สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 18 มี.ค. ว่า นายอัลวาโร ซานโตส เปเรรา หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของโออีซีดี สรุปสถานการณ์เศรษฐกิจโลกในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าว่า เศรษฐกิจโลกอยู่ท่ามกลางปัญหามากมาย และอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มสูงขึ้น

โออีซีดี ระบุในรายงานว่า การที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ กลับเข้าสู่ทำเนียบขาว มีส่วนรับผิดต่อความปั่นป่วนที่กำลังจะเกิดขึ้น เนื่องจากนโยบายคุ้มครองการค้าของเขา หรือก็คือ มาตรการภาษีสินค้านำเข้า จุดชนวนสงครามการค้า และผลักดันให้อัตราเงินเฟ้อพุ่งสูง

แม้กิจกรรมทางเศรษฐกิจทั่วโลกยังคง “ยืดหยุ่น” เมื่อปี 2567 โดยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) เพิ่มขึ้น 3.2% แต่โออีดีซี ปรับลดคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2568 จาก 3.3% เป็น 3.1% อันเป็นผลมาจากอุปสรรคทางการค้าที่สูงขึ้น ในประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ “จี20” หลายประเทศ รวมถึงความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์และนโยบายที่เพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลต่อการลงทุนและการใช้จ่ายของครัวเรือน

ทั้งนี้ องค์ประกอบหนึ่งที่อาจช่วยบรรเทาแรงกดดันระยะสั้นต่อเศรษฐกิจโลก คือ คำมั่นสัญญาของประเทศต่าง ๆ ในยุโรป ที่จะเพิ่มการใช้จ่ายด้านกลาโหม เพื่อรับมือกับภัยคุกคามจากรัสเซีย และความไม่เต็มใจของทรัมป์ ที่จะให้รัฐบาลวอชิงตันมอบเงินสนับสนุนองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ต่อไป

อย่างไรก็ตาม โออีซีดีเตือนว่า แม้การใช้จ่ายด้านกลาโหมที่เพิ่มขึ้น อาจสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะใกล้ แต่มันก็อาจเพิ่มแรงกดดันทางการคลังในระยะยาวเช่นกัน.

เครดิตภาพ : AFP