เมื่อวันที่ 19 มี.ค. พ.ต.อ.ธราเทพ ตูพาณิชย์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี รายงานคดีบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ “ป่าตกพรม” หลังมีการร้องเรียนไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) พบว่ามีการบุกรุกพื้นที่ป่าล้ำแนวเขตรังวัดใน บ้านแสงแดง หมู่ที่ 6 ต.บ่อเวฬุ อ.ขลุง จ.จันทบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับกรมป่าไม้และชุดสืบสวน ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณที่มีการบุกรุกแผ้วถาง
พบว่ามีการปลูกต้นทุเรียนอายุ 1-2 ปี พร้อมติดตั้งระบบน้ำสปริงเกลอร์ ซึ่งได้รับน้ำจากพื้นที่ คทช. ของ นายสายัณห์ อายุ 72 ปี ชาวตำบลบ่อวิน นอกจากนี้ยังพบสระน้ำ เครื่องสูบน้ำ บ้านพัก 1 หลัง และรถยนต์กระบะ 2 คัน ซึ่งเป็นของนายสายัณห์ เมื่อตรวจสอบพบว่านายสายัณห์และครอบครัวถือครองที่ดิน 3 แปลง มีพื้นที่บุกรุกเพิ่มเติมดังนี้

แปลงที่ 1 บุกรุกเพิ่ม 1 งาน 49 ตารางวา แปลงที่ 2 บุกรุกเพิ่ม 12 ไร่ 3 งาน 64 ตารางวา แปลงที่ 3 บุกรุกเพิ่ม 43 ไร่ 1 งาน 85 ตารางวา รวมพื้นที่บุกรุกทั้งสิ้น 56 ไร่ 1 งาน 49 ตารางวา
นอกจากนายสายัณห์แล้ว เจ้าหน้าที่ยังพบนายวิไลศักดิ์ อายุ 57 ปี มีการบุกรุกเพิ่ม 3 งาน 17 ตารางวา โดยปลูกทุเรียนในพื้นที่ดังกล่าว ในขณะที่ แปลงที่ 5 พบว่ามีการปลูกทุเรียนอายุประมาณ 1 ปี และแซมต้นกล้วย โดย นายชาติชาย อายุ 44 ปี ซึ่งที่ดินติดกับแปลงบุกรุก ได้ให้ถ้อยคำว่านายสมควร อายุ 74 ปี เป็นผู้ครอบครองที่ดินแปลงดังกล่าว รวมพื้นที่ 5 ไร่ 2 งาน 98 ตารางวา ขณะตรวจสอบพื้นที่ ป่าเขาขาด หมู่ที่ 4 ตำบลบ่อเวฬุ เจ้าหน้าที่พบว่ามีการปรับพื้นที่เป็นขั้นบันได ปลูกทุเรียนอายุ 1-2 ปี รวมถึงมีบ้านพัก 3 หลัง และสระน้ำ 1 สระ แต่ไม่พบตัวผู้กระทำผิด อย่างไรก็ตาม ระหว่างเข้าตรวจสอบ แปลงนี้ที่เคยพบว่ามีบุคคลขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี คาดว่าอาจเป็นผู้เกี่ยวข้องกับการบุกรุก อยู่ระหว่างเร่งติดตามตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี

นอกจากพื้นที่ป่าตกพรม เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ยังลงพื้นที่ตรวจสอบ 15 จุด รวมพื้นที่ กว่า 400 ไร่ ที่พบการบุกรุกแผ้วถางในตำบลบ่อเวฬุ อำเภอขลุง โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดทั้งหมดเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ทางเจ้าหน้าที่เตรียมแจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ที่บุกรุกพื้นที่ป่าสงวน และเดินหน้าปราบปรามขบวนการรุกป่าอย่างเข้มข้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการบุกรุกเพิ่มเติมในอนาคต