ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจจะเกิดขึ้นในปลายเดือนนี้อย่างแน่นอน โดยเป้าหลักของฝ่ายค้านต้องการทำลายความน่าเชื่อถือของ ‘นายกฯ’ พร้อมโยงไปถึง ‘พ่อ’ ‘นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ’ ในฐานะผู้บงการและครอบงำรัฐบาล รวมถึงอาจพาดพิงไปที่รัฐมนตรีหลายคนที่ล้มเหลวในการทำงานหรือการส่อทุจริต

ซึ่งต้องดูว่า‘นายกฯ’จะชี้แจงผ่านศึกนี้ได้อย่างไร ส่วนการลงมติก็ไม่น่ามีความกังวลเพราะพรรคร่วมรัฐบาลต่างๆพร้อมยกมือโหวตสนับสนุน ‘นายกฯอิ๊งค์’ อย่างท่วมท้น รวมถึงต้องจับตาว่ามีงูเห่าจากฝ่ายค้านมายกมือให้รัฐบาลหรือไม่

แต่สิ่งที่น่าจับตาหลังจากศึกซักฟอกในช่วงเดือนเม.ย.ที่จะครบรอบ 6 เดือน ‘รัฐบาลแพทองธาร 1’ และถึงรอบการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตามสไตล์นายใหญ่ ซึ่งเชื่อว่า ขณะนี้หากมีการปรับก็จะเป็นการปรับภายในของพรรคตัวเอง ในส่วนของ ‘พรรคเพื่อไทย’ มีหลายคนโดนถล่มและถูกถามหาผลงานไม่ว่าจะเป็น ‘นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์’ หลังถูกคนในพรรคเขย่าเหตุไม่สามารถแก้ปัญหาราคาสินค้าเกษตรได้ แต่กล้าแนะนำให้เปลี่ยนจากปลูกข้าวไปปลูกกล้วย หรือรวมถึงรมต.ที่คาดว่าไม่ได้ไปต่อเพราะหมดโปรโมชั่นเพื่อให้คนอื่นสลับปรับเปลี่ยนแทน อาทิ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ, น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกฯ, น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ที่อาจจะครบเวลาสัญญาต่างตอบแทน ขณะที่พรรครวมไทยสร้างชาติอาจใช้จังหวะนี้ปรับ ‘เสี่ยเฮ้ง นายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์’ หลังเจอมรสุมเรื่องกรรมเก่าสมัยเป็นรัฐมนตรีแรงงานที่พรรคส้มถล่มรายวันเรื่องซื้อตึกย่านพระราม9 ที่เป็นประเด็นดังในขณะนี้

ขณะที่พรรคน้ำเงินก็คงจะไม่ขยับตามสไตล์หลัง ‘นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.มหาดไทยในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย’ ที่มีเครือข่ายส.ว.สีน้ำเงินหนุนหลัง ออกมายืนยันว่าไม่ปรับคนและไม่สลับโควต้าเก้าอี้กับพรรคอื่น เช่นเดียวกับพรรคกล้าธรรม นำโดย ‘นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะหัวหน้าพรรคกล้าธรรม’ ที่แอบยิ้มกริ่มคงไม่ได้ปรับเช่นกันหลังก่อนหน้านี้มีกระแสข่าว ‘ผู้กองธรรมนัส ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคกล้าทำ’ เตรียมรีเทิร์นนั่งเก้าอี้รมว.เกษตรฯ

แต่สาเหตุที่ไม่สามารถกลับมาได้หลังวันที่ 12 มี.ค.ที่ผ่านมาศาลรัฐธรรมนูญไม่รับวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับประเด็นความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์และไม่มีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงฯลฯ หลัง ‘นายกฯอิ๊งค์ ’มอบหมายให้ ‘นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายรัฐมนตรี’ ในฐานะมือกฎหมายของรัฐบาลเป็นผู้ยื่นเรื่องดังกล่าว

จึงถือเป็นไฟต์บังคับว่าหากมีการปรับครม.จะต้องใช้มาตรฐานเข้มข้น อย่างเช่นครม.แพทองธาร1 ที่มอบหมายให้กฤษฎีกาเป็นเจ้าภาพหลักในการแสกนยิบไม่ให้ซ้ำรอยรัฐบาล ‘เศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ’ ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสินไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตและผิดมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงในการตั้ง ‘นายพิชิต ชื่นบาน เป็นรมต.’

สอดรับกับที่ ‘นายกฯอิ๊งค์’ ให้สัมภาษณ์ยืนยันว่า คงจะใช้มาตรฐานเข้มข้นเหมือนครม.แพทองธาร1เพื่อป้องกันเหตุการณ์ซ้ำรอยอีก

ถือเป็นการใช้เหลี่ยมทางการเมืองชั้นเซียนยืมมือศาลรัฐธรรมนูญเป็นกันชนและลดแรงปะทะมาที่ ‘นายกฯอิ๊งค์’ โดยตรง

ฉะนั้นก่อนหน้านี้ใครที่เคยปรามาสนายกฯว่าอ่อนพรรษาทางการเมืองต้องกลับไปคิดเสียใหม่หากไม่เชื่อก็ไปถามร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.บัญชีรายชื่อที่หมดบทบาทในพรรคเพื่อไทย ขณะที่ลูกชายสุดที่รักก็ต้องหนีไปอยู่ในป่ากับ ‘ลุงป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ’ แบบเหงาๆ