ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ “นายกฯอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะลงเอยวันเวลาใด เพราะทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้านไม่ยอมถอยห่างอ่อนข้อประเด็นเรื่องเวลา ฝ่ายค้านปักธง 30 ชั่วโมง ขณะที่ฝ่ายรัฐบาลยืนยันกระต่ายขาเดียวให้เต็มที่ 23 ชั่วโมง
เจอลูกแสบ “เท้ง-ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ“ ผู้นำฝ่ายค้าน หัวหน้าพรรคประชาชน ชิงเปิดฟลอร์ยอมลบชื่อ “ทักษิณ”ออกจากวรรคทอง
แลกกับการเปิดไฟเขียวให้ลาก “นายกฯอิ๊งค์” ขึ้นเขียงยาว 30 ชั่วโมง เล่นเอาทีมองครักษ์”เพื่อไทย“เต้นโหยง ที่ประชุม 3 ฝ่ายยังยื้อตกลงกันไม่ได้ แค่เกมชักเย่อล่อกันเลือดสาดไม่ยอมให้ “ทีมเถ้าแก่ใหญ่” ขี่คอง่ายๆ ยื้อยุดฉุดกระชากศึกเชือดในสภาผู้แทนราษฎร
สถานการณ์โอ้ละพ่อ “ค่ายเพื่อไทย”อ่านไต๋ออกกลยุทธ์ลับลวงพรางของฝ่ายค้าน ขออภิปราย 30 ชั่วโมง 3 ประกอบด้วย อภิปราย 2 วัน ลงมติ 1 วัน ค่ายสีแดงหวั่นเสียเหลี่ยมเด็กรุ่นใหม่ บรรดาสมุนนายใหญ่ ลูกหาบ ดาหน้าบู๊ตอบโต้ ดันทุรังหัวชนฝาไม่ยอมอ่อนข้อให้ฝ่ายค้าน เพราะเรียนรู้ประสบการณ์ลูกเขี้ยวจากเด็กเฮี้ยววัยแสบ แต่กองทัพส้มไม่ยอมพลาดท่าเสียรู้ซ้ำซ้อน
งานนี้ “แม่บ้านเพื่อไทย” สรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ออกโรงฉะเดือด ว่า “การพูดยืนยันแบบนี้แล้วบอกว่าถอยเรื่องถอนชื่อแล้ว ผมยังไม่เห็นเขาถอยเลยถึงเวลาไปไม่ได้อย่าบอกถอย ผมว่าเขารู้อยู่แล้ว แต่เจตนาทำแบบนี้ เราต้องถามกลับไปเหมือนเดิมว่าต้องการอะไร การที่เขาพูดโปรยหัวไว้ก่อนเช่นนี้ ทำให้สังคมเข้าใจว่ามีการตกลงกันแล้วรัฐบาลมาเปลี่ยน ทั้งที่ยังไม่มีการตกลงอะไรกัน“ แต่ที่ชัวร์ๆ คิวอภิปรายถล่มนายกฯเกิดขึ้นแน่ ไม่มีรายการมวยล้ม ปิดสวิตช์ศึกซักฟอก แม้ค่าย
ส้มลดลูกระห่ำ ถอนชื่อ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯออกจากญญัติ ไม่มุทะลุเหยียบมิดไมล์ ให้เสี่ยงแหกโค้ง ตีลังกาลงข้างทางก่อนถึงจุดหมาย แม้ไม่เต็มใจแต่ไม่มีทางเลือกมากนัก ได้จุดคิดกระแส ”พ่อนายกฯ“ ฉายหนังตัวอย่างล่อเป้ารัฐบาลมาพักใหญ่ เร้าอารมณ์คนดูให้เกาะติดขอบจอ รอชมฉากแอ็กชันของจริง ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ปลายเดือน มี.ค.นี้
สัปดาห์นี้คงต้องรอดูว่า“ฝ่ายค้าน” และ “ฝ่ายรัฐบาล” ตั้งแง่สู้กันจนสุดทาง ใครจะยอมถอยให้ใคร เพื่อให้ศึกซักฟอกเดินหน้าไปได้คงต้องติดตามสัปดาห์นี้จะจบลงอย่างไร หากต่างฝ่ายต่างยืนกรานไม่ถอย อาจไม่ทันสมัยประชุมสภานี้หรือไม่ เหมือนที่ซีกรัฐบาลตั้งข้อสังเกต แต่อีกมุมหลายฝ่ายมองว่าเป็นการต่อรองเพิ่มเวลานั่นเป็นเพียงแท็กติกเหมใหม่ในการต่อรอง ซึ่งกันและกัน ซึ่งดูแล้วพอกันทั้งสองฝ่าย.
