เมื่อวันที่ 19 มี.ค. ศูนย์วิทยุ สภ.สว่างแดนดิน ได้รับแจ้งเหตุยิงกันและแทงกันตายที่บ้านโนนรัง ต.บงใต้ อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร ผู้ก่อเหตุจำนวน 2 คน ได้หลบหนีเข้าไปในบ้านที่เกิดเหตุพร้อมด้วยอาวุธปืนลูกซองของผู้ตาย พ.ต.อ.ชัชวาลย์ ดวงแก้ว ผกก.สภ.สว่างแดนดิน จึงนำกำลังเข้าระงับเหตุ เมื่อไปถึงพบร่าง นายทองอินทร์ (สงวนนามสกุล) อายุ 74 ปี นอนเสียชีวิตอยู่บริเวณหน้าบ้านของตัวเอง ส่วนบ้านฝั่งตรงกันข้ามเป็นบ้านผู้ก่อเหตุ คือ นายสุเทพ (สงวนนามสกุล) อายุ 44 ปี และนายกรุงชล (สงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี ทั้งสองเป็นพี่น้องกัน โดยหลังเกิดเหตุได้วิ่งเข้าไปแอบหลบในห้องนอน

เจ้าหน้าที่ได้ติดต่อผู้ใหญ่บ้าน และพาม่ของผู้ก่อเหตุมาเจรจาขอให้มอบตัว แต่ปรากฏว่ายังได้ยินเสียงของ นายสุเทพ คงตะโกนส่งเสียงดัง ไม่พอใจออกมาเป็นระยะ ๆ หลังจากที่ใช้เวลาเจรจาประมาณ 30 นาที นายกรุงชล ได้เดินออกจากบ้านมาขอมอบตัว ขณะที่ นายสุเทพ ยังคงไม่ยอมออกมาแต่อย่างใด สุดท้ายเจ้าหน้าที่ต้องบุกชาร์จ และสามารถคุมตัวไว้ได้อย่างปลอดภัย

ด้าน พ.ต.อ.ชัชวาลย์ กล่าวว่า จากการสอบสวนปากคำผู้ก่อเหตุ และพยานบุคคล ทราบว่า สาเหตุเกิดจากการที่บ้านของผู้ตายและผู้ก่อเหตุอยู่ตรงข้ามกัน มักจะมีปากเสียงเรื่องเสียงดังจากจักรยานยนต์ของผู้ก่อเหตุ ทำให้มีสาเหตุโกรธเคืองกันอยู่บ่อยครั้ง กระทั่งล่าสุดสองพี่น้องไปมาปากเสียงกับหลานชายของผู้ตาย ทำให้ผู้ตายถือปืนออกมาช่วย จนเกิดการท้าทายกัน โดยฝ่ายผู้ตายใช้ปืนยิงใส่ แต่กระสุนปืนโดนถาก ๆ ก่อนที่สองพี่น่องจะเข้ารุมทำร้ายผู้ตาย โดยเข้าแย่งปืนก่อนใช้มีดแทงจนเสียชีวิต จากนั้นก็รีบเข้าไปหลบในบ้าน

จากการสอบสวน ผู้ก่อเหตุทั้งสองให้การรับสารภาพ อ้างว่าได้เสพยาบ้าไปก่อนหน้านี้ และก่อเหตุร่วมกันฆ่านายทองอินทร์ ผู้ตายจริง เนื่องจากถูกอีกฝ่ายยิงใส่ก่อน เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” และ “เสพยาเสพติดให้โทษ (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย” ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ด้านเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้เคียง เปิดเผยว่า ทั้งผู้เสียชีวิตและผู้ต้องหาทั้ง 2 มักจะมีปากมีเสียงกันมาตลอดมากว่า 2 ปีแล้ว โดยฝ่ายพี่น้องมักจะขับขี่จักรยานยนต์เสียงดัง ทั้งยังเสพยาบ้าและกัญชาตลอด ส่วนผู้เสียชีวิตมักจากเอาปืนออกมาข่มขู่เช่นเดียวกัน ชาวบ้านคาดการณ์ไว้แล้วว่า สักวันหนึ่งต้องมีเหตุรุนแรงแบบนี้เกิดขึ้น.