วันที่ 24 มี.ค. จะอภิปรายไม่ไว้วางใจ “นายกฯ อิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร ซึ่งเดิม ฝ่ายค้านลิสต์รายชื่อรัฐมนตรีที่ต้องการอภิปรายมาจำนวนหนึ่ง แต่สุดท้ายก็ล็อกเป้าถล่มนายกฯ คนเดียวในฐานะผู้รับผิดชอบนโยบายรัฐบาล และหวังผลไปถึงขึ้นหากเกิดอะไรกับนายกฯ ครม.ต้องพ้นทั้งคณะ

ฝ่ายรัฐบาลก็โวกันใหญ่ว่า นายกฯ อิ๊งค์ยังกะ “วันเดอร์ วูแมน” ที่ชี้แจงได้ทุกเรื่อง ก่อนวันอภิปรายยังชิลชิล แถมยังอาจชี้แจง โชว์ผลงานรัฐบาลจนทำให้ฝ่ายค้านเสียรังวัดได้ เพียงแต่ขอฝ่ายค้านอย่าใช้คำหยาบ คำต่ำมาพูด อีกทั้งก็ยังตั้งข้อสังเกตว่า “จะมีเรื่องอะไรมาอภิปราย ?” เพราะนายกฯ อิ๊งค์เพิ่งทำงาน 6 เดือน จะวนเวียนอยู่แค่เรื่องชั้น 14 ก็ไม่ได้มันไปพาดพิงคนนอก อีกทั้งมั่นใจเสียงโหวตของพรรคร่วมรัฐบาลจะเป็นไปในทางเดียวกัน

ก่อนหน้านี้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม แย้มๆ ว่า “อาจมีฝ่ายค้านมาโหวตให้รัฐบาล” ก็ไม่รู้ว่าถึงเวลาจริงใครจะแสดงตัวเป็นงูเห่าในพรรคฝ่ายค้าน โดยเฉพาะพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นี่น่าสงสัยในความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันที่สุด ไม่แน่ว่า เราอาจเห็นทางออกแบบ “บัวไม่ให้ช้ำน้ำไม่ให้ขุ่น” ของคนที่ใจไม่อยู่พรรคแล้วโดยการไม่แสดงตนเป็นองค์ประชุมในการโหวต ดีกว่าการโหวตสวน

อย่างไรก็ตาม ยังมี สส.เจนสนามที่ห่วงว่า การอภิปรายไม่น่าจะราบรื่น นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า ฝ่ายค้านคงกล่าวหาบุคคลในครอบครัวนายกฯ เยอะๆ เพราะต้องการให้รัฐบาลประท้วงมากที่สุด ประชาชนจะมองในแง่ไม่ดี แต่ถ้าฝ่ายค้านทำผิดข้อบังคับการประชุมจริงๆ ก็จำเป็นต้องประท้วง พรรคเพื่อไทยไม่ลนลาน ไม่กีดกันการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ

การตัดชื่อนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีออกจากญัตติ เป็นเรื่องของประธานสภากับฝ่ายค้าน ไม่เกี่ยวกับรัฐบาล หรือการต่อรองเวลาก็เป็นเรื่องปกติ ฝ่ายค้านอย่ามาขึ้นราคาให้ตัวเอง เราไม่ให้ราคา ถ้าตีรวนปั่นป่วนมากๆ รัฐบาลมีสิทธิเสนอให้ปิดการอภิปรายได้ ยกมือตัดสิน ฝ่ายค้านก็แพ้อยู่แล้ว ถ้าอภิปรายกันดีๆ 2 วัน ไม่ว่ากัน แต่อย่ามาดราม่าว่ากันมากไป ฝ่ายค้านได้ 28 ชั่วโมง ฝ่ายรัฐบาล 7 ชั่วโมง กีดกันอภิปรายตรงไหน ถ้าจะก่อกวนมากๆ รัฐบาลเสนอปิดอภิปราย เราไม่ได้ขู่ แต่ไม่อยากทำ เชื่อว่านายกฯ อยู่กับการเมืองมาตั้งแต่เด็ก มีประสบการณ์ทำงานการเมือง ไม่กังวล มั่นใจ น.ส.แพทองธารควบคุมอารมณ์ได้ ไม่มีโกรธ และชาวบ้านอยากฟังเหตุผล ข้อเท็จจริงมากกว่าโวหาร

นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จะไม่ท้วงติงในที่ประชุมสภา ถึงกรณีมีผู้ทำหนังสือถึงนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้ทบทวนการแก้ไขญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ ที่ดำเนินการไม่ถูกต้อง เพราะมีผู้นำฝ่ายค้านลงชื่อรับรองการแก้ญัตติแค่คนเดียว ในฐานะทีมองครักษ์พิทักษ์ข้อบังคับการอภิปรายไม่ไว้วางใจอยากแนะนำ สส.ไม่ให้ประท้วงพร่ำเพรื่อ ประชาชนจะเบื่อ นิดๆ หน่อยๆ ต้องทนเอา

ผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ได้รับการเปิดเผยจากแหล่งข่าวภายในคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ว่า เมื่อวันที่ 17 มี.ค. คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้ส่งเอกสารแจ้งไปยังประธาน กกต. เกี่ยวกับคดีฮั้วเลือก สว. ไฮไลต์คือแนบสำเนาเอกสารโพยฮั้ว สว. ระดับประเทศ ชุด A จำนวน 1 แผ่น และสำเนาเอกสารโพยฮั้ว สว. ระดับประเทศ ชุด B จำนวน 1 แผ่น สำหรับเอกสารพยานหลักฐานโพยฮั้ว สว. ที่ดีเอสไอได้ส่งแจ้งไปยังประธาน กกต. รับทราบ บางช่วงบางตอนพบข้อมูลว่า มีการระบุหมายกลุ่มผู้สมัครรับเลือกการเป็น สว. ทั้ง 20 กลุ่มอาชีพ ดังนี้

กลุ่ม 1 ให้เลือกเบอร์ 7, 111, 84, 49, 95, 126, 148 กลุ่ม 2 ให้เลือกเบอร์ 20, 55, 110, 124, 136, 129, 18 กลุ่ม 3 ให้เลือกเบอร์ 123, 133, 112, 104, 51, 150, 140 กลุ่ม 4 ให้เลือกเบอร์ 66, 47, 127, 59, 84, 100, 106 กลุ่ม 5 ให้เลือกเบอร์ 111, 145, 65, 125, 108, 118, 76 กลุ่ม 6 ให้เลือกเบอร์ 79, 77, 46, 33, 152, 93, 16, 91 กลุ่ม 7 ให้เลือกเบอร์ 56, 9, 98, 10, 116, 23, 20 กลุ่ม 8 ให้เลือกเบอร์ 10, 83, 121, 102, 17, 47, 143 กลุ่ม 9 ให้เลือกเบอร์ 56, 131, 81, 121, 60, 104, 26 กลุ่ม 10 ให้เลือกเบอร์ 109, 24, 99, 123, 40, 80, 95

กลุ่ม 11 ให้เลือกเบอร์ 141, 10, 81, 104, 76, 75, 130 กลุ่ม 12 ให้เลือกเบอร์ 65, 52, 47, 32, 73, 19, 27 กลุ่ม 13 ให้เลือกเบอร์ 65, 111, 36, 123, 39, 1, 9 กลุ่ม 14 ให้เลือกเบอร์ 140, 85, 17, 148, 128, 24, 21 กลุ่ม 15 ให้เลือกเบอร์ 50, 3, 58, 6, 35, 116, 123 กลุ่ม 16 ให้เลือกเบอร์ 143, 112, 79, 59, 109, 69, 148 กลุ่ม 17 ให้เลือกเบอร์ 56, 83, 130, 23, 117, 71, 132 กลุ่ม 18 ให้เลือกเบอร์ 127, 18, 111, 129, 144, 37, 22 กลุ่ม 19 ให้เลือกเบอร์ 3, 5, 122, 22, 2, 152, 108 กลุ่ม 20 ให้เลือกเบอร์ 4, 106, 144, 85, 91, 31, 100

แหล่งข่าวจากดีเอสไอเปิดเผยด้วยว่า โพยฮั้วดังกล่าว คณะพนักงานสอบสวนได้เอกสารมาจากที่เกิดเหตุ เมื่อนำหมายเลขไปขยายผลตรวจสอบก็พบว่าปัจจุบันนี้ได้รับเลือกเป็น สว. ตัวจริง 138 ราย พยานหลักฐานเอกสารโพยฮั้วนี้ สามารถใช้ดำเนินการในฐานความผิดคดีอาญาฐานความผิดฟอกเงิน และอาจขยายไปยังฐานความผิดอั้งยี่ได้ (การสมคบกันในความผิดฐานฟอกเงินของบุคคลหรือคณะบุคคลที่กระทำผิดเป็นอั้งยี่ตามมาตรา 209 แห่ง ป.อาญา )

หากที่สุดแล้ว การได้มาซึ่ง สว.ไม่สุจริต จะต้องยื่นเรื่องไปยังศาลฎีกา ตามรายละเอียดที่กำหนดไว้ในมาตรา 62 เมื่อศาลฎีกามีคำสั่งรับคำร้องไว้พิจารณาแล้ว ถ้าผู้ถูกกล่าวหาเป็นสมาชิกวุฒิสภา ให้ผู้นั้นหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลฎีกาจะพิพากษาว่าผู้นั้นมิได้กระทำความผิด ผู้ถูกกล่าวหาซึ่งอยู่ในบัญชีสำรองก็มีความผิดด้วย กกต.ได้มอบหมายให้ดีเอสไอหรือพนักงานสอบสวนตำรวจไปดำเนินการในคดีอาญา ตามคดีพิเศษที่ 24/2568 ที่ดีเอสไอดำเนินการอยู่ขณะนี้ก็คือการสอบสวนความผิดทางอาญาไม่ว่าจะเป็นฐานความผิดอั้งยี่ ฟอกเงิน ความมั่นคง เป็นต้น

สำหรับนโยบายสำคัญของรัฐบาล เรื่องกาสิโน สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” เปิดเผยผลการสำรวจเรื่อง “คำถามคาใจ เรื่องสถานบันเทิงครบวงจร” สำรวจระหว่างวันที่ 18-20 มี.ค. 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ทั่วประเทศ รวมจำนวนทั้งสิ้น 1,310 หน่วยตัวอย่าง

เมื่อถามถึงคำถามคาใจของประชาชนเกี่ยวกับนโยบายการอนุญาตการลงทุนในเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่รวมกาสิโน พบว่า 32.60% สงสัยว่า นโยบายนี้จะทำให้บ้านเมืองเต็มไปด้วยอบายมุข และทำลายความมั่นคงของชาติจริงหรือไม่ 30.23% สงสัยว่าจะช่วยให้เศรษฐกิจของประเทศดีขึ้นได้จริงหรือไม่ อย่างไร 28.09% สงสัยว่า รัฐบาลจะมีมาตรการอะไรในการป้องกันไม่ให้คนไทยติดการพนัน 24.89% สงสัยว่า รัฐบาลจะมีมาตรการอะไรในการป้องกันไม่ให้เป็นแหล่งฟอกเงิน 24.66% สงสัยว่า รัฐบาลจะป้องกันไม่ให้เป็นแหล่งกำเนิดของผู้มีอิทธิพลและคดีอาชญากรรมต่าง ๆ ได้อย่างไร

คำถามว่าเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์พ่วงกาสิโนจะตั้งที่ไหน ได้ผลในสัดส่วนที่เท่ากันกับ 7.40% ที่สงสัยว่า ทำไมจะต้องเร่งรัดนโยบายให้เกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้ 5.73% สงสัยว่า คนไทยต้องมีคุณสมบัติอย่างไรถึงจะเข้ากาสิโนได้ 4.50% สงสัยว่า รัฐบาลจะแน่ใจได้อย่างไรว่าเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์พ่วงกาสิโนจะไม่ขาดทุน

เมื่อถามความคิดเห็นของประชาชนต่อความขัดแย้งทางสังคมและการเมือง จากนโยบายการอนุญาตการลงทุนเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ที่รวมกาสิโน พบว่า 31.83% ระบุว่า จะนำไปสู่ความขัดแย้งรอบใหม่ที่รุนแรง 31.68% ระบุว่า จะนำไปสู่ความขัดแย้งรอบใหม่ แต่ไม่รุนแรง

สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นเฉพาะประชาชนที่มีหนี้สินต่อกรณี “ซื้อหนี้แก้ปัญหาให้ประชาชน” กลุ่มตัวอย่างเป็นประชาชนที่มีหนี้สิน จำนวน 1,153 คน พบว่า กลุ่มตัวอย่างมีหนี้ในระบบสถาบันการเงิน ธนาคาร บัตรเครดิต มากที่สุด 51.60% จัดการด้วยการชำระเฉพาะขั้นต่ำทุกงวด 25.09% กรณีแนวคิดของ “อดีตนายกฯแม้ว”ทักษิณ ชินวัตร ที่จะซื้อหนี้ประชาชนออกจากระบบธนาคาร ให้ผ่อนชำระใหม่แบบลดภาระ ล้างเครดิตบูโรโดยไม่ใช้เงินของรัฐ กลุ่มตัวอย่างที่มีหนี้เห็นด้วย 62.19% เพราะช่วยรวมหนี้ทั้งหมดมาไว้ที่เดียว ดอกเบี้ยถูกลง ช่วยให้คนที่มีหนี้สบายใจขึ้น มีผู้มองว่า เรื่องแนวคิดซื้อหนี้ จะช่วยแก้ปัญหาหนี้สินของคนไทยให้หมดไปได้ 57.73%

ก็เป็นนโยบายที่ฮือฮา และถ้าแก้ปัญหาหนี้สินครัวเรือนได้ แถมช่วยประชาชนเข้าถึงสินเชื่อได้จริงก็ยิ่งดี

ช่วงเย็น “อดีตนายกฯแม้ว”ทักษิณ ชินวัตร ไปร่วมงานแต่งงานระหว่าง “เอก”จักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ และ“ป๊อบ”สุไพรพล ช่วงชู ที่หัวลำโพง อดีตนายกฯแม้ว ให้สัมภาษณ์กรณีผลสำรวจดุสิตโพลประชาชนส่วนใหญ่เห็นด้วยกับนโยบายซื้อหนี้ประชาชน ว่า เป็นเรื่องที่ต้องทำ ต้องหาทางให้ประชาชนสามารถเริ่มต้นใหม่ โดยการพยายามแก้หนี้ให้เขา หรือปรับโครงสร้างหนี้ให้เขาสามารถชำระหนี้ได้มีเครดิตใหม่  การพูดคุยกับเอกชนที่รับซื้อหนี้ไม่มีปัญหา ทุนนิยมต้องการกำไรจึงอยู่ได้ ถ้าธนาคารให้ดอกเบี้ยสูงกว่านี้เขาก็มา การแก้หนี้ภาคประชาชน ภาคครัวเรือนจะเกิดขึ้นในปีนี้ และน่าจะไปได้ดี 

ส่วนเรื่องเงินดิจิทัลที่หลายคนมองว่ากระตุ้นเศรษฐกิจไม่ได้อย่างที่ว่าก็ขอให้ใจเย็นๆ ถ้าเราไม่ทำอะไรเลย เศรษฐกิจจะไหลลงมากกว่านี้  เรื่องดิจิทัลวอลเล็ตมันเป็นสิ่งที่ต้องใช้ในอนาคต และอีกหน่อยทุกคนจะรู้จักพรรคเพื่อไทย เพราะทุกคนต้องมีกระเป๋าเงินดิจิทัล ในอนาคตจะมีสินทรัพย์ทางดิจิทัลอีกมากมาย  ซึ่งจะไปผ่านดิจิทัลวอลเล็ตตัวนี้

ผู้สื่อข่าวถามถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ “พ่อแม้ว”ตอบว่า“ลูกอิ๊งค์”คงตอบได้ทุกเรื่อง อะไรที่อยู่ในกรอบกติกาตอบได้หมด  อะไรตอบไม่ได้ก็ต้องบอกให้รู้ว่า มันไม่อยู่ในกติกา ได้เจอ น.ส.แพทองธารเมื่อสักครู่ก็ยังเห็นว่าอารมณ์ดีอยู่ ได้นั่งคุยกันและทำการบ้านนิดหน่อย เพื่อให้ได้ข้อมูลที่แน่นขึ้น นายกฯ หลับสบาย

ผู้สื่อข่าวถามว่า ประเด็นหนึ่งที่ฝ่ายค้านหยิบยกขึ้นมาคือ การดีลแลกประเทศ และดีลหลังจากนี้คือการดีลให้“อดีตนายกฯปู”ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กลับประเทศ นายทักษิณ กล่าวว่า เป็นวาทกรรม เป็นพรรคคนรุ่นใหม่อย่าไปใช้วาทกรรมเยอะมันไม่เหมาะ ใครมีสิทธิ์แลกประเทศ อย่าไปใช้วาทกรรมมันเลอะเทอะ หมดสภาพ ที่เคยอยากให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์กลับมาเล่นน้ำสงกรานต์ปี 68  ความอยากกับความเป็นจริงอาจจะไม่ตรงกัน อยากให้มาแต่ยังมาไม่ได้ จังหวะเหมาะเมื่อไรค่อยมา  

เมื่อถามอีกว่า ในวันที่ 24 มี.ค. จะมีการมอนิเตอร์ช่วยนายกฯหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า “ผมมอนิเตอร์แน่นอน หากอยากด่าผม ผมได้ยิน ด่าได้เลย ผมได้ยินนะ ถ้ามีประเด็นแตะผมไม่เป็นไร ผมอยู่ในการเมืองมา 50 ปี ตั้งแต่อายุ 25 ปี เห็นพวกนี้มาเยอะแล้ว ไม่รู้จะตื่นเต้นอะไรแล้ว   อยากให้พรรค ปชน.เป็นพรรคของคนรุ่นใหม่จริงๆ  คนรุ่นใหม่เขาตรงไปตรงมา ไม่ใช้วาทกรรม มีอะไรก็ถามกันตรงๆ ตอบกันตรงๆ แล้วก็จบ”  

“ทีมข่าวการเมือง”