กรณีคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ร้านค้าทองออโรร่า สาขาคลองสี่ ถนนไสวประชาราษฎร์ ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ก่อนกวาดทองหนัก 13 บาท มูลค่ากว่า 6 แสนบาท ขี่ จยย. หลบหนีลอยนวล เหตุเกิดพื้นที่ สภ.คูคต จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 14 มี.ค. ที่ผ่านมา ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ด่วน! คนร้ายถือปืนชิงทองคำ 13 บาท มูลค่ากว่าครึ่งล้านย่านปทุมธานี
ความคืบหน้า เมื่อช่วงเช้าวันที่ 16 มี.ค. พ.ต.อ.กานตภณ วรรณา ผกก.สภ.คูคต พร้อมด้วย พ.ต.ท.ศรฤทธิ์ สีคำ รอง ผกก.ป.สภ.คูคต พ.ต.ท.เสฏฐวุฒิ คำนามะ สว.สส.สภ.คูคต กำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนร่วมกันจับกุม นายศตวรรษ ปัญโญกิจ อายุ 36 ปี พร้อมของกลางรถจยย.ฮอนด้า จีออโน่ สีขาว ที่ใช้ก่อเหตุ ทองรูปพรรณบางส่วน โดยจับกุมได้ที่หน้าร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.คลองสี่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี

พ.ต.อ.กานตภณ เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้ที่สามารถจับกุมได้รวดเร็วเพราะภายหลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1 ได้เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุและระดมทีมสอบสวนเร่งติดตามจับกุมคนร้ายอย่างเร่งด่วน โดยตรวจสอบกล้องวงจรปิดคนร้ายขี่รถจยย.วนไปมาในหลายพื้นที่ในเขต จ.ปทุมธานี เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ แต่เจ้าหน้าที่ได้ไล่ตรวจสอบอย่างละเอียดจนพบว่าอาศัยอยู่ในพื้นที่ ต.คลองสี่ อ.คลองหลวง จึงส่งกำลังไปตรวจสอบเฝ้าระวังกระทั่งพบตัวหน้าร้านสะดวกซื้อ และจับกุมดังกล่าว

ผกก.คูคต เผยอีกว่า จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหายอมรับว่า มีการขับรถวนดูร้านค้าทองหลายแห่ง ทั้งในพื้นที่ อ.คลองหลวง และอ.ลำลูกกา แต่พบว่าหลายร้านมีมาตรการป้องกันที่เข้มแข็งทำให้ไม่สามารถก่อเหตุได้ และสุดท้ายมาเลือกร้านนี้เพราะไม่มีลูกกรงนิรภัย ประกอบกับฟิล์มหน้าร้านเป็นสีดำจึงลงมือทันที สำหรับอาวุธปืนที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างพาผู้ต้องหาไปชี้จุด ทั้งนี้จึงได้ประสานพูดคุยกับผู้ประกอบการร้านทอง เพื่อย้ำถึงมาตรการป้องกันอีกครั้ง เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีก

สอบสวนนายศตวรรษ ให้การรับสารภาพว่า ที่ก่อเหตุเพราะติดหนี้การพนันออนไลน์ เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาชิงทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด การพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม ก่อนนำตัวพร้อมของกลางส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป