จากกรณีคนร้ายใช้ปืนดักจี้หญิงสาว 3 รายในพื้นที่ อ.ห้วยคต จ.อุทัยธานี ซึ่งทางตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยคาดว่าจะเป็นผู้ก่อเหตุ ชื่อ นายเบส อายุ 22 ปี พร้อมนำตัวมาสอบปากคำที่ สภ.ห้วยคต เมื่อช่วงค่ำวันที่ 17 มี.ค. ที่ผ่านมา พบติดยาเสพติด ส่วนประเด็นเหตุการณ์ให้การปฏิเสธเสียงแข็งว่า ไม่ใช่ผู้กระทำผิด โดยให้การว่า ช่วงเกิดเหตุอยู่ที่ร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งในพื้นที่ ซึ่งอยู่ห่างจากจุดที่เกิดเหตุประมาณ 2.5 กิโลเมตร
แม้ว่าช่วงที่สอบปากคำนั้นผู้เสียหายจะยืนยันว่า เสียงและรูปร่างของคนร้ายตรงกับนายเบส ก็ตาม แต่ด้วยข้อมูลหลักฐานที่มีนั้นไม่สามารถที่จะชี้ชัดได้ว่า นายเบส คือผู้กระทำผิดจริง จึงทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องทำการเก็บข้อมูลหลักฐานเพิ่มเติม โดยได้มีการลงพื้นที่ตามเก็บภาพจากกล้องวงจรปิดยังจุดที่นายเบส ได้ระบุว่า อยู่ที่บริเวณนั้นในช่วงที่เกิดเหตุ ว่าเป็นไปตามที่เจ้าตัวกล่าวอ้างหรือไม่ เพื่อให้เกิดความกระจ่างและเป็นธรรมเกี่ยวกับคดีนี้ และเพื่อมัดตัวคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุตัวจริงมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วที่สุด เพื่อสร้างความสบายใจให้กับประชาชนในพื้นที่ เนื่องจากคดีนี้ถือเป็นคดีรุนแรงที่เกิดขึ้นครั้งแรกใน จ.อุทัยธานี

ทั้งนี้ ตามกฎหมาย เมื่อไม่สามารถมีหลักฐานใดมามัดตัวผู้ต้องสงสัยได้ จึงได้มีการปล่อยตัว นายเบส ผู้ต้องสงสัยออกมา หลังจากกักตัวไว้ที่ สภ.ห้วยคต ครบ 48 ชั่วโมง ทำให้ นายเบส ได้ถูกปล่อยตัวออกมาแล้ว เมื่อวันที่ 19 มี.ค. 68 ช่วงเวลาประมาณ 18.00 น. ที่ผ่านมา แต่เจ้าหน้าที่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหากับนายเบส คือ เสพยาเสพติด และการพนัน (ปั่นสล็อต) เสียค่าปรับทั้ง 2 ข้อหา เป็นจำนวนเงิน 4,000 บาท โดยมีผู้เป็นแม่เดินทางมารับตัวและจ่ายค่าปรับให้
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านพักของนายเบส อยู่ในพื้นที่หมู่ 3 บ้านป่าผาก ต.ห้วยคต อ.ห้วยคต พบกับ นายแสงเพชร อายุ 40 ปี ซึ่งเป็นพ่อของนายเบส ได้เปิดเผยความรู้สึกน้ำตาคลอ หลังจากที่ลูกชายได้ถูกปล่อยตัวออกมา ว่า ตอนที่ลูกชายตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีนี้ก็รู้สึกตกใจเหมือนกัน ไม่คิดว่าลูกจะเป็นคนทำ เพราะนิสัยปกติของลูกชายนั้นไม่ได้เป็นคนก้าวร้าว แต่ยอมรับว่าเรื่องยาเสพติดนั้นเป็นเรื่องจริง ซึ่งหลังจากที่ลูกตกเป็นข่าวไปนั้น ยอมรับว่ารู้สึกเครียดเหมือนกัน เพราะมีสื่อบางช่องลงข่าวรุนแรงมากเหมือนกัน เหมือนกับลูกกลายเป็นคนทำผิดไปแล้ว ทั้งๆ ที่ลูกยังเป็นแค่ผู้ต้องสงสัย อยากบอกกับสังคมด้วยเช่นกันว่า ถึงแม้ลูกชายจะดื้อไปบ้างแต่ก็ไม่ได้ก้าวร้าวและขยันทำมาหากิน อยากให้ตำรวจช่วยจัดการพวกสิ่งแวดล้อมที่ไม่ดีให้หมดไปด้วยเหมือนกัน.