เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่หลายคนกำลังให้ความสนใจไม่น้อย จากกรณีที่ ป.ป.ส. แถลงข่าวจับกุมเครือข่ายจัดหาและจำหน่ายยาเสพติดภายในประเทศ ขยายผลจับกุมลูกค้ายาเสพติด ซึ่งพบว่าเป็นอดีตนักร้องดังยุค 90 “แซ็ก-พัชรพล ปานพุ่ม” หรือ “แซ็ก I-ZAX” ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว
เปิดภาพวินาทีบุกจับ แซ็ก I-Zax นักร้องดัง แฉผสมทองคำเปลวใส่ไอซ์ส่งขายศิลปิน-ไฮโซ

ล่าสุดหลังจากที่เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นประเด็นร้อนแรงในขณะนี้ ทำให้วงการของนักร้อง ศิลปิน มีการสั่นสะเทือนไม่น้อยเลยทีเดียว โดยทางด้าน “เจ๋ง บิ๊กแอส” ได้มาร่วมงานบวงสรวงภาพยนตร์ “4 ป่าช้า” รวมถึงได้ออกมาพูดในมุมมองของนักร้อง ซึ่งมีหลายคนเหมารวมว่าเป็นศิลปินต้องพึ่งยา พร้อมทั้งแจงเหตุที่ต้องออกกำลังกายอย่างหนัก โดยเจ้าตัวเผยว่า

“ในเรื่องของเวลางานคอนเสิร์ต เวลานอน แถมต้องออกกำลังกายตั้งแต่เช้า คือตอนนี้เวลามันเริ่มเปลี่ยน คอนเสิร์ตมันเยอะมาก จนนอนบางทีผมยอมรับว่า ตอนนี้ต้องพึ่งยานอนหลับบ้าง หมอก็จะจ่ายมาให้เพราะไปหาหมอ ขืนผมเป็นแบบนี้ต่อไป ผมไม่สามารถที่จะนอนได้เต็มที่ของมัน ถ้าผมไม่ได้กินยานอนหลับจากหมอ ผมจะนอนแค่วันละชั่วโมงถึง 2 ชั่วโมงเอง หมอก็จะให้กินเฉพาะเวลาที่ผมอยากจะนอนสัก 5-6 ชั่วโมง และผมเป็นคนออกกำลังกายหนักมากด้วย ส่วนงาน ณ ตอนนี้ก็เพลาๆ รับ เพราะว่าเมื่อก่อนเดือนนึงก็ 17-18 งาน ตอนนี้มันก็เหมือนไม่ได้พักลงมาเท่านั้น ตอนนี้ก็ 13-15 งาน ยังเยอะอยู่ แถมเราก็ใส่สุดทุกอย่างในโชว์ วงเราเล่นสุด เอ็นเนอร์จี้บนเวทีคือเต็มที่ ผมคิดว่ามันเป็นวันสุดท้ายเสมอ เราไม่ได้มีโอกาสบ่อยที่จะได้ขึ้นคอนเสิร์ต ผมไม่รู้ว่าวันพรุ่งนี้จะตายไหม เราไม่รู้หรอก เราคาดคะเนไม่ได้ ขับรถ เดินทาง ทุกวัน เราไม่รู้หรอกว่าเราไปเล่นงานอาจจะไปไม่ถึงก็ได้ พรุ่งนี้จะได้เล่นหรือเปล่ายังไม่รู้เลย ทุกอย่างมันต้องให้สุดของมันแล้ว

สำหรับเรื่องที่มีศิลปินเข้าไปพัวพันในเรื่องผิดกฎหมาย เรื่องของสารเสพติด ที่คนเขาบอกว่าผมเป็นศิลปินนะ ผมต้องพึ่งพวกนี้ ผมถึงต้องมีเอ็นเนอร์จี้ในการเล่น ในมุมมองของผมเอาจากใจผมเลย สิ่งเหล่านี้ที่เขาพูดมันเป็นสิ่งที่ผิด มันเป็นการเข้าใจผิด ถามว่าดนตรีบ้านเรายุคกำเนิดคือต้นแบบมาจากเมืองนอก เมืองนอกเขาอาจจะเล่นยา สูบบุหรี่ กินเหล้า แล้วศิลปินบ้านเราในยุคนั้นเห็นมันอาจจะดูเท่ ก็เลยทำตาม ซึ่งผมถามหน่อยว่าทุกวันนี้ แค่กินเหล้า สูบบุหรี่ ผมว่ามันก็แย่พอแล้ว สำหรับสังคมเราทุกวันนี้ คำว่าศิลปิน ศิลปินคือคุณต้องมีจิตวิญญาณของคุณ ความสุขของคนที่อยากจะร้องเพลง คุณอย่ามาอ้างว่าคุณจะต้องเมา ต้องกินเหล้า ต้องเสพยาก่อน ถึงจะมีอารมณ์ในการเล่น ถ้ายกตัวอย่าง อย่างผม และศิลปินหลายๆ คน เขาไม่เห็นต้องพึ่งเลย คือถ้าคุณอยากสนุก คุณเอาความรู้สึกจริงๆ ของคุณ คุณเป็นศิลปินจริงๆ คุณเอาออกมาเลย เหมือนผมเองผมรู้สึกยังไง ผมอยากสนุก ทุกครั้งที่ผมไปเล่นคอนเสิร์ตในทุกที่ผมตื่นเต้น ผมมือสั่น สิ่งเหล่านี้มันคือเอ็นเนอร์จี้ อีกอย่างคุณต้องเคารพตัวเองให้เป็น คุณจะมาบอกว่า ต้องใช้ยาเสพติด ดื่มเหล้า ถึงจะมีนู่นมีนี่ ผมว่าคุณไม่เคารพตัวเอง คุณไม่ดูแลตัวเอง ไม่รักตัวเอง แล้วก็ไม่ให้เกียรติแฟนเพลงคุณด้วย เขารักคุณจากอะไร เขามาติดตามคุณเพราะอะไร เพราะคุณเป็นศิลปิน เป็นตัวอย่าง แต่ถ้าตัวอย่างของคุณคือการกินเหล้า เสพยา แล้วมานู่นนี่ คือคนอย่าเป็นเลยศิลปิน ผมกล้าพูดเลย ถ้าผมพูดตรงนี้ไป แล้วศิลปินท่านอื่นไม่พอใจในคำพูดผม ก็ไม่ต้องพอใจ ผมกล้าพูด เพราะตัวผมเองผมเป็นคนที่ไม่กินเหล้าไม่สูบบุหรี่ และไม่จำเป็นต้องใช้พวกนี้ด้วย

ต่อให้ผมเล่นดนตรีมาตั้งแต่อายุ 18 ผมผ่านมาหมดแล้ว ว่าใครทำอะไรบ้าง มาชวนผม ผมยังไม่สนใจเลย คือมันไม่ได้มีประโยชน์ คุณก็เห็นว่าข่าวทุกวันนี้ที่ออกมาคลั่งยา เมายา ฆ่ากันตาย เสียสติ ก็เพราะสิ่งเสพติดพวกนี้ ผมว่าทุกวันนี้บ้านเมืองเรา บุหรี่ เหล้า หนักพอแล้ว อย่ามาอ้างว่าเป็นศิลปินแล้วต้องพึ่งพวกนี้ อย่าเรียกว่าตัวเองเป็นศิลปินเลย ถ้ามันจะมีเอ็นเนอร์จี้ มันก็ต้องมาจากจิตวิญญาณของเราเองจริงๆ คุณมีความสุขในการเล่นดนตรีคุณเอ็นเนอร์จี้อยู่แล้ว แต่วันนึงคุณหมดแพสชั่น คุณไม่มีอะไรแล้ว คุณมาบอกแบบนี้ คุณหยุดดีกว่า คุณอย่าร้องเพลงเลย ไปทำอย่างอื่นดีกว่า ซึ่งหลายคนเหมารวมศิลปิน นักร้อง ก็ต้องเป็นแบบนี้แหละ ก็ห้ามความคิดใครไม่ได้ เพราะว่าในภาพลักษณ์ของนักดนตรีที่ผ่านมามันดูไม่ดีอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกินเหล้า เมายา มั่วเซ็กซ์ นักดนตรีโดนมองแบบนี้อยู่แล้ว สุดท้ายมันอยู่ที่ตัวเราเอง อย่างผมเองผมไม่ได้อะไรอยู่แล้ว เพราะผมไม่ได้เป็น ใครอยากจะพูดอะไรก็พูดกันไปเพราะผมไม่ได้สนใจ ผมสนใจครอบครัวผมคนที่รักผมมากกว่า คนที่เข้าใจเราและเห็นเรา คนที่ติดตามตัวผมจริงๆ เขาจะรู้ว่า ผมเป็นอย่างไร คือมันดูกันออก

ส่วนเรื่องหุ่นแซ่บ ช่วงนี้ออกกำลังกายหนัก ผมว่ามันเกี่ยวโยงกันกับการที่ผมบอกว่า เวลาเราเล่นคอนเสิร์ต การเล่นโชว์มันก็อาจจะเดิมๆ ผมเป็นคนที่อยากหาอะไรทำสนุกๆ ของผมเอง มันจะได้ตื่นเต้น นี่มันคือการหาวิธีอะไรที่มันตื่นเต้น หาแพสชั่นหาความสนุกให้ตัวเองแล้วไปโชว์บนเวที ไม่ใช่ต้องพึ่งยา พึ่งของ เราพึ่งตัวเอง พึ่งความคิด พึ่งเอ็นเนอร์จี้ของตัวเองแล้วนำเสนอออกไป ผมออกกำลังไม่ได้เพื่อจะมาโชว์หุ่น ผมทำเพื่อรักษาสุขภาพผม ตัวผมมีการยืนระยะยาวเพื่อที่จะเล่นดนตรีต่อไป ตอนนี้อายุ 42 ปี อีกสัก 50-60 ผมรู้สึกว่าแข็งแรงพอ ออกไปคอนเสิร์ต ออกไปบู๊ได้แค่นั้นเลย แต่โชว์หุ่นเป็นเรื่องกำไรคนดูหรือเปล่าผมไม่รู้ ผมแค่อยากทำอะไรสนุกๆ แค่รู้สึกว่าถ้ามีการโชว์ มีไฮไลต์อะไรบางอย่างที่เรารู้สึกว่าทำแล้วตื่นเต้นเรามีความสุข มันไม่ทำให้ใครเดือดร้อน เราทำไปเถอะ ถ้ามันเป็นตัวอย่างที่ดีกับเยาวชน ผมก็รู้สึกดี ให้เขาเห็นว่าการออกกำลังกาย ดูแลสุขภาพมันเกิดผลดีหลายๆ อย่าง ผมก็โอเค”
