เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 24 มี.ค. 2568 ที่รัฐสภา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยวันนี้เป็นการอภิปรายในวันแรก ว่า พร้อมเต็มที่และเตรียมตัวมาก่อนหน้านี้นานแล้ว คนที่ต้องตอบคำถามว่าพร้อมหรือไม่ คงจะต้องเป็นฝ่ายรัฐบาลมากกว่า
เมื่อถามว่าความเคลื่อนไหวของรัฐบาลในสัปดาห์นี้เป็นอย่างไร ในฐานะที่เป็นคนเสนอญัตติและเป็นคนออกการบ้านให้รัฐบาล นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า อาจจะมีเหตุสะดุดไปบ้างเล็กน้อย เช่น มีข้อร้องเรียนว่าตกลงแล้วการแก้ไขญัตติมีปัญหาหรือไม่ ทั้งที่ประธานรัฐสภามีการยืนยันแล้วว่าไม่มีปัญหา และเชื่อว่าจะมีการดำเนินการไปได้ด้วยดี หากมีการขัดขวางขึ้นมาจริง ก็จะส่งผลเสียถึงภาพลักษณ์ของรัฐบาล
เมื่อถามอีกว่าเตรียมการรับมือการประท้วงอย่างไร นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เราพร้อมทุกคน พร้อมที่จะทำหน้าที่ในฐานะพรรคฝ่ายค้านในการถ่วงดุลตรวจสอบโดยไม่มีข้อกังวลอะไร ส่วนจะมีไฮไลต์อะไรต้องติดตามหรือไม่นั้น ยืนยันว่าตนเตรียมผู้อภิปรายไว้สำคัญอยู่หลายเรื่อง รอติดตามชมกันดีกว่า
เมื่อถามอีกว่าขอยกตัวอย่างคำว่าดีลแลกประเทศให้ประชาชนเข้าใจได้หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ดีลแลกประเทศคือสิ่งที่ประชาชนจะต้องเสียไป ไม่ว่าจะเป็นต้นทุนค่าเสียโอกาส ผลประโยชน์ทับซ้อนของเงินภาษีประชาชน ที่ต้องแลกไปกับการจัดตั้งรัฐบาลที่เป็นดีลแลกประเทศ เพื่อเป็นผลประโยชน์ของตระกูลชินวัตร และประโยชน์ของพรรคร่วมรัฐบาล
เมื่อถามว่าคำว่าตระกูลชินวัตร ความหมายนี้กว้างขวางแค่ไหน นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า มีส่วนที่เกี่ยวข้องหลายส่วน ที่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เดี๋ยวมาขอให้ทุกคนรอติดตาม และจะเป็นสาระแน่นอน ส่วนจะมีชื่อมากกว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ หรือไม่นั้น ตนขอใช้คำว่าคนในตระกูลชินวัตร ซึ่งก็ครอบคลุมอยู่แล้ว ขอให้รอการอภิปรายดีกว่า เพราะบุคคลที่เรากล่าวถึง จะไม่พาดพิงถึงการไม่มีพื้นฐานความเป็นจริง บุคคลที่มีการอภิปรายถือเป็นส่วนสำคัญในการอภิปรายครั้งนี้ ว่าการจัดตั้งรัฐบาลในครั้งนี้ ไม่ชอบธรรมและเป็นดีลแลกประเทศจริง
เมื่อถามถึงว่ากังวลหรือไม่หากมีบุคคลภายนอกฟ้องร้องดำเนินคดีหากเป็นการหมิ่นประมาท นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ผมคิดว่าไม่น่าห่วงอะไร เพราะตามข้อบังคับตามกฎหมาย ผู้อภิปรายต้องเป็นคนที่รับผิดชอบอยู่แล้ว หากมีการพาดพิงถึงบุคคลภายนอก และเรามั่นใจในข้อมูลทุกส่วนที่เราอภิปรายไม่สามารถถูกฟ้องร้องได้
เมื่อถามถึงกรณีนายทักษิณ ให้สัมภาษณ์ว่า ถ้าฝ่ายค้านโรยเกลือ จะโรยน้ำตาลกลับนั้น นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ต้องลองดู ถ้าเขาโยนน้ำตาลโรยกลับมา อาจเป็นการอภิปรายที่มีสีสันอะไรมากขึ้น แต่เรามั่นใจว่าการอภิปรายครั้งนี้ เป็นการเปิดแผลของรัฐบาล ส่วนโรยเกลือคือภายหลังเสร็จสิ้นการอภิปราย เพราะรัฐบาลมีเสียงข้างมาก ไม่อาจโหวตถอดถอนนายกฯ ได้ แต่การดำเนินการหลังจากนี้ต่างหาก ที่จะส่งผลสะเทือนถึงรัฐบาลได้ ส่วนที่มีกระแสว่ามีการดีลกันกับรัฐบาลนั้น ตนคิดว่าดูการอภิปรายของเราก่อนดีกว่า ว่ามีการดีลกับรัฐบาลจริงหรือไม่ ย้ำว่าที่เรานำเสนอ ในช่วงการอภิปราย 2 วันนี้ จะเป็นคนพิสูจน์ว่าเราทำหน้าที่ในพรรคฝ่ายค้านได้เต็มที่
“คนที่มีดีลกัน จะไม่ใช่พรรคประชาชนหรือพรรคฝ่ายค้าน แต่คนที่มีดีลกัน คือระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล ที่มีผลประโยชน์ทับซ้อนเยอะแยะเต็มไปหมด” นายณัฐพงษ์ กล่าว
เมื่อถามอีกว่ากรณีฝ่ายค้านอภิปรายนายกฯ คนเดียว ส่วนพรรคร่วมลอยตัว ทำให้คนกังขาว่าพรรคประชาชนจะจับมือกับพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าว จริง ๆ แล้วไม่เกี่ยว ขอให้ดูการอภิปราย 2 วันนี้ จะมีเนื้อหาที่พาดพิงหลายกระทรวง รัฐมนตรีหลายคน แต่จุดเริ่มต้นของปัญหาทั้งหมดมาจากดีลแลกประเทศ จุดเริ่มต้นที่นายกฯ ให้สัมภาษณ์และยอมรับว่า ดีลครั้งนี้พานายทักษิณกลับบ้าน ไม่ได้หมายความเรื่องพานายทักษิณกลับบ้านอย่างเดียว แต่มีอีกหลายประเด็นที่เกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาลชุดนี้ ยืนยันว่าเนื้อหาการอภิปราย เกี่ยวข้องกับหลายกระทรวงและทุกข้อมูลที่เกี่ยวกับนำเสนอในสภา ทุกข้อมูลนำเสนอในสภา ถ้าเกี่ยวข้องกับรัฐมนตรี สส. มีเอกสิทธิ์คุ้มครอง ดังนั้นหลักฐานที่เราเปิดเผยใน 2 วันนี้ จะถูกนำไปใช้ยื่นถอดถอนต่าง ๆ หากนายกฯ ไม่สามารถตอบข้อชี้แจงได้
เมื่อถามอีกว่าเรื่องกรอบเวลาการอภิปราย นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า การอภิปรายดำเนินการมาถึงตอนนี้ เพราะถูกบีบเรื่องกรอบเวลาภายใน 2 วัน แต่จะทำหน้าที่ดีที่สุด ดึกแค่ไหนก็พร้อมทำหน้าที่เต็มที่ สิ่งที่อยากได้จากนายกฯ 2 วันที่ต้องมาประจำที่สภา อยากให้นายกฯ อยู่ฟังเรามากที่สุด เพราะถ้านายกฯ อยู่ฟัง คณะรัฐมนตรี (ครม.) ก็อยู่ด้วย ดังนั้นสิ่งที่เป็นประโยชน์ที่สุดคือ ฝ่ายบริหารมาฟังซักฟอกครั้งนี้ ยืนยันว่าเงื่อนไขเดิมยังคงอยู่ จะจบภายใน 2 วันได้จริงหรือไม่ อยู่ที่ว่าฝั่งรัฐบาลควบคุมเวลาฝั่งตัวเองได้มากน้อยแค่ไหน ถ้าหากตีรวนจากฝั่งรัฐบาล จนทำให้กรอบ 2 วันไม่จบ ก็ไม่สามารถโทษใครอื่นได้ นอกจากรัฐบาลเอง
เมื่อถามถึงความคาดหวังของนายกฯ ในการอยู่ฟังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า คาดหวังให้นายกฯ อยู่ตอบชี้แจงอย่างเต็มที่มากที่สุด ท่านเองมีภารกิจครอบครัวหลายอย่าง คงกะเกณฑ์ไม่ได้ว่าต้องอยู่กี่ชั่วโมง เป็นประโยชน์มากที่สุดคือนายกฯ อยู่ในสภาให้มากที่สุด
เมื่อถามถึงกรณีมีกระแสข่าวว่าพรรคฝ่ายค้านบางพรรค จะให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย นำข้อมูลมาซักฟอกด้วย นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เดี๋ยวรอดูหน้างานดีกว่า จากหน้าข่าวที่ออกมา มีเสียงสะท้อนจากฝั่งรัฐบาลด้วยกันเอง แต่เชื่อว่าพรรคฝ่ายค้านเราพร้อมให้โอกาสสมาชิกอย่างเต็มที่ไม่ว่าอยู่พรรคไหน หากมีข้อมูลตรวจสอบฝ่ายบริหาร ก็ยินดีให้อภิปราย โดยก่อนหน้านี้มีการพูดคุยกัน แต่บอกบนข้อเท็จจริง ตนไม่เคย หรือคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ไม่เคยเจรจาโดยตรง เคยได้รับการประสานมาทางอ้อมบ้าง ส่วนนายเฉลิมมีการอภิปรายหรือไม่ ดูหน้างานดีกว่า
เมื่อถามอีกว่ากรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะซักฟอกด้วย นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ถือว่าเป็นเวลาที่ค่อนข้างคุ้มค่า เรายังไม่ค่อยได้เห็นบทบาทของ พล.อ.ประวิตร ในสภาเท่าไหร่ ก็น่าติดตาม
เมื่อถามถึงประเด็นที่สังคมจับจ้องเกี่ยวกับการซักฟอก นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า นอกจากเรื่องที่ประชาชนเห็นตาม เช่น การบริหารจัดการแผ่นดินล้มเหลวผิดพลาด ยังมีเรื่องทุจริตคอร์รัปชั่นระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล การขาดคุณสมบัติของนายกฯ ยืนยันว่าการขาดคุณสมบัติของนายกฯ หรือรัฐมนตรี มีข้อมูลที่ยังไม่เคยเปิดเผยต่อหน้าสื่อมาก่อน และข้อมูลเหล่านี้ มีความเป็นไปได้ว่ายื่นถอดถอนนายกฯ ได้จริง