ในยุคที่ชีวิตเต็มไปด้วยความเร่งรีบและความกดดัน ความเครียดจึงกลายเป็นเพื่อนคู่กายของใครหลายคน แต่เมื่อความเครียดสะสมและส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน การดูแลตัวเองและขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญจึงเป็นสิ่งสำคัญ

สัญญาณเตือนภัย! เครียดแบบไหนต้องรีบหาหมอ?

ความเครียดไม่ใช่เรื่องเล็กๆ หากคุณมีอาการเหล่านี้ ควรรีบปรึกษาแพทย์โดยด่วน:

  • นอนไม่หลับ หรือหลับไม่สนิท: การเปลี่ยนแปลงรูปแบบการนอนอย่างชัดเจน เช่น นอนไม่หลับ ตื่นกลางดึก หรือหลับมากเกินไป
  • อารมณ์แปรปรวน: หงุดหงิดง่าย วิตกกังวล เศร้า หรือรู้สึกสิ้นหวังอย่างรุนแรง
  • ร่างกายส่งสัญญาณเตือน: ปวดหัว ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร หรือหัวใจเต้นเร็วผิดปกติ
  • ถอยห่างจากสังคม: หลีกเลี่ยงการเข้าสังคม หรือรู้สึกอึดอัดเมื่อต้องพบปะผู้คน
  • ประสิทธิภาพการทำงานลดลง: สมาธิสั้นลง ตัดสินใจได้ยาก หรือทำงานผิดพลาดบ่อยครั้ง
  • ความคิดทำร้ายตัวเอง: มีความคิดเกี่ยวกับการทำร้ายตัวเอง หรือฆ่าตัวตาย
  • พึ่งพาสารเสพติด: ดื่มแอลกอฮอล์ หรือสูบบุหรี่มากขึ้น เพื่อรับมือกับความเครียด

ดูแลตัวเองอย่างไร เมื่อความเครียดมาเยือน?

  • หากิจกรรมผ่อนคลาย: ทำกิจกรรมที่คุณชอบ เช่น ดูหนัง ฟังเพลง อ่านหนังสือ หรือออกกำลังกาย
  • ปรับมุมมองความคิด: มองโลกในแง่บวก และไม่จมอยู่กับปัญหามากเกินไป
  • จัดระเบียบสภาพแวดล้อม: จัดบ้านหรือที่ทำงานให้เป็นระเบียบ หรือออกไปพักผ่อนในสถานที่ใหม่ๆ
  • สร้างสมดุลชีวิต: แบ่งเวลาทำงานและเวลาส่วนตัวให้เหมาะสม
  • ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ: หากความเครียดส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน ควรปรึกษาจิตแพทย์ หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต

การรักษาภาวะเครียดสะสม:

  • การรักษาด้วยยา: แพทย์อาจสั่งจ่ายยาเพื่อลดอาการวิตกกังวล ซึมเศร้า หรือช่วยให้นอนหลับ
  • การรักษาแบบไม่ใช้ยา: การพูดคุยปรึกษา จิตบำบัด หรือการกระตุ้นสมองด้วยไฟฟ้า

อย่าปล่อยให้ความเครียดกัดกินชีวิตของคุณ หากคุณมีอาการเครียดสะสมที่ไม่สามารถจัดการได้ด้วยตนเอง การปรึกษาจิตแพทย์เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อรับการประเมินและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับคุณ

ขอบคุณข้อมูลจาก โรงพยาบาลพญาไท