เมื่อวันที่ 23 มี.ค. สืบเนื่องจากกรณีที่คณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) มีมติเห็นชอบให้รับคดีความผิดอาญาฐานฟอกเงิน ในคดีฮั้ว สว.67 ไว้เป็นคดีพิเศษที่ 24/2568 ด้วยมติชี้ขาด 11 เสียง จากทั้งหมด 18 เสียง ไม่เห็นชอบ 4 เสียง และงดออกเสียง 3 เสียง ต่อมาโดยอำนาจของอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ได้เซ็นคำสั่งแต่งตั้งคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ 41 รายชื่อ เพื่อสืบสวนและสอบสวนตาม พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม จากนั้นสำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด ได้แจ้งชื่อพนักงานอัยการ 5 ราย ซึ่งเป็นพนักงานอัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน และอัยการผู้เชี่ยวชาญ ให้มาสอบสวนร่วมกับพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กรณีการสมคบกันในความผิดฐานฟอกเงินของบุคคลหรือคณะบุคคลที่กระทำความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 209 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง อันเป็นการกระทำความผิดตามบัญชีท้ายประกาศ กคพ.(ฉบับที่ 8) พ.ศ.2565 เรื่อง กำหนดรายละเอียดของลักษณะของการกระทำความผิดที่เป็นคดีพิเศษตามมาตรา 21 วรรคหนึ่ง (1) แห่ง พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ ข้อ 7 คดีความผิดตามกฎหมาย ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เป็นคดีพิเศษ ตามมาตรา 21 วรรคหนึ่ง (1) (ก) (ข) (ค) (ง) แห่ง พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ตามที่ได้มีการรายงานข่าวไปอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ “ผู้สื่อข่าวเดลินิวส์” ได้รับการเปิดเผยจากแหล่งข่าวภายในคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ว่า เมื่อวันที่ 17 มี.ค.ที่ผ่านมา คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้มีการส่งเอกสารแจ้งไปยังประธาน กกต. เรื่อง ขอแจ้งการรับคดีพิเศษที่ 24/2568 และส่งพยานหลักฐานตามมาตรา 4 และมาตรา 49 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ. 2560 อ้างถึงหนังสือ 8 ฉบับ ได้แก่ 1.หนังสือสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ด่วนที่สุด ที่ ลต 0006/12175 ลงวันที่ 26 ส.ค.67 2.หนังสือสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ที่ ลต 0006/ว0019 ลงวันที่ 13 ส.ค.67 3.หนังสือกรมสอบสวนคดีพิเศษที่ ยธ 0824/4754 ลงวันที่ 25 ก.ย.67 4.หนังสือสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ลับ ด่วนที่สุด ที่ ลต 0006/404 ลงวันที่ 22 ม.ค.68 5.หนังสือกรมสอบสวนคดีพิเศษ ลับ ด่วนที่สุด ที่ ยธ 0824/0050 ลงวันที่ 3 ก.พ.68 6.หนังสือสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ลับ ด่วนที่สุด ที่ ลต 0006/904 ลงวันที่ 18 ก.พ.68 7.หนังสือกรมสอบสวนคดีพิเศษ ลับ ด่วนที่สุด ยธ 0816/082 ลงวันที่ 27 ก.พ.68 และ 8.หนังสือสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ลับ ด่วนที่สุด ที่ ลต 0006/1179 ลงวันที่ 4 มี.ค.68 พร้อมทั้งแนบสำเนาเอกสารโพยฮั้ว สว. ระดับประเทศ ชุด A จำนวน 1 แผ่น และสำเนาเอกสารโพยฮั้ว สว. ระดับประเทศ ชุด B จำนวน 1 แผ่น ซึ่งเป็นการประสานงานและความร่วมมือเพื่ออำนวยความยุติธรรมระหว่างคณะกรรมการการเลือกตั้งและกรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่มีมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการดำเนินการให้เกิดประสิทธิภาพในการสืบสวนสอบสวน การบังคับใช้กฎหมาย และอำนวยความยุติธรรม จึงได้มีการขอแจ้งการรับคดีพิเศษที่ 24/2568 และพยานหลักฐานที่สำคัญ

สำหรับเอกสารพยานหลักฐานโพยฮั้ว สว. ที่ดีเอสไอได้ส่งแจ้งไปยังประธาน กกต. รับทราบ บางช่วงบางตอนพบข้อมูลว่า มีการระบุหมายกลุ่มผู้สมัครรับเลือกการเป็น สว. ทั้ง 20 กลุ่มอาชีพ ดังนี้
กลุ่ม 1 ให้เลือกเบอร์ 7, 111, 84, 49, 95, 126, 148
กลุ่ม 2 ให้เลือกเบอร์ 20, 55, 110, 124, 136, 129, 18
กลุ่ม 3 ให้เลือกเบอร์ 123, 133, 112, 104, 51, 150, 140
กลุ่ม 4 ให้เลือกเบอร์ 66, 47, 127, 59, 84, 100, 106
กลุ่ม 5 ให้เลือกเบอร์ 111, 145, 65, 125, 108, 118, 76
กลุ่ม 6 ให้เลือกเบอร์ 79, 77, 46, 33, 152, 93, 16, 91
กลุ่ม 7 ให้เลือกเบอร์ 56, 9, 98, 10, 116, 23, 20
กลุ่ม 8 ให้เลือกเบอร์ 10, 83, 121, 102, 17, 47, 143
กลุ่ม 9 ให้เลือกเบอร์ 56, 131, 81, 121, 60, 104, 26
กลุ่ม 10 ให้เลือกเบอร์ 109, 24, 99, 123, 40, 80, 95
กลุ่ม 11 ให้เลือกเบอร์ 141, 10, 81, 104, 76, 75, 130
กลุ่ม 12 ให้เลือกเบอร์ 65, 52, 47, 32, 73, 19, 27
กลุ่ม 13 ให้เลือกเบอร์ 65, 111, 36, 123, 39, 1, 9
กลุ่ม 14 ให้เลือกเบอร์ 140, 85, 17, 148, 128, 24, 21
กลุ่ม 15 ให้เลือกเบอร์ 50, 3, 58, 6, 35, 116, 123
กลุ่ม 16 ให้เลือกเบอร์ 143, 112, 79, 59, 109, 69, 148
กลุ่ม 17 ให้เลือกเบอร์ 56, 83, 130, 23, 117, 71, 132
กลุ่ม 18 ให้เลือกเบอร์ 127, 18, 111, 129, 144, 37, 22
กลุ่ม 19 ให้เลือกเบอร์ 3, 5, 122, 22, 2, 152, 108
กลุ่ม 20 ให้เลือกเบอร์ 4, 106, 144, 85, 91, 31, 100

คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เผยอีกว่า สำหรับเอกสารฉบับดังกล่าวที่ดีเอสไอดำเนินการแจ้งไปยังประธาน กกต. นั้น มีวัตถุประสงค์เพื่อแจ้งให้ทราบตามที่ กกต. แจ้งมาว่ายังไม่ปรากฏว่าดีเอสไอรับเรื่องไว้ ฉะนั้น เมื่อรับเป็นคดีพิเศษแล้วก็แจ้งให้ กกต.ทราบพร้อมข้อมูลบางส่วนที่รวบรวมไว้ ที่เชื่อว่ามีมูลการกระทำความผิดอาญาเกิดขึ้นเพื่อเป็นการประสานข้อมูลระหว่างหน่วยงานของรัฐด้วยกัน
คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เผยต่อว่า สำหรับโพยฮั้วดังกล่าว คณะพนักงานสอบสวนได้เอกสารมาจากที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นโพยของแต่ละคน จากแต่ละเเห่ง มันมีโพยที่มีลักษณะคล้ายกัน และตามที่เห็นหมายเลขปรากฏในโพย เมื่อนำหมายเลขไปตรวจสอบ มันก็คือหมายเลขของผู้สมัครรับเลือก สว. รายนั้น ๆ และเมื่อนำหมายเลขในโพยไปขยายผลตรวจสอบก็พบว่าปัจจุบันนี้ได้รับเลือกเป็น สว. ตัวจริง 138 ราย
อย่างไรก็ตาม พยานหลักฐานเอกสารโพยฮั้วนี้ สามารถใช้ดำเนินการในฐานความผิดคดีอาญาทั้งฐานความผิดฟอกเงิน และฐานความผิดอั้งยี่ ส่วนกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการ 7 ราย โดยมี 3 รายเป็นเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานของคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนนั้น จะดำเนินการในเรื่องของการยื่นถอดถอน เพิกถอนการเป็นสมาชิก สว. ซึ่งเป็นไปตามมาตรา 62 แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 หากเป็นการได้มาโดยไม่สุจริต ก็จะต้องมีการยื่นเรื่องไปยังศาลฎีกา ตามรายละเอียดที่กำหนดไว้ในมาตรา 62 ว่า

“เมื่อคณะกรรมการประกาศผลการเลือกตามมาตรา 42 วรรคสอง แล้ว ถ้ามีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าผู้สมัครหรือผู้ใดกระทำการอันเป็นการทุจริตในการเลือก หรือรู้เห็นกับการกระทำของบุคคลอื่น อันทำให้การเลือกมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม ให้คณะกรรมการยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาเพื่อสั่งให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง หรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้น เมื่อศาลฎีกามีคำสั่งรับคำร้องไว้พิจารณาแล้ว ถ้าผู้ถูกกล่าวหาเป็นสมาชิกวุฒิสภา ให้ผู้นั้นหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลฎีกาจะพิพากษาว่าผู้นั้นมิได้กระทำความผิด เมื่อศาลฎีกามีคำพิพากษาว่าผู้นั้นกระทำความผิดให้สมาชิกภาพของสมาชิกวุฒิสภาผู้นั้นสิ้นสุดลงนับแต่วันที่หยุดปฏิบัติหน้าที่ ให้นำความในวรรคหนึ่งมาใช้บังคับแก่ผู้ถูกกล่าวหาซึ่งอยู่ในบัญชีสำรองด้วย และเมื่อศาลฎีกามีคำพิพากษาว่าผู้นั้นกระทำความผิด ให้คณะกรรมการสั่งลบรายชื่อผู้นั้นออกจากบัญชีสำรอง และให้นำความในมาตรา 46 วรรคสอง มาใช้บังคับด้วยโดยอนุโลม”
คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เผยด้วยว่า ทั้งนี้ ในเรื่องของการแจ้งข้อกล่าวหา หากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้มอบหมายให้ดีเอสไอหรือพนักงานสอบสวนตำรวจไปดำเนินการในคดีอาญา ก็จะต้องเป็นหน่วยงานนั้นรับไปดำเนินการต่อ ซึ่งตามคดีพิเศษที่ 24/2568 ซึ่งดีเอสไอดำเนินการอยู่ขณะนี้นั้นก็คือการสอบสวนความผิดทางอาญาไม่ว่าจะเป็นฐานความผิดอั้งยี่ ฟอกเงิน ความมั่นคง เป็นต้น.