ล่วงมาถึงกลางเดือน มี.ค.แต่ยังติดอยู่ที่เกมต่อรองในเรื่องกรอบระยะเวลาการอภิปราย ที่ต่างฝ่ายต่างงัดกลยุทธ์ออกมาประลอง แม้ยังไม่ได้ขึ้นสู่สังเวียนเวทีสภาอย่างแท้จริง ตามที่ฝ่ายค้านงัดไม้เด็ดคือการล็อกเป้าซักฟอกไม่ไว้วางใจ “นายกฯอิ๊งค์” แต่เพียงผู้เดียว พร้อมพ่วงเอานายใหญ่ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้เป็นบิดา มาใส่ไว้ในญัตติฐานครอบงำการบริหารงานของรัฐบาลด้วย
จนถูก “ประธานวันนอร์”เบรกหัวทิ่มสั่งให้ลบชื่อ “ทักษิณ” ออกจากญัตติ ไม่ใช่นั้นจะไม่บรรจุวาระ เพราะเกรงการฟ้องร้องและตัวประธานจะถูกฟ้องเป็นคนแรก หลังทำท่าขึงขังหัวเด็ดตีนขาดอย่างไรก็จะไม่แก้ญัตติ ล่าสุดฝ่ายค้านยอมยื่นหมูยื่นแมว ขอเวลาซักฟอก 30 ชั่วโมง จากเดิมที่รัฐบาลจะให้แค่ 1 วัน แล้วจะยอมลบชื่อและแก้คำในญัตติให้ ซึ่งการถกตัวแทนวิป 3 ฝ่ายเมื่อวันที่ 14 มี.ค. เหมือนจะได้ข้อสรุปเพียงในซีกของฝ่ายค้าน แต่ฝ่ายรัฐบาลยังไม่ตกลง ทำให้ต้องเลื่อนการเจรจาออกไปเป็นวันที่ 19 มี.ค. จึงต้องรอติดตามว่าฝ่ายค้านจะได้ตามประสงค์หรือไม่
ฟาก “ทักษิณ”ได้จังหวะออกมาซัดฝ่ายค้านถึงกรณีที่มีชื่อในญัตติซักฟอกในทำนองว่า ทำไปเพื่ออะไร ตัวเองไม่ได้เป็น สส. ฝ่ายค้านหวังดิสเครดิตเพื่อวางแผนเลือกตั้งครั้งหน้า เหลืออีก 2 ปีขอให้ใจเย็นๆ อย่าเพิ่งรีบเลือกตั้ง ไม่ต้องหาเสียง พรรคคนรุ่นใหม่ต้องสร้างสรรค์ อย่าเป็นที่น่ารำคาญ หากทำอะไรที่น่ารำคาญ เดี๋ยวจะเสียไปอีกพรรค แถมยังเหน็บไปถึงผู้นำทางจิตวิญญาณชาวด้อมส้ม “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ”ผู้ก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งไปขลุกอยู่ที่ อบจ.ลำพูน ว่าได้มีการปรึกษาหากันหรือไม่ เมื่อถูกสื่อถามเรื่องที่ฝ่ายค้านระบุว่าเป็นนั่งร้านคอยอยู่ด้านหลังนายกฯ
ด้าน “เท้ง” สวนกลับนิ่มๆ ตามสไตล์ว่า “การที่พวกเราบรรจุชื่อคุณทักษิณเข้าไปในญัตติไม่ได้เกิดจากใครเลย เกิดจากการกระทำของตัวคุณทักษิณเองที่ต้องถูกตรวจสอบโดยฝ่ายนิติบัญญัติเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นายกรัฐมนตรีที่ปล่อยให้ผู้เป็นบิดาคอยชี้นำชักใยตัวเองในการบริหารราชการแผ่นดิน”
แว่วๆ มาว่าสำหรับคำที่ฝ่ายค้านจะแก้ในญัตติแทนชื่อ “ทักษิณ” นั้น เบื้องต้นมีการพูดคุยกันหลายเวอร์ชั่น เช่น “สทร.” ซึ่ง สส.ในพรรคหลายคนเห็นด้วย แต่ก็เกรงว่าจะทำให้เกิดการถกเถียงกันในที่ประชุมสภา จึงอาจจะใช้คำว่า “พ่อ” ซึ่งเป็นคำสุภาพเรียบๆ และมี สส.บางคนเสนอให้ใช้คำว่า “ชายคนนั้น” เป็นต้น ทั้งนี้ “ประธานวันนอร์” ออกมาไฟเขียวว่าไม่ติดในเรื่องนี้จะ สทร.ก็ได้ ไม่น่ามีปัญหา เพราะไม่ได้เอ่ยชื่อบุคคล
อย่างไรก็ตามแม้ศึกซักฟอกในสภาจะยังไม่เริ่ม แค่การวิวาทะตอบโต้กันไปมาของทั้ง 2 ฝ่าย แต่ก็ดูเหมือนจะเข้าทางฝ่ายค้านบ้างแล้ว นั่นคือการกระทุ้งให้ชาวบ้านได้เห็นว่าบิดานายกฯ ที่มีชื่อในญัตติ “สทร.” เหมือนอย่างที่เจ้าตัวพูดไว้เองหรือไม่.