สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 16 มี.ค. ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ กล่าวว่า สั่งการให้กองทัพปฏิบัติการโจมตีอย่างหนักหน่วง เพื่อโจมตีเป้าหมายหลายแห่งที่เกี่ยวข้องกับกองกำลังฮูตีในเยเมน โดยเน้นไปที่ฐานทัพ ฐานยิงขีปนาวุธ และแหล่งกบดานของบรรดาแกนนำนักรบฮูตี
ทั้งนี้ ทรัมป์กล่าวว่า รัฐบาลวอชิงตันชุดก่อนหน้าของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ใข้นโยบายกับกลุ่มฮูตี “อ่อนแอเกินไป” ทำให้อีกฝ่ายยังคงโจมตีเรือบรรทุกสินค้าของสหรัฐและพันธมิตร ที่แล่นผ่านทะเลแดงและอ่าวเอเดน
ขณะที่ศูนย์บัญชาการภูมิภาคกลางของกองทัพสหรัฐ ( เซนต์คอม ) ออกแถลงการณ์ เรือบรรทุกเครื่องบินพลังงานนิวเคลียร์ แฮร์รี เอส. ทรูแมน เป็นผู้นำปฏิบัติการโจมตีเป้าหมายอย่างจำเพาะเจาะจงในเยเมน โดยมีการยิงขีปนาวุธออกจากเรือ และการส่งเครื่องบินขับไล่หลายลำ ปฏิบัติการทิ้งระเบิดโจมตีเป้าหมาย
ด้านสำนักข่าวอันซาโรลเลาะห์ของกลุ่มฮูตีรายงาน ว่าผลจากการโจมตีดังกล่าวของสหรัฐ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกหลายสิบคน โดยการโจมตีเกิดขึ้นอย่างหนักหน่วง ที่กรุงซานา และภูมิภาคซาดา ที่อยู่ทางตอนเหนือของประเทศ
ย้อนกลับไปเมื่อต้นปีนี้ ทรัมป์ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหาร ประกาศให้กองกำลังฮูตีซึ่งมีฐานที่มั่นอยู่ในเยเมน มีสถานะเป็น “องค์กรก่อการร้ายต่างประเทศ” อีกครั้ง
ความเคลื่อนไหวดังกล่าว ถือเป็นการนำชื่อของกลุ่มฮูตี กลับเข้าสู่บัญชีดำของสหรัฐอีกครั้ง โดยทรัมป์เคยมีคำสั่งแบบเดียวกันมาแล้ว เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรก แต่ไบเดนถอนชื่อกลุ่มฮูตีออก เมื่อปี 2564 เพื่อตอบสนองต่อการเรียกร้องของหน่วยงานบรรเทาทุกข์หลายแห่ง ว่าการยังให้กลุ่มฮูตีเป็นกลุ่มก่อการร้าย จะทำให้การมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ชาวเยเมน เป็นไปอย่างยากลำบาก
แม้ไบเดนประกาศให้กลุ่มฮูตีมีสถานะเป็นกลุ่มก่อการร้ายอีกครั้ง จากการก่อเหตุโจมตีเรือบรรทุกสินค้าในทะเลแดงและอ่าวเอเดน พร้อมทั้งข่มขู่จะโจมตีเรือบรรทุกสินค้าของสหรัฐและพันธมิตรด้วย เมื่อสงครามในฉนวนกาซาปะทุ เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2566 แต่ใช้คำทางกฎหมายในระดับที่เบาบางกว่ามาก.
เครดิตภาพ : AFP