กรณีคนร้ายบุกเดี่ยวควงปืนชิงทองร้านออโรร่า ตั้งอยู่ภายในบริเวณปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ถนนวัชรพล แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม. ได้สร้อยคอทองคำไป 5 เส้น น้ำหนักเส้นละ 1 บาท รวม 5 บาท รวมมูลค่าประมาณ 240,000 บาท ขี่รถจยย.ฮอนด้า เวฟ 125 เบาะสีแดง ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนหลบหนีมุ่งหน้าย่านมีนบุรี เหตุเกิดพื้นที่ สน.บางเขน ช่วงบ่ายวันที่ 16 มี.ค.ที่ผ่านมา ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
เร่งล่าคนร้ายควงปืนบุกเดี่ยวจี้ชิงทองร้านดัง กวาดไป 5 บาท มูลค่าร่วม 2.5 แสน

ความคืบหน้า เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 16 มี.ค. พ.ต.อ.อนันต์ วรสาตร์ ผกก.สน.บางเขน สั่งการ ให้ พ.ต.ท.โกศลปิยะ สีมา รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.พรชัย ว่องประเสริฐการ สว.สส. พ.ต.ต.ยุรนันท์ เพชรมณี สว.สส. พร้อมฝ่ายสืบสวน สน.บางเขน จับกุมนายปราโมทย์ หรือปั่น อายุ 35 ปี ข้อหาชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธปืน และใช้ยานพาหนะหลบหนี พร้อมของกลาง สร้อยคอทองคำ น้ำหนักเส้นละ 1 บาท รวม 4 เส้น เงินสด 38,400 บาท รถ จยย. ฮอนด้า เวฟ 125 สีเทา-แดง ทะเบียน กรุงเทพมหานคร และเสื้อผ้าที่สวมใส่ขณะเกิดเหตุ จับกุมได้ที่บ้านพักใน ซอยรามอินทรา 8 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม.
สอบสวน นายปราโมทย์ เบื้องต้นให้การว่า มีอาชีพขี่รถจยย.แอปหนึ่ง มีภรรยาเป็นพนักงานขายเครื่องสำอาง ในห้างย่านรามอินทรา มีลูกชาย 2 คน คนโตอายุ 12 ขวบ คนเล็ก อายุ 5 ขวบ ก่อเหตุชิงทองเพราะต้องการใช้เงินเอาไปรักษาลูกชายคนเล็ก ที่พิการหูขวาไม่มีใบหูและไม่มีรูหู ที่ผ่านมารักษาที่โรงพยาบาลเด็กราชวิถี แต่โรงพยาบาลจะส่งตัวลูกสาวไปผ่าตัดที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เดือนหน้า ประกอบกับมีหนี้นอกระบบ เป็นจำนวนเงิน ประมาณ 30,000 บาท จึงลงมือก่อเหตุ

ผู้ต้องหาให้การอีกว่า หลังก่อเหตุขี่รถจยย.หลบหนีมุ่งหน้าไปที่ย่านบางโพ ระหว่างทางทิ้งปืนปลอม ถอดปลอกแขนสีเทาซ้ายขวาและถุงมือสีดำทิ้ง ก่อนนำสร้อยคอทองคำ 1 เส้น หนัก 1 บาท ไปจำนำที่ร้านทองที่ย่านบางโพ ได้เงิน 42,000 บาท จากนั้นไปตัดผมสั้น ซื้อเสื้อผ้าใหม่ใส่ อำพรางตัว ก่อนขี่รถกลับบ้าน เมื่อถึงบ้านภรรยาและญาติพี่น้องเห็นรูปข่าวรู้ว่าเป็นตน เลยโทรศัพท์มาสอบถามและเกลี้ยกล่อมให้มอบตัว ก่อนประสานตำรวจให้มาจับกุมตัวที่บ้านพักดังกล่าว.