จากกรณีนักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดังพื้นที่ จ.นนทบุรี ระหว่างฝั่งเหนือกับฝั่งใต้ ก่อเหตุทะเลาะวิวาทบริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ ปากซอยนนทบุรี 14 เมื่อวันที่ 19 มี.ค. ที่ผ่านมา โดยมีการทำร้ายนักศึกษาสาวด้วยการใช้เท้าเตะเข้าใบหน้าหลายครั้ง ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง ภายหลังฝั่งเหนือที่ถูกทำร้ายเข้าแจ้งความเอาผิดฝั่งใต้ ขณะที่ฝั่่งใต้ชี้แจงว่า เป็นเรื่องส่วนตัวไม่เกี่ยวกับสถาบัน ส่วนเรื่องทำร้ายผู้หญิงก็อ้างว่าไม่รู้ว่าเป็นผู้หญิง ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 22 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สภ.รัตนาธิเบศร์ นักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดัง (ฝั่งใต้) อายุ 19-23 ปี จำนวน 7 คน ได้เดินทางเข้ามอบตัวกับตำรวจ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา “ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น” จากกรณีเหตุการณ์รุมทำร้ายนักศึกษาหญิงปี 4 และกลุ่มรุ่นน้องอีก 3 คน (เขตเหนือ) ได้รับบาดเจ็บ โดยกลุ่มผู้ก่อเหตุมีสีหน้าเคร่งเครียด ไม่พูดจาใด ๆ ก่อนเข้าพบพนักงานสอบสวน หลังจากการสอบปากคำ ตำรวจได้ทำประวัติและปล่อยตัวชั่วคราว โดยจะมีการนัดหมายให้มาพบพนักงานสอบสวนอีกครั้ง ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงสาเหตุของการก่อเหตุ แต่กลุ่มผู้ก่อเหตุปฏิเสธที่จะตอบคำถามใด ๆ แต่ได้กล่าวขอโทษต่อสังคม

ส่วนกรณีที่กลุ่มผู้ก่อเหตุให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า ทางคู่กรณี (เขตเหนือ) ได้พกพาอาวุธปืนเข้าไปในเซเว่นฯ พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ เปิดเผยว่า กรณีนี้ต้องแยกเป็น 2 คดี เนื่องจากผู้ที่พกพาอาวุธปืนไม่ได้ใช้อาวุธในการก่อเหตุทำร้ายร่างกาย เบื้องต้น ตำรวจได้นำตัววัยรุ่นนักศึกษาชาย 1 ราย พร้อมของกลาง (อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก และเครื่องกระสุนปืน 3 นัด) มาสอบสวน และแจ้งข้อกล่าวหา “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันควร” ดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว.