เมื่อวันที่ 15 มี.ค. ท่าอากาศยานสุวรณภูมิ(ทสภ.) แจ้งว่า ทสภ. ได้ตรวจสอบกรณีที่มีผู้โดยสารชาวไทยเดินทางจากท่าอากาศยานสุราษฎร์ธานี มายัง ทสภ. และได้เดินทางต่อไปยังประเทศญี่ปุ่น โดยเมื่อถึงท่าอากาศยาน ที่ประเทศญี่ปุ่น ผู้โดยสารพบว่ากระเป๋าใบดังกล่าวไม่ใช่ของตนเอง และเมื่อเปิดกระเป๋าแล้วพบกัญชาบรรจุอยู่ภายใน จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ศุลกากรที่สนามบินส่งผลให้ผู้โดยสารเกิดปัญหาในการผ่านขั้นตอนการเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นแล้ว โดยพบว่า ผลการตรวจสอบตามมาตรการรักษาความปลอดภัยสัมภาระใบดังกล่าว อยู่ในสถานะ “Clear” คือ ไม่พบสารระเบิด สัมภาระใบดังกล่าวจึงผ่านการตรวจสอบ และนำบรรทุกขึ้นอากาศยานต่อไป ทั้งนี้จากการตรวจสอบสัมภาระใบดังกล่าว พบชื่อเจ้าของสัมภาระเป็นผู้โดยสารชาวต่างชาติ เบื้องต้นได้มาแสดงตน และติดตามสัมภาระใบดังกล่าวกับสายการบินที่เดินทางมาจากสุราษฎร์ธานีแล้ว

สำหรับการดำเนินการตรวจค้นสัมภาระที่บรรทุกไปกับอากาศยาน หรือสัมภาระลงทะเบียน ตามกฎหมาย และกฎ ระเบียบ และ ข้อกำหนดของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย(กพท.) เพื่อป้องกันการนำอาวุธ วัตถุระเบิดหรือวัตถุที่อาจเป็นเหตุให้เกิดการก่อการร้ายต่ออากาศยาน ทาง ทสภ. ได้ติดตั้งเครื่องตรวจวัตถุระเบิด (EDS) ในระบบ
การตรวจสอบกระเป๋าสัมภาระโหลดใต้ท้องเครื่อง (Hold Baggage Screening System) ที่ถูกออกแบบตามมาตรฐาน ของ Transportation Security Administration (TSA) ของสหรัฐอเมริกา และ European Civil Aviation Conference (ECAC) ของสหภาพยุโรป และได้รับความเห็นชอบจาก กพท. รวมทั้งผ่านการตรวจสอบจากหน่วยงานตรวจสอบทั้งในและนอกประเทศ

ทั้งนี้ ทสภ. ได้ประชาสัมพันธ์แก่ผู้เดินทางบริเวณเคาน์เตอร์เช็กอิน แนะนำให้ผู้โดยสารตรวจสอบกฎหมายของประเทศปลายทางในการนำกัญชาเดินทางไปยังประเทศต่างๆ เนื่องจากหลายประเทศยังคงกำหนดให้กัญชาเป็นสิ่งผิดกฎหมาย อาจนำไปสู่การถูกดำเนินคดีตามกฎหมายของแต่ละประเทศ อย่างไรก็ตามตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาทสภ. ได้ให้ความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส) ภายใต้โครงการสกัดกั้นยาเสพติดผ่านท่าอากาศยาน (Airport Interdiction Task Force : AITF) โดยการปฏิบัติงานจากการได้รับการข่าว
ทั้งให้การสนับสนุนข้อมูล การดำเนินการตรวจสอบร่วม ตลอดจนการเฝ้าระวัง และติดตามผู้ต้องสงสัยร่วมกัน นอกจากนี้โครงการดังกล่าวยังประกอบด้วย กรมศุลกากร และกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ที่มีบทบาทสำคัญในการให้การสนับสนุนโครงการด้วย ทั้งนี้ยืนยันว่า ทสภ.ดำเนินการด้านการรักษาความปลอดภัย ตลอดจนการตรวจสอบสัมภาระตามแนวทางที่กำหนด โดยเน้นย้ำการปฏิบัติให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารและอากาศยานเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด.