สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงลอนดอน ประเทศสหราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 18 มี.ค. ว่า สมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 3 พระราชทานพระบรมราชวโรกาส ให้นายกรัฐมนตรีมาร์ค คาร์นีย์ ผู้นำแคนาดา เข้าเฝ้าฯ ในโอกาสเยือนกรุงลอนดอน อย่างเป็นทางการ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา


ทั้งนี้ การที่สมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 3 ทรงสวมเนกไทสีแดง ได้รับการวิเคราะห์จากหลายฝ่าย ว่าเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ของการสนับสนุนแคนาดา และพระองค์ตรัสด้วยว่า หากไม่ต้องทรงเข้ารับการรักษาพระอาการประชวรจากโรคมะเร็ง พระองค์และสมเด็จพระราชินีคามิลลา จะเสด็จฯ เยือนแคนาดา เมื่อปี 2567


หลังจากนั้น คาร์นีย์พบหารือกับเซอร์เคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร ณ บ้านเลขที่ 10 ดาวนิงสตรีท โดยคาร์นีย์กล่าวว่า “แคนาดาเป็นประเทศนอกยุโรปซึ่งมีความเป็นยุโรปมากที่สุด” การสร้างเสริมความสัมพันธ์ระหว่างแคนาดากับนานาประเทศในยุโรป จึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง

เซอร์เคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร พบหารือกับนายกรัฐมนตรีมาร์ค คาร์นีย์ ผู้นำแคนาดา ที่กรุงลอนดอน


แม้ผู้นำแคนาดากล่าวว่า ความสัมพันธ์กับสหรัฐยังคงมีความสำคัญอย่างมาก แต่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา แคนาดา “พึ่งพา” อีกฝ่าย “ในระดับที่มากเกินไป” และต้องหาทางลดระดับดังกล่าว


ปัจจุบัน แคนาดากำลังเผชิญกับ “ภัยคุกคาม” จากสหรัฐ ในระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นสงครามการค้ากับรัฐบาลวอชิงตัน และวาทกรรม “รัฐที่ 51” ซึ่งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ใช้เรียกแทนแคนาดา


นอกจากนี้ การเมืองภายในของแคนาดา ยังคงไม่มีเสถียรภาพมากนัก จากการที่คาร์นีย์รับตำแหน่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จากการเลือกตั้งชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเสรีนิยม ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลชุดปัจจุบัน แทนนายจัสติน ทรูโด ซึ่งอยู่ในตำแหน่งนานเกือบ 10 ปี โดยกำหนดการเลือกตั้งทั่วไปครั้งใหม่ ต้องเกิดขึ้นในเดือน ต.ค. ที่จะถึงนี้.

เครดิตภาพ : AFP