สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 19 มี.ค. ว่า ทำเนียบขาวออกแถลงการณ์ ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย เป็นเวลานานกว่า 90 นาที เมื่อวันอังคาร


ทั้งนี้ ผู้นำทั้งสองประเทศเห็นพ้อง การเดินหน้าเจรจาสันติภาพและฟื้นฟูความสัมพันธ์ จะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีประเทศในตะวันออกกลางเป็นเจ้าภาพ ขณะที่ทรัมป์กล่าวว่า การสนทนากับปูตินครั้งนี้ “เป็นไปอย่างสร้างสรรค์” เนื่องจาก “มีความเข้าใจร่วมกัน” ในการมุ่งหน้าสู่การหยุดยิงถาวร และการประนีประนอมเพื่อยุติสงครามในยูเครน ซึ่งยืดเยื้อนานกว่า 3 ปีแล้ว


ขณะเดียวกัน ผู้นำสหรัฐยืนยัน ว่าผู้นำรัสเซียเห็นพ้อง “การหยุดยิงเป็นเวลา 30 วัน” กับโครงสร้างพื้นฐานทั้งหมดของยูเครน โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับพลังงาน อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ยอมรับว่า “ยังคงต้องมีการหารืออีกหลายองค์ประกอบ” เกี่ยวกับประเด็นอื่นในอนาคต


ด้านทำเนียบเครมลินออกแถลงการณ์ ว่าปูตินสั่งให้กองทัพรัสเซียระงับการโจมตีทางทหาร ที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของยูเครน เป็นเวลา 30 วัน แต่ไม่ได้หมายถึง “การพักรบเต็มรูปแบบเป็นเวลา 30 วัน” อย่างที่สหรัฐเสนอกับยูเครน และรัฐบาลเคียฟให้การยอมรับ


นอกจากนี้ ทำเนียบเครมลินเน้นย้ำ “เงื่อนไขสำคัญของสันติภาพ” คือการที่ฝ่ายตะวันตกต้องยุติ “การมอบความสนับสนุนทุกรูปแบบ” ที่เกี่ยวข้องกับการทหารและข่าวกรอง ให้แก่ยูเครน และย้ำว่า กองทัพยูเครนต้องไม่สามารถสับเปลี่ยนกำลังพล ระดมกำลังพลเพิ่มเติม และเปลี่ยนอาวุธได้ ตลอดระยะเวลาของการหยุดยิง


ขณะที่ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน กล่าวว่า ท่าทีของปูตินบ่งชี้ ว่าเป็น “การปฏิเสธหยุดยิงโดยปริยาย” อย่างไรก็ดี ยูเครนและรัสเซียตกลงแลกเปลี่ยนเชลยฝ่ายละ 175 คน ในวันพุธที่ 19 มี.ค. นี้.

เครดิตภาพ : AFP