นับเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวข่าวเศร้าของวงการบันเทิง ที่ทำเอาคนไทยทั้งประเทศใจสลาย สำหรับการสูญเสียนักแสดงมากฝีมืออย่าง “สีดา พัวพิมล” แม่ของอดีตพระเอกดัง “อ๊อฟ-อภิชาติ พัวพิมล” ผู้ล่วงลับ ที่จากไปอย่างไม่มีวันกลับ ในวัย 70 ปี ท่ามกลางความตกใจของแฟนๆ ทั้งประเทศ
ล่าสุด ณ ศาลา7 วัดลาดพร้าว กรุงเทพฯ ได้มีพิธีรดน้ำศพและสวดพระอภิธรรมศพคืนแรกของแม่สีดา โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้า มีคนในครอบครัวและเพื่อนสนิททั้งในและนอกวงการมาอำลาแม่สีดาเป็นครั้งสุดท้ายอย่างมากมาย
ทั้งนี้หลังจากพิธีการรดน้ำศพ “ต่าย สายธาร” นักแสดงดัง อดีตแฟนสาวของอ๊อฟ ได้เปิดใจทั้งน้ำตาถึงการสูญเสียครั้งใหญ่ การจากไปของแม่สีดา
ต่าย เผยว่า “เริ่มแรกช่างที่คอนโดของต่ายโทรมาบอกก่อนว่า มีคนตามหาแม่สีดา แล้วตัวต่ายเองไม่ค่อยสบายด้วย ก็เลยพยายามโทรหาเพื่อน โทรถามเพื่อนแม่ อยู่กองถ่ายหรือเปล่า ตอนแรกก็คิดว่าแม่ไปทำงาน เพราะว่าช่วงหลังมาเราทราบกันดีว่างานเยอะ เสร็จปุ๊บเพื่อนตามหาทางกองถ่ายก็ไม่เจอ ทางนิติของต่ายก็ขึ้นมาเคาะประตูห้อง แล้วก็เอาเบอร์ของฝ่ายนิติของอพาร์ตเมนต์ที่แม่อยู่มาให้ต่าย ต่ายก็เลยโทรกลับไปว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งเขาก็บอกว่าไม่เห็นแม่มาประมาณสองวันแล้ว แต่ว่าพอเราตามแล้วก็ไม่เจอ แล้วทางภิสิทธิ์ที่อยู่ทางฝั่งคอนโดของแม่เขาเป็นคนดูแลที่นั่น เค้าก็เลยโทรมาบอกว่ามันแปลกไม่ออกมาสองวันแล้ว เราก็เลยบอกว่างั้นพี่ลองไปเคาะห้องดู ซึ่งพี่เขาก็เคาะแล้วเคาะแบบแรงมากแต่ก็ไม่มีใครเปิด ซึ่งเขาส่งรูปกุญแจครอบประตูมา เราก็เลยประมวลว่าคิดว่าไม่ออกไปข้างนอก จนเขาโทรแจ้งกลับมาอีกว่า คุณต่ายครับผมมีความรู้สึกว่ามันแปลกแปลก ผมขอทุบลูกบิดขอแค่นิดนึง แต่ขอให้คุณตาโทรขออนุญาตทางเจ้าของอพาร์ทเม้นท์ให้หน่อย ซึ่งต่ายก็โทรเลย ต้องขอบคุณทางเจ้าของที่อนุญาตให้ทุบ หลังจากนั้นพอทุบไปเสร็จแล้วเขาก็โทรกลับมาแจ้งตาอีกว่า ข้างในกุญแจมันล็อกอยู่ เราก็เลยมีความรู้สึกว่าแม่ต้องอยู่ในนั้น เราก็เลยบอกว่าพังไปเลย ก็เลยบอกทางพี่เขาไปว่า เดี๋ยวต่ายรับผิดชอบเองให้พังประตูเข้าไป ให้ถ่ายคลิปเอาไว้เผื่อมันเกิดอะไรขึ้นจะได้มีหลักฐาน แล้วมีการส่งข้อความกลับมาว่าแม่อยู่ข้างใน แม่เสียแล้ว ซึ่งพอต่ายขึ้นไปทุกคนเห็นแม่หมด แต่ต่ายพยายามมองแต่ไม่เห็น ไม่รู้ว่าแม่อยู่ตรงไหน แม่อยู่ตรงประตู โต๊ะเครื่องแป้ง ต่ายมองยังไงก็ไม่เห็นว่าเป็นแม่ จนตอนที่เจ้าหน้าที่ร่วมกตัญญูมาและเจ้าหน้าที่ตำรวจมา เราก็ขึ้นไปพร้อมกันอีกครั้งหนึ่งเพื่อที่จะนำร่างของแม่ออกมา ที่นี่ด้วยความที่ห้องแม่แคบมากและข้าวของที่เยอะ เราก็ต้องให้เจ้าหน้าที่ทางร่วมกตัญญูค่อยๆ นำร่างแม่ออกมา ก็ไม่คิดว่าจะเป็นคนที่จะได้มาบอกลาแม่ ซึ่งท่านเสียวันอังคารหลังเที่ยง แล้วต่ายก็ทราบมาว่าเป็นความดัน แล้วช่วงหลังแกพักผ่อนน้อยด้วย ต่ายบอกแม่ตลอดว่า แม่หนูพาแม่ไปโรงพยาบาล ตอนนี้เราไปเองได้เดี๋ยวหนูจะพาไป แต่แม่ไม่ยอมไป แล้วพักหลังก็มีการเตือนในเรื่องของการสูบบุหรี่ เพราะคนสูบบุหรี่เยอะ แม่ไอหนักมาก ซึ่งแม่ค่อนข้างที่จะดื้อไม่ยอมไปหาหมอ ทุกครั้งที่ต่ายเจอแม่ต่ายจะดูก่อนเลยว่าแม่อ้วนขึ้นหรือผอมลง ซึ่งเราได้เจอแม่ล่าสุดเมื่อวันที่ 5 ก.พ. ที่มีคอนเสิร์ตเพื่อน หลังจากนั้นวันที่ 14 ก.พ.เป็นวันสุดท้ายที่วิดีโอคอลคุยกับแม่

ส่วนในการเสียชีวิตเท่าที่ทราบน่าจะเป็นในเรื่องของเส้นเลือดหรืออะไรซักอย่าง ต่ายบอกตรงๆ ว่าไม่ได้ดูข่าวไม่ได้อ่านอะไรเลย แต่คุณแม่เป็นโรคประจำตัวคือความดัน คำสั่งเสียที่แม่เคยบอกเอาไว้ว่าให้เอาโล่รางวัลใส่ไปในโลงแทนดอกไม้ ก็เดี๋ยวจะเอามาให้คุณแม่ แต่ว่าตอนนี้ ด้วยความที่ในห้องมันยังเคลียร์อะไรไม่ได้ ก็คิดว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้อาจจะให้ทางทีมงานเข้าไปเอาของ บอกตรงๆ ว่าตัวต่ายเองก็เพิ่งได้ยินเมื่อวานเรื่องรับรางวัลแล้วพูดแบบนี้ แล้วคือเมื่อวานจู่ๆก็มีสตอรี่ของ “คุณอ๊อฟ อภิชาติ” เด้งขึ้นมา ต่ายก็เลยโพสต์ในไลน์ ในสตอรี่ ซึ่งงงว่ามันไม่ได้ครบรอบมันเสียเขา แต่เด้งเขามา ต่ายก็ไม่รู้ว่านี่มันคือสัญญาณเตือนอ๊อฟเค้าพร้อมที่จะมารับแม่ไปอยู่ด้วยแล้ว
และเดิมทีคือแม่เขาจะส่งไลน์ให้ทุกคน ที่เขารู้จัก แต่ทีนี้มันไม่มีการส่งมา ทุกคนก็เลยเอะใจว่าทำไมวันนี้แม่ไม่ส่งไลน์ ซึ่งเราก็ไม่ได้คิดว่า มันจะเร็วเกินไป ถ้าต่ายได้พาแม่ไปโรงพยาบาลอาจจะไม่มีวันนี้ก็ได้ ซึ่งหลังๆ เราคุยกับคนใกล้ตัวตลอดว่าแม่ไอมากขึ้น ทำยังไงให้แม่ไปโรงพยาบาลแม่ไม่ยอมไป แม่เขาบอกว่าไม่เอา ถ้าแม่รู้ว่ามันจะหนักไปเลย ก็ได้แต่บอกตัวเองว่าถ้าพาแม่ไปตรวจร่างกาย ก็อยากจะบอกกับอ๊อฟว่า ต่ายดูแลแม่ได้เท่านี้จริงๆ อาจจะไม่เกิดวันนี้ขึ้นก็ได้ วันสุดท้ายที่ได้บอกรักแม่คือวันที่ 14 กุมภา บอกให้แม่มาหาแม่ก็บอกให้อยู่กับตั้ม แม่ก็มาอยู่กับเพื่อนๆ ต่าย ขอบคุณเพื่อนๆ คนที่รักและดูแลแม่แทนต่าย

ก็คิดว่าแม่ไม่มีห่วงแล้ว แม่ได้ทุกสิ่งทุกอย่างมีคนดูแลต่ายแล้ว แม่คงไม่คิดอะไรมาก ส่วนหลังจากนี้ที่คุยกับน้องไว้ก็คงจะต้องเป็นทาง “น้องโอ๊ต ”ตัดสินใจ ก็ต้องหาคนไปเคลียร์ของในห้อง เพราะว่าของในห้องของแม่เยอะมากคือไม่มีสองห้อง ต่ายก็ขอบคุณทุกคนที่ยังรักและเมตตาแม่เหมือนเดิม รวมถึงเอฟซีแม่ และเอฟซีของต่าย เพื่อนๆ ของต่าย และตั้มด้วย แต่ว่ามันเร็วเกินไปเพราะว่าความรู้สึกมันไม่ต่างกับแม่จริงๆ ที่เสียไปเลย ปกติจะโทรคุยกับแม่เกิน 2 ชั่วโมงจะคุยเหมือนเพื่อนเหมือนทุกอย่าง ต่ายก็ถามตัวเองว่าต่ายจะคุยกับใครต่ายไม่เหลือแม่แล้วนะ วันนี้ต่ายก็ถามตั้มว่าเราจะมางานศพแม่สีดาหรอ นี่เรามางานศพแม่ใช่ไหม แต่อยากร้องไห้ออกมาให้สุด อารมณ์เหมือนตอนที่แม่เขาตายเพิ่งเสียไป เพียงแต่ว่าวันนี้ต่ายเข้มแข็งขึ้น แล้วต่ายก็ดีใจที่ได้เจอกับน้องโอ๊ต ณ วันนี้ก็คืออยากให้น้องทำหน้าที่ของลูกให้ดีที่สุดแล้วอย่างที่ต่ายบอกต่ายพูดเสมอว่าไม่ว่าจะใครก็แล้วแต่ สถานะใดก็แล้วแต่ เราไม่มีวันรู้เลยว่าวันพรุ่งนี้จะมีจริงหรือเปล่า แต่ย้ำเรื่องนี้มากๆ วันนี้ถ้ารักกันโปรดจงให้อภัยวันพรุ่งนี้มันมีอยู่จริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ คงถึงเวลาแล้วที่แม่กับอ๊อฟจะได้ไปอยู่ด้วยกันพร้อมทั้งแม่ต่ายด้วย แล้ววันนึงเราก็คงได้เจอกัน หนูรักแม่นะ”