เมื่อวันที่ 17 มี.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวประมงเรือเล็กชายฝั่งแสมสาร และพ่อค้าแม่ค้าอาหารทะเลสด บริเวณโค้งศาลพญายม ชุมชนบ้านช่องแสมสาร ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี กำลังได้รับผลกระทบอย่างหนัก จากปัญหาปลาหมอคางดำ ระบาดในท้องทะเล แนวชายฝั่งอ่าวแสมสาร ส่งผลให้ระบบนิเวศในทะเลเสียหาย สร้างความเดือดร้อน จึงรวมตัวเรียกร้องผ่านสื่อ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ช่วยเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาเร่งด่วน

ต่อมา น.ส.อุรุอายา บุญนำมา ประมงอำเภอสัตหีบ พร้อมด้วย นายประเสริฐ พิทักษ์กรณ์ นายกสมาคมการประมงแสมสาร ได้ลงพื้นที่มาตรวจสอบ ยืนยันเป็นปลาหมอคางดำจริง จึงได้รายงานปัญหาไปยังประมงจังหวัดชลบุรี เพื่อหาแนวทางแก้ไข ส่วนด้าน นายประเสริฐ พิทักษ์กรณ์ นายกสมาคมการประมงแสมสาร กล่าวถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาเร่งคลี่คลายสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ อาจกำลังขยายพันธุ์ กระจายตัวเป็นวงกว้าง โดยจะให้ชาวประมงเรือเล็ก ช่วยกันนำอวนวางล้อมจับ นำมาขายให้เรือวางลอบ เพื่อเป็นเหยื่อล่อปู และปลา เพราะปลาหมอคางดำ มีลักษณ์คล้ายปลานิล ซึ่งมีความคาว โดยชาวประมงเดิมใช้เป็นเหยื่อล่อ จะให้มาใช้ปลาหมอคางดำเป็นเหยื่อล่อแทน เพื่อเป็นการสร้างรายได้ และลดประชากรของปลาหมอคางดำให้หมดสิ้นไป จากท้องทะเลแสมสาร

นายนที  เสียงเสนาะ อายุ 32 ปี พักบ้านเลขที่ 7/4 หมู่ 4 ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เปิดเผยว่า เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 16 มี.ค.68 ได้นำเรือประมงเล็กออกไปวางอวนดักปลากระบอก บริเวณหาดขลอด ระหว่างกองการบินทหารเรือ และค่ายพระมหาเจษฎาราชเจ้า ได้มองเห็นฝูงปลากระบอก กระโดดขึ้นเหนือผิวน้ำ เหมือนจะหนีสัตว์บางชนิด จึงได้ลงอวนเพื่อล้อมปลา ปรากฎว่า ได้ปลาหมอคางดำมาหลายตัว ส่วนปลากระบอกได้มาเพียงไม่มากเหมือนเช่นเคย

ผู้สื่อข่าวเปิดเผยว่า บริเวณที่ชาวประมงล้อมอวนได้ปลาหมอคางดำ ไม่ห่างจากชายฝั่งมากนัก และเป็นช่องทางที่น้ำจืด ไหลลงสู่ทะเล ทั้งจากคลองบางไผ่ และคลองอู่ตะเภา ซึ่งสันนิษฐานได้ว่า ปลาหมอคางดำ อาจจะหลุดรอดเข้ามาจากช่องทางน้ำจืดบริเวณดังกล่าว รวมถึงเส้นทางอื่นๆ ก่อนมาดำรงชีวิตขยายพันธุ์อยู่ในทะเลแสมสาร ก็เป็นได้