กะจะเล่นขำๆ ทำคอนเทนต์ กลายเป็นเรื่องที่ทำเอาขำไม่ออก หลังนักร้องลูกทุ่งสาว “ออม บลูเบอร์รี่” หรือ “ออม-เพลินศิลป์ เกตุแก้ว” ตั้งใจจะเล่นคอนเทนต์ดังกล่าวกับสามีนักธุรกิจสายฝอ “แอนโทนี่” ขำๆ แต่พอสาวออมได้ทราบความลับของสามี ทำเอาเธอร้องไห้ไม่หยุดเลย ตามที่ข่าวได้เคยนำเสนอไปแล้วนั้น
‘ออม บลูเบอร์รี่’ เสียน้ำตาเมื่อรู้ความลับสามี ตั้งใจจะทำคอนเทนต์แต่กลับขำไม่ออก!
ล่าสุด ออม บลูเบอร์รี่ ที่ควงสามีชาวฝรั่งเศสเปิดใจครั้งแรก หลังรู้ว่าสามีมีไตข้างเดียว และเป็นโรคหัวใจเต้นเร็วตั้งแต่กำเนิด มีโอกาสเสียชีวิตเมื่อไหร่ก็ได้ที่กว่าจะลงตัวไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะฝ่ายชายเคยนอกใจ 2 ครั้ง จนต้องเลื่อนงานแต่ง ผ่านทางรายการ คุยแซ่บShow ทางช่องOne31 โดยเผยว่า
“วันนั้นที่มีการบอกกัน คือออมก็เล่นตามกระแส ไลฟ์ TikTok พอลงไลฟ์เราก็มานั่งคิดว่าเรามีประเด็นอะไรบ้างที่จะมาทำคอนเทนต์ได้ ก็เลยนั่งคุยกับโทนี่ ซึ่งออมเองก็คิดไม่ออก ก็เลยถามโทนี่ว่า ยังมีอะไรอีกไหมที่อยากบอกไอ และมันเป็นสิ่งที่ไอต้องรู้ ซึ่งจริงๆ คุณพ่อของโทนี่เคยคุยกันตอนกินอาหาร ซึ่งเราลืมไปแล้ว เพราะเราไม่ได้ใส่ใจและไม่ได้ลงลึกขนาดนั้น แล้วเขาก็เล่าว่าเขาไม่ได้มีร่างกายสมบูรณ์แบบคนอื่น เพราะมีประเด็นเรื่องของการเต้นของหัวใจที่เร็ว ซึ่งเราเคยเห็น แต่มันไม่ได้สังเกตและไม่ได้ลงลึก เพราะคิดว่าเขาแอคติ้ง อ้อนเรา ชอบให้เราดูแล แล้วก็มีเรื่องของไตด้วย ตอนนั้นเป็นการไลฟ์เสร็จก่อน แล้วอัดคลิปทีหลัง ซึ่งเป็นคลิปที่บอกว่าความลับไม่มีในโลก คุยไป คุยมา คุณโทนี่ มีไตแค่ข้างเดียว จริงๆ คุณพ่อเคยพูด แต่เราไม่ได้ใส่ใจ เพราะเป็นการคุยกันตอนกินข้าว และไตส่วนหนึ่งก็ให้น้องที่เป็นฝาแฝด ซึ่งเขาโตมาด้วยการมีไตข้างเดียว แต่ใช้ชีวิตได้ปกติมาก คือเขาแข็งแรง ซึ่งพอเรารู้ครั้งแรกคือร้องไห้ ออมไม่รู้จะทำตัวยังไง ปกติเราจะไม่ค่อยได้ใส่ใจสุขภาพ โทนี่เป็นคนชอบกินส้มตำปูปลาร้า ชอบกินแจ่วบอง แล้วออมไม่ได้ใส่ใจ เพราะเราไม่ได้รู้ลึกจริงๆ พอรู้ปุ๊บร้องไห้ไป 4 วัน และสิ่งที่ร้องไห้ไม่ใช่แค่เรารู้ตรงนี้ แต่สิ่งที่เขาพูดคือประเด็นที่เขาอยากจะบอกว่า เวลาที่เราทะเลาะกัน อย่าปล่อยให้ทะเลาะกันข้ามวัน เพราะเขาไม่รู้ว่าจะตื่นมาขอโทษเรา หรือง้อเราต่อได้ไหม
ส่วนเรื่องสุขภาพปกติออมคิดว่าเขาอยู่ในไทย เขาเป็นฝรั่งจะป่วยง่ายเพราะอากาศไม่เหมือนบ้านเขา ของโทนี่จะมีหัวใจเต้นเร็วด้วย ซึ่งเราเคยพาเขาไปที่โรงพยาบาล แต่ก็ไม่ได้ลงลึกขนาดนั้น เพราะเรายังคิดว่าเขาแอคติ้งอ้อนเรา แต่จะมีบางครั้งที่ไปโรงพยาบาล ตอนนั้นไปที่พัทยา ก็ต้องติดเครื่องตรวจเช็กก่อนนอนว่าการเต้นของหัวใจปกติไหม เขาจะมียาประจำตัวอยู่แล้ว คุณแม่เขาเป็นเภสัชจะเตรียมไว้ให้ ซึ่งตอนกลางคืนออมต้องตื่นมาคอยมองเขาตลอด ปกติเขาจะเป็นคนนอนแล้วพลิกตัวบ้าง แต่พอเรารู้เรื่องตรงนี้ มันกลายเป็นเห้ย ทำไมเขาไม่พลิกตัววะ ทำไมเขาไม่ปลุกเรา คือหนูกลัวอย่างที่เขาบอกว่าเขาจะไม่ตื่นมา หนูเป็นห่วงเขา เขาเป็นคนที่ดี และรักหนูมากๆ แล้วหนูไม่ได้เจอคู่รัก หรือคู่ชีวิตที่ดีแบบนี้บ่อยๆ การที่หนูตื่นมาดูเขา มันทำให้หนูรู้สึกว่า หนูอยากจะรักษาคนที่อยู่ข้างๆ เอาไว้ให้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้ พอรู้ว่าเขามีความไม่ปกติ เรื่องหัวใจ ร่างกาย มันทำให้หนูต้องลดทิฐิและลดอีโก้ตัวเองลง เพื่อให้เราได้อยู่กันอย่างมีความสุขมากขึ้น ซึ่งตอนที่โพสต์ข้อความ ตอนแรกหนูไม่กล้าเหมือนกัน รู้สึกว่ามันจะเป็นดราม่าไปไหม แต่ที่หนูโพสต์ หนูรู้สึกว่าเรื่องราวของหนูกับโทนี่ และสิ่งที่โทนี่บอกหนูก็คือ อย่าปล่อยให้โกรธกันข้ามวัน และการที่จะเจอคนรักที่ดี คู่ชีวิตที่ดี มันไม่ได้มีโชคแบบนี้ง่ายๆ ส่วนวิธีปรับเปลี่ยนชีวิต ออมเปลี่ยนเลย โทนี่เขาชอบทานเค็ม คุณแม่บอกเปลี่ยนซอสต่างๆ ให้โทนี่เลยนะ เอาที่โลว์โซเดียม แล้วเปลี่ยนน้ำดื่มเพื่อสุขภาพให้เขามากขึ้น ออมไม่ได้แค่เปลี่ยนเรื่องการกินของเขา ออมต้องลดเรื่องอารมณ์ลงมาด้วย ออมเป็นคนที่อารมณ์ร้อน แล้วเป็นคนวีนเก่ง โทนี่เป็นคนค่อนข้างใส่ใจการเปลี่ยนแปลงของออมอย่างรวดเร็วมาก เขาบอกอย่าโกรธมากได้ไหม เขาอยากให้ออมมีความสุขตลอดเวลา ไม่อยากให้ออมทุกข์ เพราะทุกครั้งที่ออมโกรธหรือออมโมโห เขาจะเสียใจ ออมเลยต้องลดความทิฐิ อีโก้ บอกเขาต้องทำอย่างนี้นะๆ ฉันถึงจะโอเค หลังจากที่รู้คอนเทนต์นี้เราก็รู้ว่าบางทีเราก็อีโก้สูงไปก็ลดมาเพื่อให้ทั้งคู่สบายใจในมุมที่พอดี
จุดเริ่มต้นความรักเขาทักมาในอินสตาแกรมออม แล้วช่วงนั้นออมหมดสัญญากับ RS พอดี แล้วออมเปิดแบรนด์ที่จะส่งออกไปต่างประเทศ แล้วหนูตามหามาร์เก็ตติ้งโค้ชด้วย ซึ่งเขาประสบความสำเร็จตั้งแต่เด็ก แล้วมีพี่คนนึงเขาแนะนำว่าน้องคนนี้เก่งมากเรื่องมาร์เก็ตติ้ง ตอนแรกยังไม่ได้เอะใจอะไร เขาทักมาเอง เขาแนะนำตัวว่าชื่อโทนี่ อายุเท่านี้ ทำงานด้านไหนอะไรแบบนี้ ซึ่งตอนนั้นไม่ได้ชอบเขา หนูชอบคนที่อายุเยอะกว่า หนูไม่ชอบเด็ก แต่มองเขาแค่ธุรกิจอย่างเดียว แต่ก็ยังไม่ได้เชื่อว่าเขาเก่งแบบที่คนอื่นบอก หนูเป็นคนไม่เชื่ออะไรง่ายๆ ต้องทำให้เห็นหนูถึงเชื่อ ก็เคยบอกเขาหลายครั้ง ว่าเธอเด็กไป ตอนแรกออมไม่ชอบ ไม่ถูกกัน ออมไปเพราะว่าผู้จัดการและทีมงานบอกว่าไปเถอะ ถ้าเราอยากได้มาร์เก็ตติ้งจริงๆ เราไป 2-3 ครั้งก็รู้สึกว่าเขาก็โอเคขึ้น มันมีอยู่ครั้งนึงที่รู้สึกว่าเขาจีบเราแน่ๆ คือตอนที่ออมถามเขาว่าค่าเรียน หรือคิดค่าดูแลเรื่องมาร์เก็ตติ้งเท่าไหร่ จริงๆ เขาคิดประมาณ 6 พันยูโรเลยในการปรึกษาแต่ละครั้ง เราก็ลองถามดูเผื่อเขาลดให้เราได้ เขาก็บอกว่าไม่คิด แต่เราต้องทำมัสมั่นไก่ให้เขา เราก็ทำให้เขาทั้งๆ ที่ไม่เคยทำมาก่อน เราก็เปิดยูทูบดูแล้วทำเลย แล้วตกลงมาคบกันเป็นแฟนตอนประมาณ 6 เดือน เราคุยกันเป็นพาร์ทเนอร์ธุรกิจเป็นการร่วมงานมากกว่า ไม่ได้ลงลึกถึงการตั้งใจจีบกัน โทนี่เขาเห็นเราทิ้งสเปซไว้ จนวันนึงไปกินข้าวกัน หนูก็ถามเขาว่า ถ้าไปกินข้าวร้านอาหารดีๆ เลย คุณจะชวนใครไป ซึ่งอันนี้ออมเอาไว้ออดิชั่นสามีในอนาคต หลายๆ คนจะตอบว่าพาเธอไปไง เอาใจเรา บางคนบอกว่าพาเพื่อนร่วมงาน พาร์ทเนอร์ไป แต่โทนี่เขาบอกไม่ เขาบอกว่าเขาจะพาแม่ไป เขาอยากให้แม่ได้กินอาหารดี ได้อยู่ในบรรยากาศดีๆ มันคู่ควรกับเขา ก็เลยเลือกเขาเป็นแฟนเลย คือคำถามนี้เป็นคำถามเกี่ยวกับจิตวิทยา ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น สิ่งแรกที่เขาให้ความสำคัญคืออะไร แล้วคบกัน 10 เดือน ถึงขอหมั้น เพื่อนเขามาเล่าให้ฟังทีหลังว่าวันแรกที่เขาเจอออม เขาบอกเพื่อนเลยว่าเขาเจอคนที่เขาจะแต่งงานด้วยแล้ว
แต่ก่อนจะมีการจดทะเบียน ได้มีเหตุการณ์เกิดขึ้น คือมีการนอกใจถึง 2 ครั้ง ถามว่าเราจับได้คาหนังคาเขาไหม ออมก็ไม่ได้มีหลักฐานขนาดนั้นในครั้งแรก แต่เซนส์ของผู้หญิงมันมีความเอ๊ะเกิดขึ้น แล้วไม่สามารถสรุปแบบ 100% ได้ว่าคนคนนี้ใช่จริงหรือเปล่า แต่เราเห็นพฤติกรรมบางอย่างแล้วรู้สึกว่ามันไม่ใช่ แต่โชคดี โทนี่เขาเป็นคนที่เคลียร์ให้ออมเอง โดยที่ออมไม่ได้สั่งว่าเธอต้องไปเคลียร์ให้ฉันนะ ซึ่งมันก็เห็นพฤติกรรมบางอย่างที่เรารู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้กับเขา คือเราไว้ใจในการทำงานด้วยกัน แต่มันผิดปกติ แล้วเราก็ถามเขา เอาจริงๆ ผู้ชายก็ไม่สามารถบอกเราได้ตรงๆ ว่าฉันทำผิดมานะ แต่เรารู้สึกว่าอันนี้มันใช่แน่นอน มันไม่ได้นอกใจแบบเราจับได้เต็มร้อย แต่นี่มันคือภาษากายที่เรารู้สึกว่ามันไม่ได้ แล้วเขาก็เคลียร์ให้ แต่เขาก็บอกว่าสำหรับเขามันไม่ได้มีอะไร เหมือนโทนี่เขาจะแสดงความรักกับออมตลอดเวลา ในเวลาที่ทีมงานไปด้วยกันเขาจะบอกว่าจะซื้ออันนี้ไปให้ออมนะ ผู้หญิงคนนั้นก็จะบอกว่า ยูเป็นผู้ชายในฝันของไอและของผู้หญิงทุกคน ซึ่งมันจะมีอะไรแบบนี้มากวนใจเราตลอด ครั้งแรกผ่านไป มีครั้งที่ 2 ซึ่งครั้งที่ 2 มีหลักฐาน เป็นแอคหลุมส่งมาในไอจี ด้วยความที่เขาเป็นคนไนซ์ แล้วเขามีการถ่ายรูปกับน้องผู้หญิง แล้วตอนนั้นมีการวิดีโอคอลกัน เหมือนน้องเขาโพสต์ในพื้นที่ส่วนตัวของเขา แล้วแฟนคลับออมหรือใครก็ไม่รู้ แอคหลุมไปเห็นแล้วก็ส่งมาให้เรา แล้วถามว่านี่อะไร วันนั้นเคลียร์แบบออมโมโห เขาก็เป็นคนโทรฯ ไปเคลียร์เลยว่ามันคืออะไรให้เราฟัง แต่เราก็ไม่ได้ปักใจเชื่อ ซึ่งเหตุการณ์ครั้งที่ 2 ตอนนั้นออมโกรธแรงมาก เพราะมีหลักฐาน ออมเลยขอหยุดความสัมพันธ์ เขาเคลียร์ให้จริง แต่เรารู้ด้วยเซนส์ของเรา แล้วหลักฐานมันก็เห็น มันทำให้เรารู้สึกเฟลกับเขามากๆ แล้วมันก็มีปัญหาหลายเรื่องตามมา เรื่องเพื่อนหนักกว่าเรื่องผู้หญิงก็เลยขอหยุดความสัมพันธ์ไปประมาณ 5-6 เดือน หนูแยกอยู่เลย คือเครียดมาก เข้าโรงพยาบาลเลย แล้วเขาจะมาเยี่ยมเราไม่ให้มา ขออยู่คนเดียวกับพยาบาล จนวันนึงเขาให้คุณอาส่งข้อความมาในไอจีว่าขอโทษแทนหลานของเขาด้วย หลานเขาอาจจะเด็กไป ยังไม่ได้คิดถึงตรงนี้ ออมก็บอกว่ามันเกินเบอร์ มันเกินเวลา มันเกินความรู้สึกเราไปแล้ว ยังไม่แน่ใจว่าจะได้หรือเปล่า คุณพ่อโทนี่บินมาที่ไทยเพื่อขอให้แทนลูกชาย อยู่ 2 เดือนก็เลยดีกัน”
