เมื่อเวลา 11.49 น. วันที่ 19 มี.ค. ที่ศูนย์สื่อสารการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) ชั้น 7 อาคารกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีประเด็นดราม่าไม่สนใจประเด็นการแก้ปัญหาเรื่องปลาหมอคางดำของกลุ่มผู้ชุมนุมเครือข่ายประชาชน 19 จังหวัด ที่มาชุมนุมประท้วงเรียกร้องให้นายกฯ แก้ไขปัญหา ที่หน้าทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 18 มี.ค. ที่ผ่านมา แต่กับพาลูกๆ มาเดินเล่นที่หน้าสนามหญ้า หน้าตึกไทยคู่ฟ้า อย่างอารมณ์ดี
โดยก่อนตอบคำถามดังกล่าว นายกฯ หันหน้ามายิ้มเจื่อนๆ ก่อนตอบว่า คิดว่าถ้าประชาชนฟังอยู่ ในคำถามหรือเหตุการณ์ที่ถูกว่าไม่สนใจเรื่องปลาหมอคางดำ แต่พาลูกไปวิ่งเล่น ซึ่งคนเราไม่ได้มีมิติเดียว ทำงานก็คือทำงาน เรื่องของความเดือดร้อนของประชาชน อย่างเรื่องปลาหมอคางดำ เราได้มีการพูดคุยและสั่งการกรมประมงเรียบร้อยแล้ว
“จริงๆ แล้ว ดิฉันพาลูกวิ่งเล่นทุกวันที่มีโอกาส วันไหนที่ใกล้ชิดกับลูกได้ ก็ใกล้ชิดกับลูก ไม่ได้รบกวนการทำงานแต่อย่างใด แน่นอนว่าถ้าวันที่ตารางงานแน่น ไม่สามารถเจอลูกได้ ก็ไม่ได้เจอ ก็เหมือนพ่อแม่ที่ทำงานทั่วไป อันนี้ก็ต้องมีความเข้าใจในชีวิตของมนุษย์ที่ทำงาน มนุษย์แม่ก็ทำงาน มนุษย์พ่อก็ทำงาน มนุษย์ลุงป้าน้าอาก็ทำงาน ทุกมนุษย์สามารถมีครอบครัวได้ มีชีวิตที่มีความสุขของตัวเองได้ ในแง่ของตัวเอง การจัดสรรเวลาเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ได้แปลว่าเราทำอย่างหนึ่งแล้วไม่ได้ทำอย่างหนึ่ง แต่ในเรื่องงาน ดิฉันแทบจะอยู่ในหัวตลอดเวลาอยู่แล้ว ทำงานทุกวัน แนะนำให้ทุกท่านดูแลสุขภาพ แบ่งเวลาให้ถูกต้อง นั่นเป็นสิ่งที่ดีทั้งกับองค์กร ครอบครัว งาน และกับประเทศ” นายกฯ กล่าว
เมื่อถามต่อว่าจะให้คำมั่นและความสบายใจกับชาวบ้าน ที่อยากให้รัฐบาลช่วยเรื่องนี้อย่างจริงจังอย่างไรบ้าง นายกฯ กล่าวว่า คำถามนี้ดีมาก อย่างเมื่อวันที่ 18 มี.ค. ที่ผ่านมา สมาคมประมงก็มาขอบคุณเรื่องของประมง ตนได้บอกไปว่า ทุกปัญหาของประชาชน ไม่ว่าเป็นจังหวัดใด เป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องดูแลอยู่แล้ว อันไหนรีบดูแลได้ก็จะรีบ อันไหนเร่งดูแลได้ก็ทำ อันไหนต้องรอเพื่อความชัดเจนและเพื่อความปลอดภัย ก็ต้องทำ ฉะนั้นทุกปัญหาไม่มีการชั่งใจว่าปัญหาไหนสำคัญกว่าปัญหาไหน เพราะดิฉันจะคิดถึงว่าถ้าเป็นเรา ซึ่งคำนี้มันอยู่ในใจในทุกปัญหาอยู่แล้ว ฉะนั้นอะไรแก้ได้ อันไหนหาทางได้ เร่งทำแน่นอน เช่น เรื่องเกี่ยวกับชีวิต เรื่องคอขาดบาดตาย ถือเป็นสิ่งสำคัญ ถือเป็นปัญหาที่รัฐบาลต้องช่วยแก้ไขอยู่แล้ว คือ สิ่งที่ยึดถือ ขอให้เชื่อมั่นตรงนี้ และทุกอย่างที่เกิดขึ้นเราก็รีบทำ อย่างเรื่องฝุ่น PM 2.5 ในกระทรวงทรัพยากรฯ บางคนที่ทำงานอาจจะไม่ได้ออกสื่อมากมาย แต่ทำงานอย่างแข็งขัน ฉะนั้นทุกคนทำงานจริงๆ ไม่ได้ละเลย.