เมื่อวันที่ 22 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงบ่ายวันที่ 21 มี.ค. ที่ผ่านมา ชุดปฏิบัติการพิเศษ “พยัคฆ์ไพร” นำโดย นายชาญชัย กิจศักดาภาพ ผอ.ส่วนปฏิบัติการพิเศษ หัวหน้าหน่วยเฉพาะกิจปราบปรามพิเศษ (พยัคฆ์ไพร) กรมป้าไม้ สนธิกำลังตำรวจ ปทส., หน่วยนาวิกโยธิน ทหารเรือ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจยึดแปลงป่าที่ถูกบุกรุกในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าตกพรม ท้องที่หมู่ที่ 4 บ้านโชคดี (บ้านเขาขาด) ต.บ่อเวฬุ อ.ขลุง จ.จันทบุรี อย่างต่อเนื่อง หลังจากเมื่อวันก่อน ลงพื้นที่ไปตรวจสอบพื้นที่เปิดป่าใหม่ เตรียมทำสวนทุเรียนขนาดใหญ่และมังคุด ใช้เครื่องจักรกลหนักเข้าปรับพื้นที่เป็นขั้นบันได พร้อมระบบน้ำที่ถูกติดตั้งอย่างเป็นระบบ บ่งชี้ว่าเป็นแปลงเพาะปลูกที่มีการลงทุนสูง อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าตกพรม ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของกรมป่าไม้
‘พยัคฆ์ไพร’ ลุยตรวจ ‘รุกป่า-ขุดเขา’ จุดใหม่บ้านเขาขาด ‘ป.ป.ช.-ป.ป.ท.’ ชี้เป็นคดีแล้ว 32 คดี

จากการระดมกำลังทั้งชุดพยัคฆ์ไพร ตำรวจ ปทส. และนาวิกโยธิน ร่วมลงสำรวจพื้นที่เก็บข้อมูลภาพถ่ายและพิกัดอย่างละเอียด พบไม้หวงห้ามขนาดใหญ่หลากหลายชนิด ถูกโค่นล้มในวงกว้าง บางส่วนถูกเผาเพื่อทำลายหลักฐาน โดยยังพบตอไม้หลงเหลือจำนวนมาก เช่น ไม้ตาเสือ ไม้กระบก ไม้ยางนา ไม้ยวน ไม้มะหาด ไม้กระบาก และไม้สงพง เมื่อวัดพื้นที่โดยใช้พิกัด GPS และอากาศยานไร้คนขับ (โดรน) พบว่าพื้นที่บุกรุกมีขนาด 61 ไร่ 1 งาน 57 ตารางวา และเมื่อตรวจสอบกับระบบภูมิสารสนเทศ ยืนยันว่าพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ โดยไม่ปรากฏหลักฐานการถือครอง หรือได้รับอนุญาตตามกฎหมาย หรือโครงการ คทช. แต่อย่างใด

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดพื้นที่และของกลางทั้งหมด พร้อมแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.ตกพรม ดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 มาตรา 14 ประกอบมาตรา 31 มาตรา 26/4, พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 11 ประกอบมาตรา 73 มาตรา 54 ประกอบมาตรา 72 ตรี และมาตรา 69 นอกจากนี้ จากการขยายผลตรวจสอบพื้นที่ข้างเคียง พบเส้นทางเชื่อมต่อไปยังแปลงที่ดินที่มีชื่อบุคคลหนึ่งครอบครองในโครงการ คทช. ซึ่งจะมีการออกหมายเรียกเพื่อสอบสวนและประกอบการดำเนินคดีต่อไป

นายชาญชัย ผอ.ส่วนปฏิบัติการพิเศษฯ หัวหน้าชุดพยัคฆ์ไพร ให้สัมภาษณ์ถึงความมุ่งมั่นในการปฏิบัติหน้าที่ว่า เจ้าหน้าที่จะเดินหน้าปกป้องผืนป่าอย่างเข้มงวด เพราะภูเขาและป่าไม้ในจันทบุรี กำลังถูกเปลี่ยนเป็นสวนอย่างง่ายดาย เข้าขั้นสาหัสแล้ว หากใครที่กำลังกระทำผิด ขอให้หยุดการกระทำทันที สำหรับบุคคลผู้กระทำความผิด มีประมาณ 4 กลุ่ม ทั้งชาวบ้านเกษตรกรชาวไทย, ทุนต่างชาติอยากเป็นเกษตรกร, กลุ่มข้าราชการ และนักการเมืองท้องถิ่น ผู้เกี่ยวข้องขบวนการทั้งหมด จะถูกดำเนินการตามกฎหมาย

ถึงแม้ตอนนี้ตนและทีมงานจะได้รับแจ้งเตือนถึงเรื่องของความปลอดภัย หลังจากได้เปิดยุทธการภาคตะวันออกอย่างจริงจัง ก็มีเสียงฝากบอก ทำนองว่า “ทีมงานป่าไม้ถ้าเข้าทำงานในพื้นที่ อย่ายืนเป็นกลุ่มนะ มันเป็นเป้าใหญ่” อาจพูดเป็นเชิงสัญลักษณ์หวังจะข่มขู่ให้ทุกคนเกิดความเกรงกลัว แต่ยืนยันทีมงานพยัคฆ์ไพร เข้มแข็งทั้งร่างกายและจิตใจ ยังคงมุ่งมั่นตั้งใจทำงานเพื่อเอาทรัพยากรธรรมชาติกลับคืนมา ไม่ให้ตกอยู่ในมือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง
