เมื่อวันที่ 23 มี.ค. 68 พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการ พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ ผบก.ปอศ. พ.ต.อ.เมฆพิศาล ศรีภิรมย์ ผกก.5 บก.ปอศ. และ พ.ต.ท.สุทธิพงษ์ มอญรัตน์ นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปอศ. เปิดยุทธการปูพรมปราบปรามนายทุนเงินกู้นอกระบบในพื้นที่ กทม., ปทุมธานี, ชลบุรี, ขอนแก่น และ เชียงใหม่
โดยที่ จ.ชลบุรี จับกุม นายพิมพ์พันธุ์ หรือ ติ๊ก อายุ 48 ปี นายทุนใหญ่เครือข่ายเงินกู้แก๊ง “พลอยสยาม เงินทุน” กับนายป๋อง อายุ 32 ปี และ น.ส.อัญชลี อายุ 29 ปี สองลูกสมุน พร้อมของกลางนามบัตร พิมพ์คำว่า “พลอยสยาม เงินทุน” จำนวน 9 ลังกว่า 2 แสนใบ และเอกสารลูกหนี้ที่เกี่ยวข้องกับการกู้ยืมเงินอีกจำนวนหลายรายการ ทั้งนี้เครือข่ายดังกล่าวปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ย ร้อยละ 2 ต่อวัน หรือร้อยละ 730 ต่อปี หากลูกหนี้ผิดนัดส่งดอกเบี้ยก็จะส่งคนไปใช้อาวุธปืนข่มขู่ นอกจากนี้ยังมีพฤติกรรมโพสต์ภาพอาวุธปืนและซื้อขายกันผ่านโซเชียลทำให้ผู้เสียหายหวาดกลัว
ส่วน จ.ขอนแก่น เข้าจับกุม นายณัฐนันท์ อายุ 31 ปี หลังเปิดเพจเฟซบุกปล่อยเงินกู้นอกระบบชื่อ “MC Credits” คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1.546 ต่อวัน หรือร้อยละ 564.43 ต่อปี เน้นลูกค้าเป็นเจ้าของธุรกิจ หากผ่อนชำระหรือส่งดอกเบี้ยไม่ตรงกำหนดจะส่งข้อความไปทวงหนี้แม้ว่าได้ชำระหนี้จนเกินยอดเงินต้นไปเป็นจำนวนมาก ทำให้ผู้เสียหายหวาดกลัวเกรงว่าไม่ปลอดภัย
จ.ปทุมธานี และ กทม. จับกุม นายสุรทิน อายุ 63 ปี น.ส.รัสรินทร์ อายุ 59 ปี และ น.ส.ภัทราพร อายุ 24 ปี แก๊งเงินกู้นอกระบบหัวหมอย่าน อ.สามโคก และเขตวังทองหลาง ปล่อยเงินกู้ โดยคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 10 ต่อเดือน หรือร้อยละ 120 ต่อปี และบังคับให้เขียนสัญญากู้ไม่ตรงกับความเป็นจริง เช่น โอนเงินให้ลูกหนี้ 50,000 บาท แต่ให้เขียนสัญญา 250,000 บาท หากลูกหนี้ชำระหนี้ไม่ตรงเวลาก็จะนำสัญญาดังกล่าวไปฟ้องต่อศาล และบังคับคดียึดทรัพย์ อายัดทรัพย์สินจำนวนหลายราย
ขณะที่ จ.เชียงใหม่ จับกุมนางกัลยา อายุ 46 ปี นายทุนเงินกู้และรับจำนำรถยนต์เรียกดอกร้อยละ 186 ต่อปี เมื่อลูกหนี้ผิดนัดชำระหนี้จะบังคับยึดรถยนต์หรือรถจยย.ไปสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านจนทนไม่ไหวพาแห่พากันมาร้องทุกข์กับตำรวจ ปอศ.
ทั้งนี้ สรุปผลการตรวจค้นทั้งสิ้น 5 จังหวัดใหญ่ทั่วประเทศดำเนินคดีกับผู้ต้องหา 8 ราย ตรวจยึดคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ, โทรศัพท์มือถือ, แท็บเล็ต, สมุดบัญชีธนาคาร, นามบัตร, กุญแจรถจยย. และรถยนต์, เอกสารรับจำนำรถ, สัญญาเช่าที่ดิน รวมหลายรายการไว้เป็นหลักฐานส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป.
