สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 18 มี.ค. ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ยกเลิกสิทธิของนายฮันเตอร์ ไบเดน และ น.ส.แอชลีย์ ไบเดน บุตรสองคนของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน ในการได้รับการคุ้มครองจากเจ้าหน้าที่อารักขาของรัฐ


ทรัมป์กล่าวว่า การที่ฮันเตอร์ยังคงใช้เจ้าหน้าที่ซีเครต เซอร์วิส มากถึง 18 คน และแอชลีย์ใช้เจ้าหน้าที่ซีเครต เซอร์วิส 13 คน “เป็นเรื่องที่ตลกสิ้นดี”


ด้านครอบครัวไบเดนยังไม่มีความเห็นอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ กฎหมายของสหรัฐระบุให้ซีเครต เซอร์วิส ยังคงต้องให้ความคุ้มครองแก่อดีตประธานาธิบดีและคู่สมรส แต่สำหรับบุตรของอดีตผู้นำสหรัฐ จะยังคงได้รับการอารักขา หากมีอายุต่ำกว่า 16 ปีเท่านั้น กระนั้น ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา “มักมีการผ่อนผันเป็นกรณีพิเศษ”

ย้อนกลับไปเมื่อเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา ทรัมป์เพิกถอนสิทธิของไบเดน ในการเข้าถึงข้อมูลความลับของทางการ จากการเป็นอดีตผู้นำสหรัฐ และยุติการให้ไบเดนมีส่วนร่วมกับการได้รับรายงานด้านความมั่นคงและข่าวกรองประจำวันด้วย


ทั้งนี้ ทรัมป์กล่าวว่า ไบเดน “เป็นผู้สร้างมาตรฐานไว้เอง” จากการออกคำสั่งเมื่อปี 2564 ให้สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ระงับสิทธิของเขา ที่ตอนนั้นถือเป็นอดีตผู้นำสหรัฐ จากการได้รับรายงานความมั่นคงและข่าวกรองประจำวัน ซึ่งเป็นสิ่งที่อดีตประธานาธิบดีสหรัฐทุกคนได้รับมาโดยตลอด และทิ้งท้ายด้วยข้อความว่า “โจ คุณถูกไล่ออกแล้ว”


อนึ่ง ไบเดนกล่าวในเวลานั้น ว่าเพิกถอนสิทธิดังกล่าวของทรัมป์ เนื่องจากอีกฝ่ายมีพฤติกรรม “เอาแน่เอานอนไม่ได้” ทั้งก่อนและหลังเกิดเหตุจลาจลที่รัฐสภา ในกรุงวอชิงตัน เมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2564.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES