สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 16 มี.ค. ว่า ความเคลื่อนไหวของกระทรวงพลังงานสหรัฐ ถือเป็นการพลิกกลับแนวทางของรัฐบาลวอชิงตันในสมัยอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน ซึ่งจัดให้เกาหลีใต้อยู่ที่ระดับต่ำสุด ในรายชื่อกลุ่มประเทศอ่อนไหว เมื่อเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม กระทรวงพลังงานสหรัฐ ไม่ได้อธิบายถึงเหตุผลที่เกาหลีใต้ถูกเพิ่มลงในรายชื่อประเทศอ่อนไหว และไม่ได้ระบุว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ มีแนวโน้มที่จะยกเลิกมาตรการดังกล่าวหรือไม่ ขณะที่โฆษกกระทรวงพลังงานสหรัฐ กล่าวว่า รัฐบาลโซลไม่เผชิญกับข้อจำกัดใหม่ใด ๆ เกี่ยวกับความร่วมมือทวิภาคีในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ด้านสำนักข่าวยอนฮัปของเกาหลีใต้ รายงานว่า รัฐบาลโซลอยู่ระหว่างการเจรจากับรัฐบาลวอชิงตัน เพื่อแก้ไขปัญหาข้างต้น ก่อนที่การกำหนดให้เกาหลีใต้เป็นประเทศอ่อนไหว จะมีผลอย่างเป็นทางการในวันที่ 15 เม.ย. นี้

อนึ่ง รายชื่อกลุ่มประเทศอ่อนไหวของกระทรวงพลังงานสหรัฐ ประกอบด้วยจีน ไต้หวัน อิสราเอล รัสเซีย อิหร่าน และเกาหลีเหนือ โดยรัฐบาลเตหะราน และรัฐบาลเปียงยาง ถูกระบุว่าเป็น “ผู้ก่อการร้าย” ตามเอกสารปี 2560 ซึ่งโพสต์บนเว็บไซต์ของกระทรวง

เมื่อเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา นายโช แท-ยุล รมว.การต่างประเทศเกาหลีใต้ กล่าวว่า อาวุธนิวเคลียร์ “ยังอยู่ในการพิจารณา” แม้มันยังเร็วเกินไปที่จะพูดถึงแผนการดังกล่าว แต่เนื่องจากสถานการณ์ระหว่างประเทศ กำลังพัฒนาไปในทิศทางที่ไม่สามารถคาดเดาได้ สิ่งนี้จึงเป็นการตอบสนองตามหลักการที่เกาหลีใต้ต้องเตรียมพร้อม สำหรับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นทั้งหมด

กระนั้น นายแดริล คิมบอล ผู้อำนวยการบริหารของสมาคมควบคุมอาวุธ (เอซีเอ) เห็นด้วยกับการตัดสินใจของกระทรวงพลังงานสหรัฐ ซึ่งจะตัดโอกาสที่เกาหลีใต้จะขอการอนุมัติจากสหรัฐ ในการเสริมสมรรถนะ และการนำเชื้อเพลิงที่ใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่ เพื่อผลิตอาวุธนิวเคลียร์.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES