เมื่อวันที่ 23 มี.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 20.00 น. วานนี้ (22 มี.ค.) น.ส.พรรษชล (สงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.พิศาล หงษ์ฝาแก้ว รอง สว.(สอบสวน) สภ.บางละมุง หลังบุตรชาย อายุ 16 ปี ที่บวชเป็นสามเณร ศึกษาหลักธรรมเพิ่มเติม ที่วัดดังแห่งหนึ่งในพื้นที่หมู่ 1 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ได้ถูกพระมหาฯ รูปหนึ่ง ซึ่งเป็นพระพี่เลี้ยงใช้ไม้ฟาดตามลำตัว และบริเวณใบหน้าจนทำให้กรามหัก อาการสาหัส ต้องเข้ารับการรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ชลบุรี

น.ส.พรรษชล เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นในช่วงเวลา 09.00 น.ของวันเดียวกัน โดยสามเณรถูกพระพี่เลี้ยงใช้ไม้ฟาดตามลำตัว และที่บริเวณใบหน้า จนได้รับบาดเจ็บสาหัส หมอยืนยันว่า กรามหัก 2 ท่อน ต้องทำการผ่าตัดเร่งด่วน นอกจากนี้ ยังพบเพื่อนสามเณรอีกจำนวน 3 รูป โดยรูปแรกถูกตีศีรษะแตก ส่วนที่เหลือฟกช้ำตามร่างกาย ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย รักษาตัวที่โรงพยาบาล ส่วนสาเหตุเท่าที่ฟังมาเกิดจากพระพี่เลี้ยง ได้มาปลุกสามเณรให้ตื่นนอน แต่สามเณรไม่ลุก จึงใช้ไม้ไม่ทราบขนาดตี
“หัวอกของคนเป็นแม่รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างมาก ซึ่งในช่วงตอนเกิดเหตุไม่รู้เรื่องเลย โดยมารู้อีกทีในช่วงเย็นแล้ว มีพระพี่เลี้ยงรูปอื่นโทรฯ มาแจ้งว่า สามเณรถูกนำตัวส่งรักษาที่ รพ.ชลบุรี ซึ่งยืนยันว่า เณรเป็นเด็กไม่เกเร หรือดื้อ ไม่งั้นคงไม่อยากมาบวชเรียนเป็นพระ ถ้าหากย้อนกลับไปช่วงที่จำความได้ เณรอยากบวชเป็นพระตั้งแต่ในช่วง ป.2 และหลังจบ ป.6 จึงขอมาศึกษาบวชเรียนธรรมะ ซึ่งไม่ใช่จะไม่ให้พระพี่เลี้ยงตี ตีได้แต่ไม่ใช่ตีจนอาการสาหัสแบบนี้ เป็นการกระทำที่รุนแรงเกินไป ไม่มีพ่อแม่คนไหนรับได้ หลังจากนี้ เณรจะใช้ชีวิตอย่างไร เพราะต้องยังอยู่วัดเดิม ยืนยันว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เพราะสงสารเณรที่ต้องมาเจอกับเหตุการณ์ร้ายๆ แบบนี้ และไม่อยากให้พระพี่เลี้ยงไปก่อเหตุทำกับเณรรูปอื่นอีก” น.ส.พรรษชล กล่าว

ต่อมา ทีมข่าวเดินทางไปยังวัดที่เกิดเหตุ พูดคุยกับพระในวัดรูปหนึ่ง โดยเปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวไม่ใช่พระในวัดเป็นผู้กระทำ แต่เป็นพระจากวัดดังในกรุงเทพมหานคร ที่มาขอใช้พื้นที่ของทางวัดในการจัดอบรมศึกษาเล่าเรียนธรรมะในภาคภาษาบาลีกับทางสามเณร โดยจะใช้พื้นที่ประมาณ 1 เดือน ซึ่งไม่เกี่ยวกับทางวัด ส่วนสาเหตุที่ได้ยินมา เนื่องจากไปปลุกสามเณร แต่ไม่ยอมตื่นกัน จึงใช้ไม้ตีจนได้รับบาดเจ็บ หลังเกิดเหตุเห็นว่า ทางเจ้าหน้าที่ปลัดอำเภอบางละมุง และตำรวจลงพื้นที่มาตรวจสอบแล้ว
อย่างไรก็ตาม ในคดีความคงจะต้องรอเจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่ตรวจสอบ และเชิญตัวทั้งหมดมาสอบสวนอีกครั้ง เพื่อหาข้อสรุป ซึ่งจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และจะดำเนินคดีตามกฎหมายไม่มีข้อยกเว้น หากพบผู้กระทำความผิด.