นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล สมาชิกวุฒิสภา เปิดเผยว่า ในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่ทหารในพื้นที่ของ อ.บันนังสตา จ.ยะลา ถูกพลแม่ปืนสไนเปอร์ของกองกำลังติดอาวุธบีอาร์เอ็น ซุ่มยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตไปแล้ว จำนวน 5 รายด้วยกัน โดยล่าสุด คือ ร.ท.ภูวิวัฒน์ คำสง ผบ.มว.ปล. ขณะปฏิบัติหน้าที่ ที่ฐานปฏิบัติการจาเต๊ะ ต.เขื่อนบางบาล อ.บันนังสตา จ.ยะลา ที่ถูกมือปืนสไนเปอร์ ของบีอาร์เอ็น ยิงเสียชีวิต ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ เพราะหาก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ไม่มีการป้องกันและแก้ปัญหา จะเป็นอันตรายกับเจ้าหน้าที่ระดับสูง เช่น ผู้บังคับหน่วย ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ และข้าราชการระดับ หัวหน้าส่วน ที่ต้องลงพื้นที่ไปปิดเปิดงานต่างๆ เช่น การแข่งขันกีฬา การแข่งขันนกเขา และอื่นๆ ที่จะต้องมีแผนในการระวังป้องกัน และขอเรียกร้องให้ใช้โดรน เข้ามาร่วมปฏิบัติการในการลาดตระเวนเส้นทางหมู่บ้านของทหาร และของชุดคุ้มครองตำบล (ชคต.) เพื่อป้องกันความสูญเสีย โดยเฉพาะ เมื่อวันที่ 16 แหล่งข่าวจากนารายณ์ 102 รายงานว่า พบความเคลื่อนไหวของของ นายอับดุลมาน๊ะ อูเซ็ง ซึ่งเป็นมือปฏิบัติการก่อวินาศกรรมของบีอาร์เอ็น นำระเบิดแสวงเครื่องเข้ามาในพื้นที่ จ.นราธิวาส จำนวนหนึ่ง เพื่อใช้ในการก่อวินาศกรรม ด้วยการทำเป็นคาร์บอมบ์ และระเบิดแสวงเครื่องแบบเตารีด เป้าหมายคือ สถานบันเทิง สถานที่ราชการ และฐานปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองที่ อ่อนแอ ในห้วงเวลา 15 วันสุดท้าย ก่อนสิ้นสุดเดือนรอมฎอน
สว.ไชยยงค์ กล่าวว่า สถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ของสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ยังไม่ลดลง มีเหตุความสูญเสียเกิดขึ้นทุกวัน มีทั้งการวางระเบิดชุดคุ้มครองครู ที่ อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี และการวางระเบิดกำลังของทหารนายวิกโยธิน ที่ อ.เมือง จ.ปัตตานี สองวันซ้อน สถานการณ์ที่เกิดขึ้น สร้างความวิตกกังวลให้กับประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างยิ่ง และเห็นได้ชัดว่าการ ป้องกันเหตุของเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 ฝ่าย ยังไม่ได้ผล แม้ว่า พล.ท.ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 และ ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 จะมีการเรียกประชุมเจ้าหน้าที่สามฝ่าย เพื่อให้มีการบูรณาการในการป้องกันเหตุ และมีการส่งกำลังหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ลงไปปฏิบัติการในพื้นที่ จ.นราธิวาส แล้วก็ตาม อีกเรื่องที่น่าเป็นห่วงคือเรื่องของการรับสมัครบุคคลภายนอกเข้าไปเป็นอาสารักษาดินแดน หรือ อส.อ. และ อส.จ. ที่มีข่าวอื้อฉาวมาโดยตลอดว่า การรับสมัคร อส. ของพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีขบวนการเรียกรับเงินในการบรรจุบุคคลภายนอกเป็นอาสารักษาดินแดน หัวละ 120,000-150,000 บาท เนื่องจากมีบุคคลที่ว่างงาน ต้องการเป็น อส. เป็นจำนวนมาก มีการวิ่งเต้น มีการนำที่ดินไปจำนอง จำนำ และหยิบยืนเงินกู้ มาเพื่อให้ในการบรรจุเป็น อส. นี่อาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ อส. ที่เข้ามาทำหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อย ไม่มีประสิทธิภาพในการทำหน้าที่เท่าที่ควร ที่สำคัญ ขบวนการหาเงินจากการบรรจุบุคคลเข้าเป็น อส. เป็นเรื่องของการหากินบนความตายของเจ้าหน้าที่ ซึ่งอยากให้ กรมการปกครอง หรือ รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย เร่งสอบสวนข้อเท็จจริงของเรื่องการเรียกเงินจากการเป็น อส. ในครั้งนี้