จากกรณีเหตุทะเลาะวิวาทในสถาบันเดียวกัน ระหว่าง นักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดังพื้นที่เขตเหนือกับพื้นที่เขตใต้ โดยฝั่งเหนือโดนฝั่งใต้ทำร้ายร่างกาย ขณะอยู่หน้าร้านสะดวกซื้อ ไม่เว้นแม้แต่ผู้หญิง ซึ่งถูกเตะเข้าที่ใบหน้าอย่างแรง จนต้องไปเข้าแจ้งความกับตำรวจสภ.รัตนาธิเบศร์ เพื่อจับกุมผู้ก่อเหตุมาลงโทษตามกฎหมาย
ศึกสถาบันเดือด! เหนือ-ใต้ตีกันเอง ผู้หญิงก็ไม่เว้นถูกรุมกระทืบอ่วม

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 21 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (20 มี.ค. 68) นายเอและนายบี (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 1 หนึ่งในผู้อยู่ในเหตุการณ์ ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูล พร้อมนำคลิปวิดีโอจากโทรศัพท์มือถือของรุ่นพี่มาแสดง เพื่อยืนยันข้อเท็จจริง โดยทั้งสองอ้างว่า
เหตุการณ์เริ่มต้นเมื่อรุ่นพี่ของพวกเขาเข้าไปใช้บริการในร้านสะดวกซื้อ และได้พบกลุ่มวัยรุ่น 5 คน ซึ่งเป็นคู่กรณีเก่าที่เคยขับรถเฉี่ยวชนรุ่นน้องของพวกเขาแล้วหลบหนี รุ่นพี่จึงเข้าไปพูดคุย แต่สังเกตเห็นอาวุธปืนเหน็บอยู่ที่เอวของหนึ่งในกลุ่มคู่กรณี จึงรีบแจ้งตำรวจและขัดขวางไม่ให้กลุ่มคู่กรณีหลบหนี

“รุ่นพี่ผมเห็นว่าพวกนั้นพกปืนกับมีด ก็เลยถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐาน พวกนั้นก็ยอมรับว่าพกจริง” นายเอ กล่าว
ต่อมา กลุ่มคู่กรณีได้โทรฯ เรียกพวกมาเพิ่ม ทำให้เกิดการเผชิญหน้าและทะเลาะวิวาทกับกลุ่มของนายเอและนายบีที่มาถึง โดยมีการชกต่อยกันเกิดขึ้นในระหว่างชุลมุน พบว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งพยายามจะหยิบปืนและต่อว่าด่าทอบุพการี ทำให้ถูกรุ่นพี่ทำร้ายร่างกาย ซึ่งตอนนั้นก็ยังไม่แน่ใจว่าเป็นผู้หญิงหรือไม่ เพราะชุลมุนมาก เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องเกี่ยวกับคดีเก่า ไม่ใช่ความขัดแย้งระหว่าง นักศึษาฝั่งเหนือ-ใต้ อย่างที่สื่อเสนอข่าว พวกตนอยากให้ทางตำรวจดำเนินคดีอีกฝ่าย กรณีขับรถชนแล้วหนี รวมทั้งพกพาอาวุธปืน ทั้งนี้ พวกตนขอโทษทุกคนที่ได้รับผลกระทบ และขอโทษสังคมที่ทำให้เกิดเรื่องวุ่นวาย.
