จากกรณีสำนักงาน ป.ป.ส. ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. ได้เปิดปฏิบัติการ “จับกุมเครือข่ายจัดหาและจำหน่ายยาเสพติดภายในประเทศ-ระหว่างประเทศ” ขยายผลจับกุมลูกค้ายาเสพติด เมื่อวันที่ 13 มี.ค. ที่ผ่านมา สามารถจับกุมหญิงไทย 2 ราย ฐานจำหน่ายหรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 โดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมของกลาง ยาบ้า ไอซ์ (ลักษณะสีทองและสีพิ้งค์โกลด์) เอ็กซ์ตาซี คีตามีน MDMA อุปกรณ์การบรรจุ เครื่องชั่งดิจิทัล รวมถึงขยายผลจับกุมกลุ่มลูกค้า นายพัชรพล ปานพุ่ม หรือแซ็ก นักร้องนำวงดนตรีร็อก I-ZAX พร้อมไอซ์ของกลาง 2 กรัม ฐานความผิดครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 ก่อนเตรียมบูรณาการความร่วมมือกับ บช.ปส. ขยายผลไปยังลูกค้ารายอื่นกว่า 100 คนที่อยู่ในแวดวงวงการบันเทิง ซึ่งมาเกี่ยวข้องพัวพันกับยาเสพติด ตามที่มีการรายงานข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 19 มี.ค. “ผู้สื่อข่าวเดลินิวส์” ได้รับการเปิดเผยจาก พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. เปิดเผยถึงขั้นตอนการขยายผลหลังจากนี้ว่า สำหรับการขยายผลไปยังกลุ่มลูกค้า ซึ่งมีทั้งศิลปิน ดารา นักแสดงกว่า 100 ราย โดยเป็นคำให้การสารภาพจากผู้ต้องหาหญิงชาวไทย อย่างไรแล้วทาง ป.ป.ส. และ บช.ปส. จะต้องมีการไปคัดกรองในส่วนของพฤติการณ์ก่อน เพราะในบรรดาสมาชิกไลน์ที่พบในโทรศัพท์มือถือของผู้ต้องหาหญิงนั้น บัญชีต่าง ๆ อาจมีการใช้นามแฝงหรือการใช้รูปภาพโปรไฟล์อวตาร หรือนำรูปภาพของศิลปินดารามาแอบอ้างใช้ ทำให้ไม่สามารถยืนยันตัวตนได้ว่าเป็นศิลปิน ดารา นักแสดงจริงหรือไม่ เราจึงต้องตรวจสอบตรงนี้อย่างรอบด้านก่อน
แต่ในคำให้การรับสารภาพเบื้องต้นของผู้ต้องหาหญิงรายนี้ได้บอกว่าทุกครั้งที่ต้องจัดส่งยาเสพติด ก็จะจ้างวานไรเดอร์ให้ไปส่งของแก่ลูกค้า ซึ่งคนส่งก็ไม่สามารถรู้ได้ว่าพัสดุภายในเป็นสิ่งของผิดกฎหมายหรือไม่ จึงทำให้ขั้นตอนหลังจากนี้ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. และตำรวจปราบปรามยาเสพติดจะต้องทำการพิสูจน์อัตลักษณ์รายคน เพื่อดูว่าคนที่มารับของกลางยาเสพติดคือใคร แล้วคนสั่งของคือใคร แต่ด้วยที่ไม่ใช่ความผิดซึ่งหน้าเหมือนกรณีการจับกุมนายแซ็ก ที่เราสามารถจับกุมได้พร้อมของกลาง (ไอซ์) จึงทำให้ต้องไปขยายผลดูให้แน่ชัดว่ามีใครสั่งซื้อยาเสพติดบ้าง เลยต้องเน้นไปที่การขยายผลรวบรวมพยานหลักฐานให้แน่ชัด เพื่อเสนอพยานหลักฐานนั้นต่อศาลอาญารัชดาภิเษกพิจารณาออกหมายค้นหรือออกหมายจับ
สำหรับแนวทางการสอบสวนที่ได้วางไว้ คือ เราพยายามเน้นหาพยานหลักฐานของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายยาเสพติดเพิ่มเติม โดยเฉพาะในแวดวงวงการบันเทิงตามที่ผู้ต้องหาหญิงได้ให้การสารภาพ เพื่อที่จะได้นำเสนอพยานหลักฐานต่อศาลในการพิจารณาออกหมายค้น โดยถ้าหากในระหว่างการตรวจค้นได้ตรวจพบสิ่งของผิดกฎหมายหรือยาเสพติดของกลาง ก็จะทำให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานสามารถแสดงตัวจับกุมผู้ต้องหาได้ทันที ซึ่งถือว่าเป็นความผิดซึ่งหน้า อย่างไรก็ตาม หากต้องการเสนอศาลเพื่อขอออกหมายจับ มันจะมีกระบวนการที่ค่อนข้างใช้เวลาและซับซ้อน เนื่องจากต้องให้ทางผู้ต้องหามายืนยันด้วยว่าต่างคนต่างรับรู้ว่าของที่ส่งให้กันนั้นเป็นอะไร ซึ่งทุกสิ่งที่ไปรวบรวมมาได้จะต้องนำมาดูพิจารณาประกอบกับหลักฐานภายในข้อมูลโทรศัพท์ของผู้ต้องหาหญิงไทย ดังนั้นมันต้องมีพยานหลักฐานเพียงพอให้ศาลเชื่อได้ว่าบุคคลนั้นกระทำผิดตามกฎหมายเรื่องยาเสพติด
เปิดเบื้องหลังละเอียดยิบจับนักร้องนำ I-ZAX รับซื้อไอซ์เสพทุกวันก่อนเล่นคอนเสิร์ต
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ เผยต่อว่า ตนไม่ได้มุ่งเน้นว่าบุคคลดังกล่าวที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับการซื้อยาเสพติดจะต้องเป็นศิลปิน หรือเป็นดารา แต่แค่ต้องพิสูจน์ทราบให้ได้ก่อนว่าบุคคลดังกล่าวไปอยู่ในไลน์ของผู้ต้องหาหญิงที่เป็นผู้จำหน่ายยาเสพติดได้อย่างไร แล้วเป็นศิลปินดารานักร้องตามที่ผู้ต้องหาหญิงได้กล่าวอ้างหรือไม่ ซึ่งตนได้มอบหมายให้ นายปฤณ เมฆานันท์ ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามยาเสพติด ป.ป.ส. ไปร่วมทำการสืบสวนขยายผลกับตำรวจ บช.ปส. หากขยายผลถึงใครหรือเกี่ยวข้องกับใครก็ต้องไปขอศาลออกหมายค้นตามขั้นตอน
ถึงแม้สังคมอาจจะมองว่าปริมาณของกลางมีเพียงเล็กน้อย แต่มันเป็นเรื่องใหญ่ เพราะในฐานะหน่วยงานปราบปรามยาเสพติดก็ได้มีการประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้เรื่องยาเสพติด ซึ่งบางครั้งเราก็มีการขอความร่วมมือให้คนในวงการบันเทิง ศิลปิน นักร้อง หรืออินฟลูเอนเซอร์มาช่วยรณรงค์เรื่องยาเสพติด แต่เมื่อมีคนในวงการบันเทิงมาเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีเช่นนี้ มันก็จะเป็นเรื่องยากสำหรับเด็กและเยาวชน ทั้งยังมองว่าเป็นการกระทบต่อความศรัทธาและความเชื่อมั่น
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ ระบุอีกว่า ส่วนกรณีของนายแซ็ก ที่ได้ให้การไว้ว่าติดต่อซื้อไอซ์มาเสพเป็นระยะเวลา 2 ปี ก็ต้องไปตรวจพิสูจน์ย้อนหลังด้วย เพราะในการพิจารณาของศาล จะดูเรื่องพฤติการณ์ต่างกรรมต่างวาระ อย่างไรเจ้าหน้าที่ก็ต้องไปย้อนดูข้อมูลภายในแชตข้อความที่ทั้งคู่ได้มีการสนทนากัน แม้มีการลบข้อความออกไป แต่ตำรวจก็จะมีเครื่องมือเทคนิควิธีการตรวจสอบอยู่ดี ทั้งนี้ตนจะมุ่งเน้นขยายผลรวบรวมหลักฐาน เพื่อเตรียมเปิดปฏิบัติการต่อไป.