นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง กล่าวถึงการซื้อหนี้คนไทยที่มีหนี้ต่ำกว่า 1 แสนบาทมาบริหาร ว่า เรื่องนี้รัฐบาลจำเป็นต้องแก้ไขจากรายย่อยก่อน เนื่องจากตอนนี้ไทยเผชิญวิกฤติเศรษฐกิจ แต่รอบนี้เกิดจากคนฐานราก ไม่เหมือนปี 40 ที่เกิดกับกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ โดยการเลือกหนี้เสียที่ต่ำกว่า 100,000 บาท เพราะเป็นกลุ่มคนส่วนมากในระบบ และมีต้นทุนการแก้ไขที่ไม่สูง หากแก้ไขได้ จะช่วยลดปัญหาหนี้นอกระบบ และยอดหนี้ครัวเรือนให้ต่ำลง ตลอดจนช่วยเพิ่มกำลังซื้อให้เศรษฐกิจฟื้นได้

“ยืนยันว่ารัฐบาลจะไม่ได้ซื้อหนี้เสีย 1.22 ล้านล้านบาท มาบริหารทั้งระบบ แต่จะเลือกเฉพาะกลุ่มที่ต่ำกว่า 100,000 บาท โดยกลุ่มนี้จะ เป็นหนี้เสียที่ค้างเกิน 1 ปี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินเชื่อบุคคลหรือนำไปใช้อุปโภคบริโภคที่มีวงเงินไม่มาก มีคนที่เกี่ยวข้องประมาณ 3.5 ล้านคน หรือคิดเป็น 65% ของคนที่เป็นหนี้เสีย มีมูลหนี้ประมาณ 1.2 แสนล้านบาท คิดเป็น 10% ของเอ็นพีแอล”

ทั้งนี้ ยืนยันว่าการเข้าไปซื้อหนี้ หากจะใช้งบก็จะใช้ให้น้อยที่สุด เพราะตอนนี้มีเงินที่ใช้ไม่หมด จากโครงการคุณสู้เราช่วย ที่กันมาจากกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (เอฟไอดีเอฟ) ซึ่งยังเหลืออีก 2-3 หมื่นล้านบาทต่อปี โดยการเข้าไปซื้อก็จะใช้เงินไม่เยอะ อาจจะขอซื้อจากแบงก์ในราคา 1% ของมูลหนี้เสียเท่านั้น ซึ่งมองว่าเป็นไปได้ เนื่องจากลูกหนี้กลุ่มนี้ สถาบันการเงินมีการตั้งสำรองเผื่อหนี้สูญไปครบถ้วนหมดแล้ว และนำไปหักค่าใช้จ่ายภาษี 20% ด้วย ซึ่งหากขายจะช่วยเคลียร์บัญชีให้โล่ง และเท่าที่ทราบ ที่ผ่านมาก็มีการขายหนี้ราคาไม่ถึง 1% ด้วยซ้ำ

นายพิชัย กล่าวว่า จากนี้ต้องไปหารือกับสถาบันการเงินก่อน หากมีการซื้อหนี้กลับมาสำเร็จ ก็จะมีการนำไปให้บริษัทที่ทำหน้าที่บริหารหนี้เสียเป็นผู้ดูแล ซึ่งจะมีการตั้งใหม่ หรือที่มีอยู่แล้วก็จะพิจารณาดูอีกที แต่เป้าหมาย เพื่อให้ประชาชนกลุ่มนี้เข้ามาผ่อนจ่ายได้ในราคาต้นทุน บวกค่าบริหารจัดการ เพราะรัฐจะไม่คิดกำไร อย่างไรก็ตาม ลูกหนี้กลุ่มนี้หากผ่อนแล้ว จะยังติดประวัติเครดิตบูโรอยู่ แต่อาจจะหาทางทำให้หลุดเร็วขึ้น ขณะเดียวกัน คลังก็จะออกกลไก ให้สามารถเข้าถึงเงินใหม่ได้ ในช่วงที่ติดเครดิตอยู่ เช่น ธนาคารออมสิน ที่ให้กู้รายละ 10,000-20,000 บาท หรือเวอร์ชวล แบงก์ ตลอดจนสินเชื่อจากบริษัทเอกชนอื่นๆ ก็มีการให้กู้อยู่ โดยไม่ได้ดูบูโร ซึ่งแม้ดอกเบี้ยจะสูงกว่าทั่วไปบ้าง แต่ก็ยังต่ำกว่าหนี้นอกระบบที่คิดถึง 100%

ส่วนข้อครหามาตรการซื้อหนี้ประชาชน จะสร้างนิสัยเสียให้คนติดหนี้ เรื่องนี้มีการชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสียแล้ว มองเป็นกลุ่มคนที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ หรือหากใครมีวิธีแก้อื่นที่ดีกว่า เสนอมาได้ ก็พร้อมจะรับฟัง