เคลมบุญเก่าผลงานเศรษฐกิจ ฉายภาพสิ่งที่เห็นและเป็นไปอยู่ตรงหน้า โดยเฉพาะปมเศรษฐกิจปากท้อง ที่ยี่ห้อ “ทักษิณ” เอาฝีมือบริหารเป็นประกัน มุกประชานิยม ปักหมุดกรีธาทัพบนเส้นทางบริหารนโยบาย แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจปากท้องเดิมพันด้วยโจทย์ใหญ่ข้อเดียว

ล่าสุดผุดแนวคิด “ล้างหนี้ประชาชน” ดึงภาครัฐ และเอกชนเข้าร่วมซื้อหนี้ของประชาชนออกจากระบบธนาคารเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือน โดยหลักการแก้ปัญหาหนี้ หากเป็นหนี้ที่แก้ไขได้ จะมีการเจรจาปรับโครงสร้างหนี้ เช่น ยืดหนี้ ลดดอกเบี้ย เพื่อให้ลูกหนี้สามารถอยู่รอดได้ ซึ่งเป็นแนวทางคล้ายกับปี 2540 ที่ต้องแยกบัญชี Good bank-Bad bank คล้ายกับธุรกิจบริหารหนี้ (AMC) แต่ทั้งหมดทั้งมวล ต้องหารือกันหลายฝ่าย โดยเฉพาะภาคธนาคารที่เป็นเจ้าหนี้

แน่นอนว่าจึงทำให้มองได้ว่าไอเดียซื้อหนี้จากประชาชน นาทีนี้ยังเป็น “อากาศธาตุ“ เป็นเรื่องยาวนาน และยาวไกล และที่สำคัญยังไม่รู้ว่าจะเป็นไปได้หรือไม่ เพราะต้องใช้งบประมาณแผ่นดินก้อนมหาศาลมาล้างหนี้ครัวเรือนในโครงการนี้ การหยอดความหวังในครั้งนี้ เหมือนกับการ “ขายฝัน” รอบใหม่ หลังจากก่อนหน้านี้มีสารพัดไอเดียในเรื่องเศรษฐกิจไม่ว่าจะเป็นโครงการเงินหมื่นเฟส 1-2 พยายามเน้นให้เห็นว่ามีการเพิ่มเงินในกระเป๋า เพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ

โดย “ทักษิณ ชินวัตร” ระบุว่า การแก้หนี้ภาคประชาชน และภาคครัวเรือนจะเกิดขึ้นในปีนี้แน่นอน และน่าจะไปได้ดี  เห็นจากผลสำรวจดุสิตโพลประชาชนเห็นด้วยกับแนวคิดดังกล่าว เพราะเป็นเรื่องที่ต้องทำ วันนี้ต้องเข้าใจก่อนว่าประชาชนลำบาก ต้องหาทางให้ประชาชนสามารถเริ่มต้นใหม่ โดยการพยายามแก้หนี้ หรือปรับโครงสร้างหนี้ ให้สามารถชำระหนี้ได้มีเครดิตใหม่ ยืนยันว่าภาคเอกชนไม่มีปัญหา

แต่เมื่อพิจารณาตามความเป็นจริงแล้ว การซื้อหนี้จากประชาชนเป็นไอเดียที่ดี เป็นประโยชน์กับประชาชน เพราะเป็นแนวทางช่วยเหลือผู้คนที่ส่วนใหญ่มีหนี้สินเยอะมากทั้งนั้น ช่วยทำให้ประชาชนลืมตาอ้าปาก มองเห็นอนาคตหรือแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์บ้าง เพราะหากการจับจ่ายใช้สอยในประเทศไม่ขยับ มีหนี้ครัวเรือนทั้งในระบบและนอกระบบเยอะมาก ถือเป็นกับดักให้เศรษฐกิจในประเทศไม่สามารถพัฒนาได้

แต่เดิมพันโจทย์ใหญ่นี้ยังเป็น “นโยบายขายฝัน” เป็นโมเดลในอากาศ หรือเรียกง่ายๆเป็นหนึ่งในความฝันในอนาคตข้างหน้า แต่จะทำได้จริงหรือไม่ ยังไม่อาจทราบได้ เพราะหากทำได้ง่ายๆ คงมีรัฐบาลชุดอื่น ๆ ทำไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่หากถูกหยิบยกมาพูดถึงตอนนี้ เพราะเป็นช่วงนายกฯ กำลังนับถอยหลังสู่การถูกซักฟอกโดยฝ่ายค้าน หรืออีกนัย ถูกมองว่าไม่ต่างจากการหวังให้ชาวบ้านหรือบรรดาแฟนคลับทั้งหลายได้เคลิบเคลิ้มมีความหวังต่อเนื่อง เพราะทุกครั้งทุกเวทีขายไอเดียไม่ต่างกัน.