หลังจากเดลินิวส์ นำเสนอข่าวผู้โดยสารหยิบกระเป๋าผิดจากสนามบินสุวรรณภูมิ ไปถึงประเทศญี่ปุ่นกลายเป็นบรรจุกัญชา น้ำหนัก 24 กก. เมื่อตรวจสอบพบว่า เจ้าของกระเป๋าที่บรรจุกัญชา เป็นของชาวต่างชาติ ที่เดินทางมาจากสนามบินสุราษฎร์ธานี ไปยังสนามบินสุวรรณภูมินั้น

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 16 มี.ค. พล.ต.ต.เสริมพันธุ์ ศิริคง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบว่า Mr.Mark Barlow อายุ 51 ปี สัญชาติอังกฤษ ซึ่งเป็นผู้เช็กอินกระเป๋าเดินทางใบดังกล่าว เดินทางเข้าประเทศไทยทางด่านสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 6 มี.ค. 68 แต่ไม่มีความเคลื่อนไหวในการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทยหรือจังหวัดสุราษฎร์ธานี และเดินทางออกจากประเทศไทย ทางด่านสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 14 มี.ค. 68 ไปยังประเทศเกาหลีใต้ โดยการเดินทางออกจากท่าอากาศยานสุราษฎร์ธานี เป็นวันเวลาที่สอดคล้องกับการตรวจยึดกระเป๋าเดินทางบรรจุต่อกัญชาจำนวนมากที่ท่าอากาศยานนานาชาติเกาะสมุย จึงคาดว่า Mr.Mark อาจจะเป็นแก๊งเดียวกับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่พยายามจะลักลอบขนกัญชาออกทางด่านศุลกากร ท่าอากาศยานเกาะสมุย ล่าสุดชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานีร่วมกับชุดสืบสวน สภ.บ่อผุด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำลังดำเนินการสืบสวนสอบสวนเพื่อหาพยานหลักฐานเกี่ยวกับที่มาของดอกกัญชาลอตดังกล่าวเป็นการเร่งด่วนแล้ว

ทางด้าน นายเรืองยศ โตกมลธรรม นายด่านศุลกากรเกาะสมุย เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาด่านศุลกากรเกาะสมุย ได้มีความเข้มงวดในการตรวจสอบการนำเข้าส่งออกสินค้าที่ไม่ผ่านพิธีการศุลกากรหรือหลีกเลี่ยงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าส่งออก การตรวจสอบในกรณีการจะนำของติดตัวผู้โดยสารออกนอกประเทศ มีการประสานงานกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสนามบินที่ปฏิบัติหน้าที่ประจำเครื่องเอกซเรย์กระเป๋าสัมภาระผู้โดยสาร รวมถึงมีการอบรมให้ความรู้ในการตรวจสอบวัตถุสิ่งของที่ควบคุมในการส่งออก เช่นพระพุทธรูป หรือสินค้าประเภทประติมากรรม แต่ในช่วงที่ผ่านมายังไม่เคยพบการกระทำผิดลักลอนนำออกช่อดอกกัญชา การจับกุมช่อดอกกัญชาในครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกของด่านศุลกากรเกาะสมุยประจำท่าอากาศยานนานาชาติเกาะสมุย

นายเรืองยศ กล่าวด้วยว่า มีความเห็นว่าในกรณีกระเป๋าที่บรรจุช่อดอกกัญชาซึ่งผ่านการตรวจเอกซเรย์ทั้งที่สนามบินสุราษฎร์ธานี สุวรรณภูมิ จนไปถึงประเทศญี่ปุ่นนั้น ไม่ได้เกิดจากความบกพร่องของเจ้าหน้าที่หรือเครื่องตรวจเอกซเรย์ แต่เป็นเพราะว่าการตรวจด้วยเอกซเรย์กระเป๋าสัมภาระของสนามบิน จะเน้นที่มีวัตถุอันตรายหรือสิ่งที่ผิดกฎหมายที่เป็นอาวุธ ไม่เน้นสิ่งที่ไม่เป็นอันตรายต่อกิจกรรมการบิน เช่น การตรวจหาช่อดอกกัญชา ที่ต้องดำเนินการอย่างรวดเร็วและใช้ทักษะความชำนาญในการวิเคราะห์ภาพเอกซเรย์ ซึ่งเรื่องที่กระทำได้ยาก เนื่องจากเป็นวัตถุที่เป็นดอกพืชชนิดหนึ่ง หากเจ้าหน้าที่ประจำเครื่องขาดประสบการณ์ หรือไม่ละเอียดพอ เข้าใจว่าอาจจะแปลความหมายภาพถ่ายจากเครื่องเอกซเรย์ไม่ชัดเจน ซึ่งในส่วนของท่าอากาศยานนานาชาติเกาะสมุย ด่านศุลกากรฯ ได้มีการฝึกอบรมและให้ความรู้อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นเมืองท่องเที่ยวและมีสายบินตรงจากต่างประเทศ

‘ไกด์ทัวร์-ลูกทัวร์’ หวิดติดคุกในญี่ปุ่น แค่หยิบกระเป๋าผิด-ดีที่สังหรณ์ใจ

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ก่อนหน้านี้ วันที่ 12-14 มี.ค. ตำรวจ สภ.บ่อผุด อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ร่วมกับด่านศุลกากรเกาะสมุย จับกุมชาวต่างชาติเตรียมขนกัญชา บรรจุในกระเป๋า จำนวน 16 ใบ น้ำหนักรวม 347 กก. ได้ในสนามบินเกาะสมุย ทั้งหมดเตรียมเดินทางไปต่างประเทศ

โดยเหตุแรกเกิดขึ้นวันที่ 12 มี.ค. เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำเครื่องเอกซเรย์กระเป๋าสัมภาระ แจ้งพบ วัตถุต้องสงสัยเป็นช่อดอกกัญชาในกระเป๋าของนักท่องเที่ยว 5 คน จำนวน 7 ใบ น้ำหนักรวม 144 กก. มีกำหนดเดินทางจากสนามบินสมุย ไปยังประเทศสิงคโปร์ และต่อเครื่องไปยังประเทศอังกฤษ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวมาสอบสวน พบว่ามี 4 คน เป็นนักท่องเที่ยวสัญชาติอังกฤษ รับสารภาพว่าได้มีชายไทยนำกระเป๋าเดินทางที่มีช่อดอกกัญชาบรรจุอยู่ในถุงสุญญากาศ มาให้เพื่อขนย้ายไปยังเมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยหากขนย้ายสำเร็จจะได้รับค่าขนย้ายดังกล่าวเป็นการปลดหนี้ หรือรับเป็นเงิน 2,000 ปอนด์สเตอริง ส่วนอีกรายสัญชาติ มาเลเซีย ขนย้ายไปยังประเทศสิงคโปร์ โดยหากขนย้ายสำเร็จจะได้รับค่าขนย้ายดังกล่าวเป็นเงินจำนวน 6,000 ริงกิต

วันที่ 13 มี.ค. ตรวจยึดกระเป๋าเดินทาง ภายในบรรจุช่อกัญชา รวม 7 ใบ น้ำหนักรวม 164.44 กก. ผู้ต้องหา 4 ราย เป็นนักท่องเที่ยวสัญชาติอังกฤษ และวันที่ 14 มีนาคม ตรวจยึดกระเป๋าบรรจุช่อกัญชา 2 ใบ น้ำหนักรวม 49.17 กก. แต่ไม่ได้ตัวผู้ต้องหา ตรวจสอบพบว่ากระเป๋าดังกล่าวเจ้าของเป็นนักท่องเที่ยวสัญชาติอังกฤษ

ต่อมาเมื่อวันที่ 14 มี.ค. ศาลจังหวัดเกาะสมุย ได้พิพากษาจำคุกผู้ต้องหาทั้ง 9 ราย เป็นชาวอังกฤษ 6 ราย, ชาวโรมาเนีย 1 ราย, มาเลเซีย 1 รายและเนเธอร์แลนด์ 1 ราย คนละ 4 เดือน โดยไม่รอลงอาญา ในข้อหาพยายามนำออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งสิ่งของที่ยังไม่ได้ผ่านพิธีการศุลการกรตามมาตรา 242 มาตรา 252 ประกอบมาตรา 166 และมาตรา 167 แห่งพ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 และความผิดมาตรา 78 ประกอบมาตรา 46 แห่งพ.ร.บ.คุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ.2543 ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องสมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ.2565 ประกาศลงวันที่ 11 พฤศจิกายน 2565ในความผิดฐานพยายามส่งออกไปนอกอาณาจักร

ข่าวรายงานด้วยว่าหลังเกิดเหตุมีการจับกุมผู้พยายามลักลอบนำดอกกัญชาออกนอกประเทศ ผ่านทางสนามบินในเมืองท่องเที่ยว ได้มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการตอกย้ำ ว่าแหล่งท่องเที่ยวของประเทศไทยคือสวรรค์ของนักเสพยาเสพติด โดยเฉพาะดอกกัญชา ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นดอกกัญชาที่ดีที่สุดในโลก รวมถึงสามารถซื้อและเสพได้อย่างเสรี.

ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊ก Heng On Tour