาง และนายใหญ่เชื้อสายจีน รวมถึง 3 รัฐมนตรีครม.แพทองธาร นายภูมิธรรม เวชยชัย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง และนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์  โดยเมื่อวันที่ 27 ก.พ. ที่ผานมา การส่งกลับพี่น้องชาวอุยกูร์ของรัฐบาลแพทองธาร เป็นเส้นบางๆ ระหว่างการเดินทางกลับโดยสมัครใจและการผลักดันบังคับกลับประเทศ และคำพูดนายกรัฐมนตรี ที่บอกว่า “สมัครใจค่ะ ไม่งั้นต้องลากสิ นี่ไม่มีการลาก เป็นการเดินขึ้นโดยปกติ”

นายกัณวีร์  กล่าวว่า ข้อมูล 40 ชาวอุยกูร์ จากสำนักตรวจคนเข้าเมือง ที่แสดงให้เห็นว่ามีสัญชาติตุรกีว่าเหตุใดจึงมีสถานทูตจีนเข้ามาเกี่ยวข้อง ทำไมจึงตัดสินใจจะคุยแต่กับรัฐบาลจีน เกิดอะไรขึ้น และภายหลังมีหลังสือขอตัวชวอุยกูร์ จากสถานทูตจีน จากประเทศไทยทำไม สตม. จึงไปถ่ายรูปในห้องกัก ซึ่งอ้างว่าเป็นการปรับฐานข้อมูล โดยตนขอเปิดแชทจากแอพพิเคชันวอทแอพ และขอรับผิดชอบเองว่าเหตุใดเขาถูกกักแต่ตนยังสามารถพูดคุยกับเขาได้ละมีการนำเอกสารให้เซน จนชาวอุยกูร์ไม่ยอมเซนและอดข้าวประท้วง

นายกัณวีร์ ได้เปิดเผยคลิปเสียงชาวอุยกูร์ 1 ใน 40 คน ที่กลับไปแล้วและสามารถพูดภาษาอังกฤษได้ ว่า ถ้าคุณทำได้ช่วยบอกชาวไทยมุสลิม ช่วยบอกรัฐบาลไม่ให้ส่งเราไปจีน และปล่อยเราประเทศอื่น ช่วยบอกชาวไทยมุสลิมให้ไปบอกรัฐบาลไทย และเจ้าหน้าที่ห้องกักบอกว่าตอนนี้ไม่สามารถกลับไปจีนได้เป็นสิ่งที่โกหกทั้งหมด  นี่เป็นสิ่งที่เจ้าหน้าที่สมต.เข้าไปบอกพวกเขา จนกระทั่งชาวอุยกูร์อดข้าวประท้วงเป็นเวลา 19 วัน ซึ่งรัฐบาลไทยให้สัมภาษณ์ปฏิเสธการส่งกลับจีนถึง 6 ครั้ง แต่หลังจากนั้นความแตกโกหกไม่รอด ต้องเล่นบทความเห็นใจ และกล่าวหาว่าจดหมายที่ตนได้มาเป็นของปลอม ละห้องกัก สมต. ไม่มีการบันทึกภาพการปฏิบัติติงาน ไม่มีหลักฐานทั้งที่ทั่วโลกจับตามอง จึงตั้งคำถามว่าเป็นความบกพร่องหรือนายสั่ง

นายกัณวีร์ กล่าวว่า ในวันที่ 18-20 มี.ค.นี้ ถึงเวลาเปิดม่านละครคุณธรรม เดินทางไปเยี่ยมชาวอุยกูร์ 5 คน เป็นละครปลายปิด ที่ท่านรู้อยู่แล้วว่าจะเป็นอย่างไร เป็นสิ่งไว้ฟอกขาวการกระทำของท่าน ให้มองว่าสิ่งที่ทำอยู่นี้สมัครใจ ซึ่งย้อนถามนายภูมิธรรม  พ.ต.อ.ทวี รู้หรือไม่การไปพบ 2 ใน 5 คนชาวอุยกูร์ คนหนึ่งเป็นผู้จิตเวช และอีกคนคือมครอบครัวอยู่ประเทศที่ 3 ภาพยนตร์เรื่องนี้ 3 วันแห่งการโกหก หลอกลวง ปู้ยี่ปู้ยำ นโยบายการต่างประเทศของประเทศไทย สิ่งที่ท่านแถลงว่าจะไม่เลือกข้างแต่รู้หรือไม่ว่าเลือกข้างไปหลายครั้งแล้ว และครั้งนี้เลือกข้างผิด สิ่งที่ท่านโดนตั้งแต่ผลักดันอุยกูร์กลับประเทศจีน การประณามจากเวทีระหว่างประเทศ ทั้งจากรัฐบาลและจากสหประชาชาติ สหภาพยุโรป ในขณะที่เราพยายามความสัมพันธ์ FTA ซึ่งในวันทีประชุมสภาฯ หาข้อตกงเรื่องดังกล่าว

นายกัณวีร์ กล่าวว่า ตนได้พูดไว้แล้วว่าการตระบัตสัตย์ในประเทศว่าเลวร้ายแล้ว หากไปตระบัตสัตย์ในเวทีระหว่างประเทศเลวร้ายยิ่งกว่า ข้อตกลงอย่างไทยกับอียู มีกระดูกสันหลังว่าห้ามขัดหลักการสิทธิมนุษยชน ทำไมเราต้องเอาตัวไปอยู่ระหว่างเขากวางหรือเอาตัวเองไปอยู่ตรงกลางระหว่างการเมืองระหว่างประเทศ ตนไม่สนใจว่าจะเป็นจีนหรือสหรัฐฯ เราต้องมีจุดยืนที่มั่นคง แต่ตนไม่เห็นว่ารัฐบาลชุดนี้จะมีจุดยืนที่มั่นคงในเวทีระหว่างประเทศ ไม่มีนโยบายการต่างประเทศทำไทยหลุดพ้นจากการเมืองระหว่างประเทศ ในศตวรรษที่ 21 เรื่องนี้แสดงให้เห็นชัดเจนถึงการไร้ความสามารถ ไร้ประสิทธิภาพ ไร้วุฒิภาวะ ไร้ความเป็นผู้นำ ทำตัวอยู่เหนือผลประโยชน์ของประเทศชาติ ไม่ยึดมั่นในนโยบายที่ตัวเองมี ถือเป็นการทุจริตเชิงนโยบายต่างประเทศ.